บริษัทอนิเมชั่นเป็นประเด็น เพราะจ้างผู้พิการมาเป็นอนิเมเตอร์ค่าจ้างถูก
[/p]
[b]CEO ของ Shake Hands บอกว่าบริษัทส่งเสริมการจ้างงานนั้นมักจะให้ผู้พิการไปทำงานเกษตรกรรมหรืองานที่ใช้แรงอื่น ๆ ซึ่งมีค่าตอบแทนต่ำมาก เขาจึงคิดหาธุรกิจที่ทำให้ผู้พิการสามารถทำได้ ให้ค่าตอบแทนดีกว่า และสามารถขยายรับงานจากต่างประเทศได้ ซึ่งเขาสังเกตว่าผู้พิการฯ นั้นมีทักษะในการวาดรูป จึงให้บริษัทที่สร้างอนิเมะลองประเมินผลงานดู พบว่าน่าพอใจจึงเริ่มรับงานอนิเมชั่นมาแจกจ่ายให้ผู้พิการฯ ได้ทำ[/b]
โดย Shake Hands นั้นนอกจากจะจัดหาสถานที่เพื่อให้พนักงานผู้พิการนั้นสามารถทำงานได้อย่างไม่อึดอัดแล้ว ยังช่วยอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ด้วย และช่วยเตือนเป็นระยะ ๆ เพื่อให้บางคนที่มีสมาธิใจจดใจจ่อมากเกินไปพักผ่อนบ้าง จึงเป็นที่ชื่นชมของผู้ใช้โซเชียลที่ได้อ่านเรื่องราวนี้
แต่ในทางกลับกันก็มีบางคนที่รู้สึกว่าเรื่องนี้อาจไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างที่คิด เพราะอุตสาหกรรมอนิเมชั่นขึ้นชื่อในเรื่องความเอารัดเอาเปรียบ งานหนักแต่ค่าตอบแทนต่ำมาก สำหรับคนปกติก็ว่าแย่แล้ว ผู้พิการฯ อาจโดนกดหนักยิ่งกว่า แม้ CEO จะคุยว่าสามารถเพิ่มรายได้ต่อเดือนจาก 1 หมื่นเยนเป็น 1 แสนเยนได้ แต่ก็ยังถือว่าน้อยเอามาก ๆ เทียบไม่ได้เลยกับค่าจ้างคนปกติ หนำซ้ำงานวาดยังถือเป็นงานที่ใช้ทักษะด้วย จึงไม่ควรจะต่ำขนาดนี้
ประเด็นหนึ่งที่บางคนหยิบยกขึ้นมาคือ Shake Hands นั้นเป็นบริษัทส่งเสริมการจ้างงานจึงไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายบางข้อเหมืนอบริษัทปกติ เช่น ไม่ต้องคิดและจ่ายค่าจ้างเป็นรายชั่วโมงหรือไม่ต้องทำสัญญาจ้างงานผู้พิการฯ เหมือนพนักงานปกติ เป็นต้น ซึ่งอาจเป็นช่องทางให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบได้
บริษัทอนิเมชั่นเป็นประเด็น เพราะจ้างผู้พิการมาเป็นอนิเมเตอร์ค่าจ้างถูก
บริษัทอนิเมชั่นเป็นประเด็น เพราะจ้างผู้พิการมาเป็นอนิเมเตอร์ค่าจ้างถูกบริษัทอนิเมชั่นเป็นประเด็น เพราะจ้างผู้พิการมาเป็นอนิเมเตอร์ค่าจ้างถูก![[/p]
[b]มีบริษัทส่งเสริมการจ้างงานแห่งหนึ่งในกรุงเกียวโตชื่อว่า Shake Hands Sanjo Karasuma กลายเป็นประเด็นถกเถียงไปเมื่อเร็ว ๆ นี้เพราะมีรายงานว่าบริษัทนี้ได้ช่วยเหลือผู้มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญา จ้างมาทำงานเป็นอนิเมเตอร์ให้กับโปรเจกต์อนิเมะเรื่องดังต่าง ๆ แต่กลายเป็นประเด็นเพราะให้ค่าจ้างค่อนข้างต่ำ จนถูกสงสัยว่าจริงใจแน่หรือเปล่า[/b]
รายงานของหนังสือพิมพ์ Mainichi Shimbun กล่าวว่าบริษัทแห่งนี้ได้ให้บุคคล 10 คนในวัย 20-30 ซึ่งมีภาวะบกพร่องทางสติปัญญามาทำงานเป็นอนิเมเตอร์ทำอนิเมชั่นแบบดิจิทัล รับงานจากทั้งในและต่างประเทศ มีผลงานดัง ๆ เช่นเรื่อง Chiikawa และ Spy x Family เป็นต้น
โดยบริษัทตั้งเป้าไว้ว่าจะสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ผู้พิการทางสติปัญญาแต่ใส่ใจในรายละเอียดและมีความสร้างสรรค์สามารถแสดงออกได้อย่างสรรค์ด้วยการวาดอนิเมชั่น เป็นการลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำและการแบ่งแยกผู้พิการฯ ให้น้อยลง
บริษัทอนิเมชั่นเป็นประเด็น เพราะจ้างผู้พิการมาเป็นอนิเมเตอร์ค่าจ้างถูก]([/p
[b
รายงานของหนังสือพิมพ์ Mainichi Shimbun กล่าวว่าบริษัทแห่งนี้ได้ให้บุคคล 10 คนในวัย 20-30 ซึ่งมีภาวะบกพร่องทางสติปัญญามาทำงานเป็นอนิเมเตอร์ทำอนิเมชั่นแบบดิจิทัล รับงานจากทั้งในและต่างประเทศ มีผลงานดัง ๆ เช่นเรื่อง Chiikawa และ Spy x Family เป็นต้น
โดยบริษัทตั้งเป้าไว้ว่าจะสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ผู้พิการทางสติปัญญาแต่ใส่ใจในรายละเอียดและมีความสร้างสรรค์สามารถแสดงออกได้อย่างสรรค์ด้วยการวาดอนิเมชั่น เป็นการลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำและการแบ่งแยกผู้พิการฯ ให้น้อยลง
/images/upload/2023-10-16-144-1-05.2.jpg)
บริษัทอนิเมชั่นเป็นประเด็น เพราะจ้างผู้พิการมาเป็นอนิเมเตอร์ค่าจ้างถูก[/p] [b]มีบริษัทส่งเสริมการจ้างงานแห่งหนึ่งในกรุงเกียวโตชื่อว่า Shake Hands Sanjo Karasuma กลายเป็นประเด็นถกเถียงไปเมื่อเร็ว ๆ นี้เพราะมีรายงานว่าบริษัทนี้ได้ช่วยเหลือผู้มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญา จ้างมาทำงานเป็นอนิเมเตอร์ให้กับโปรเจกต์อนิเมะเรื่องดังต่าง ๆ แต่กลายเป็นประเด็นเพราะให้ค่าจ้างค่อนข้างต่ำ จนถูกสงสัยว่าจริงใจแน่หรือเปล่า[/b] รายงานของหนังสือพิมพ์ Mainichi Shimbun กล่าวว่าบริษัทแห่งนี้ได้ให้บุคคล 10 คนในวัย 20-30 ซึ่งมีภาวะบกพร่องทางสติปัญญามาทำงานเป็นอนิเมเตอร์ทำอนิเมชั่นแบบดิจิทัล รับงานจากทั้งในและต่างประเทศ มีผลงานดัง ๆ เช่นเรื่อง Chiikawa และ Spy x Family เป็นต้น โดยบริษัทตั้งเป้าไว้ว่าจะสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ผู้พิการทางสติปัญญาแต่ใส่ใจในรายละเอียดและมีความสร้างสรรค์สามารถแสดงออกได้อย่างสรรค์ด้วยการวาดอนิเมชั่น เป็นการลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำและการแบ่งแยกผู้พิการฯ ให้น้อยลง บริษัทอนิเมชั่นเป็นประเด็น เพราะจ้างผู้พิการมาเป็นอนิเมเตอร์ค่าจ้างถูก![[/p]
[b]CEO ของ Shake Hands บอกว่าบริษัทส่งเสริมการจ้างงานนั้นมักจะให้ผู้พิการไปทำงานเกษตรกรรมหรืองานที่ใช้แรงอื่น ๆ ซึ่งมีค่าตอบแทนต่ำมาก เขาจึงคิดหาธุรกิจที่ทำให้ผู้พิการสามารถทำได้ ให้ค่าตอบแทนดีกว่า และสามารถขยายรับงานจากต่างประเทศได้ ซึ่งเขาสังเกตว่าผู้พิการฯ นั้นมีทักษะในการวาดรูป จึงให้บริษัทที่สร้างอนิเมะลองประเมินผลงานดู พบว่าน่าพอใจจึงเริ่มรับงานอนิเมชั่นมาแจกจ่ายให้ผู้พิการฯ ได้ทำ[/b]
โดย Shake Hands นั้นนอกจากจะจัดหาสถานที่เพื่อให้พนักงานผู้พิการนั้นสามารถทำงานได้อย่างไม่อึดอัดแล้ว ยังช่วยอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ด้วย และช่วยเตือนเป็นระยะ ๆ เพื่อให้บางคนที่มีสมาธิใจจดใจจ่อมากเกินไปพักผ่อนบ้าง จึงเป็นที่ชื่นชมของผู้ใช้โซเชียลที่ได้อ่านเรื่องราวนี้
แต่ในทางกลับกันก็มีบางคนที่รู้สึกว่าเรื่องนี้อาจไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างที่คิด เพราะอุตสาหกรรมอนิเมชั่นขึ้นชื่อในเรื่องความเอารัดเอาเปรียบ งานหนักแต่ค่าตอบแทนต่ำมาก สำหรับคนปกติก็ว่าแย่แล้ว ผู้พิการฯ อาจโดนกดหนักยิ่งกว่า แม้ CEO จะคุยว่าสามารถเพิ่มรายได้ต่อเดือนจาก 1 หมื่นเยนเป็น 1 แสนเยนได้ แต่ก็ยังถือว่าน้อยเอามาก ๆ เทียบไม่ได้เลยกับค่าจ้างคนปกติ หนำซ้ำงานวาดยังถือเป็นงานที่ใช้ทักษะด้วย จึงไม่ควรจะต่ำขนาดนี้
ประเด็นหนึ่งที่บางคนหยิบยกขึ้นมาคือ Shake Hands นั้นเป็นบริษัทส่งเสริมการจ้างงานจึงไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายบางข้อเหมืนอบริษัทปกติ เช่น ไม่ต้องคิดและจ่ายค่าจ้างเป็นรายชั่วโมงหรือไม่ต้องทำสัญญาจ้างงานผู้พิการฯ เหมือนพนักงานปกติ เป็นต้น ซึ่งอาจเป็นช่องทางให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบได้
บริษัทอนิเมชั่นเป็นประเด็น เพราะจ้างผู้พิการมาเป็นอนิเมเตอร์ค่าจ้างถูก]([/p
[b
โดย Shake Hands นั้นนอกจากจะจัดหาสถานที่เพื่อให้พนักงานผู้พิการนั้นสามารถทำงานได้อย่างไม่อึดอัดแล้ว ยังช่วยอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ด้วย และช่วยเตือนเป็นระยะ ๆ เพื่อให้บางคนที่มีสมาธิใจจดใจจ่อมากเกินไปพักผ่อนบ้าง จึงเป็นที่ชื่นชมของผู้ใช้โซเชียลที่ได้อ่านเรื่องราวนี้
แต่ในทางกลับกันก็มีบางคนที่รู้สึกว่าเรื่องนี้อาจไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างที่คิด เพราะอุตสาหกรรมอนิเมชั่นขึ้นชื่อในเรื่องความเอารัดเอาเปรียบ งานหนักแต่ค่าตอบแทนต่ำมาก สำหรับคนปกติก็ว่าแย่แล้ว ผู้พิการฯ อาจโดนกดหนักยิ่งกว่า แม้ CEO จะคุยว่าสามารถเพิ่มรายได้ต่อเดือนจาก 1 หมื่นเยนเป็น 1 แสนเยนได้ แต่ก็ยังถือว่าน้อยเอามาก ๆ เทียบไม่ได้เลยกับค่าจ้างคนปกติ หนำซ้ำงานวาดยังถือเป็นงานที่ใช้ทักษะด้วย จึงไม่ควรจะต่ำขนาดนี้
ประเด็นหนึ่งที่บางคนหยิบยกขึ้นมาคือ Shake Hands นั้นเป็นบริษัทส่งเสริมการจ้างงานจึงไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายบางข้อเหมืนอบริษัทปกติ เช่น ไม่ต้องคิดและจ่ายค่าจ้างเป็นรายชั่วโมงหรือไม่ต้องทำสัญญาจ้างงานผู้พิการฯ เหมือนพนักงานปกติ เป็นต้น ซึ่งอาจเป็นช่องทางให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบได้
/images/upload/2023-10-16-144-2-05.3.jpg)
บริษัทอนิเมชั่นเป็นประเด็น เพราะจ้างผู้พิการมาเป็นอนิเมเตอร์ค่าจ้างถูก[/p] [b]CEO ของ Shake Hands บอกว่าบริษัทส่งเสริมการจ้างงานนั้นมักจะให้ผู้พิการไปทำงานเกษตรกรรมหรืองานที่ใช้แรงอื่น ๆ ซึ่งมีค่าตอบแทนต่ำมาก เขาจึงคิดหาธุรกิจที่ทำให้ผู้พิการสามารถทำได้ ให้ค่าตอบแทนดีกว่า และสามารถขยายรับงานจากต่างประเทศได้ ซึ่งเขาสังเกตว่าผู้พิการฯ นั้นมีทักษะในการวาดรูป จึงให้บริษัทที่สร้างอนิเมะลองประเมินผลงานดู พบว่าน่าพอใจจึงเริ่มรับงานอนิเมชั่นมาแจกจ่ายให้ผู้พิการฯ ได้ทำ[/b] โดย Shake Hands นั้นนอกจากจะจัดหาสถานที่เพื่อให้พนักงานผู้พิการนั้นสามารถทำงานได้อย่างไม่อึดอัดแล้ว ยังช่วยอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ด้วย และช่วยเตือนเป็นระยะ ๆ เพื่อให้บางคนที่มีสมาธิใจจดใจจ่อมากเกินไปพักผ่อนบ้าง จึงเป็นที่ชื่นชมของผู้ใช้โซเชียลที่ได้อ่านเรื่องราวนี้ แต่ในทางกลับกันก็มีบางคนที่รู้สึกว่าเรื่องนี้อาจไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างที่คิด เพราะอุตสาหกรรมอนิเมชั่นขึ้นชื่อในเรื่องความเอารัดเอาเปรียบ งานหนักแต่ค่าตอบแทนต่ำมาก สำหรับคนปกติก็ว่าแย่แล้ว ผู้พิการฯ อาจโดนกดหนักยิ่งกว่า แม้ CEO จะคุยว่าสามารถเพิ่มรายได้ต่อเดือนจาก 1 หมื่นเยนเป็น 1 แสนเยนได้ แต่ก็ยังถือว่าน้อยเอามาก ๆ เทียบไม่ได้เลยกับค่าจ้างคนปกติ หนำซ้ำงานวาดยังถือเป็นงานที่ใช้ทักษะด้วย จึงไม่ควรจะต่ำขนาดนี้ ประเด็นหนึ่งที่บางคนหยิบยกขึ้นมาคือ Shake Hands นั้นเป็นบริษัทส่งเสริมการจ้างงานจึงไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายบางข้อเหมืนอบริษัทปกติ เช่น ไม่ต้องคิดและจ่ายค่าจ้างเป็นรายชั่วโมงหรือไม่ต้องทำสัญญาจ้างงานผู้พิการฯ เหมือนพนักงานปกติ เป็นต้น ซึ่งอาจเป็นช่องทางให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบได้ บริษัทอนิเมชั่นเป็นประเด็น เพราะจ้างผู้พิการมาเป็นอนิเมเตอร์ค่าจ้างถูก