สไลด์โชว์ สุดรันทดซ้ำ! สองตายายพะเยาตาบอดทั้งคู่โรครุมไม่พอ หลานทาสยาขออยู่ด้วยคลั่งทำลายบ้านพังยับ

สุดรันทดซ้ำ! สองตายายพะเยาตาบอดทั้งคู่โรครุมไม่พอ หลานทาสยาขออยู่ด้วยคลั่งทำลายบ้านพังยับ

[/p] [b]พะเยา - สองตา-ยายชาวพะเยาวอนหน่วยงานรัฐ/คนใจบุญช่วยเหลือ..เผยพิการตาบอดกันทั้งคู่-ป่วยโรครุมไม่พอ บ้านที่เคยถูกไฟไหม้แล้วชาวบ้าน-ราชการช่วยสร้างให้อยู่ ถูกหลานชายทาสยานรกคลั่งทำลายเสียหายจนอยู่ไม่ได้ ต้องระเห็จไปขออาศัยบ้านญาติแทน[/b] เรื่องราวอุทาหรณ์ทาสยาเสพติดที่ส่งผลกระทบทั้งครอบครัว-สังคม เกิดขึ้นกับสองตา-ยายพิการตาบอด ซึ่งมีชื่อตามทะเบียนอยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 7 ต.ปิน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา คือ ยายเจนจิรา วงศ์จักรแก้ว อายุ 72 ปี ตาบอดทั้งสองข้าง และสามีก็ตาบอดเช่นกัน รวมทั้งยังมีโรคประจำตัวอยู่ด้วย แต่ขณะนี้ต้องไปอาศัยบ้านญาติพักพิง เนื่องจากบ้านที่ชาวบ้านช่วยสร้างให้ถูกหลานชายคลั่งยาเสพติดทุบพังจนเสียหายอยู่ไม่ได้ต้องไปอาศัยบ้านญาติ วอนผู้ใจบุญยื่นมือช่วยเหลือเร่งด่วน ล่าสุดคืนวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา นายจันทร์ วงศ์จักรแก้ว อายุ 64 ปี สามีป่วยชักต้องเข้ารักษาตัวที่ รพ.ดอกคำใต้ อีกด้วย สุดรันทดซ้ำ! สองตายายพะเยาตาบอดทั้งคู่โรครุมไม่พอ หลานทาสยาขออยู่ด้วยคลั่งทำลายบ้านพังยับ

[/p] [b]จากการเดินทางไปดูบ้านยายเจนจิรา วงศ์จักรแก้ว ที่พิการตาบอดทั้งสองข้าง เป็นบ้านชั้นเดียวอยู่กลางทุ่งนาที่ชาวบ้านและหน่วยงานมาช่วยสร้างให้เมื่อหลายปีก่อน สภาพ ณ ปัจจุบันไม่มีประตู มีเพียงไม้แผ่นตีปิดกั้นไว้[/b] เมื่อมุดลอดเข้าไปดูในบ้านพบว่าประตูทุกบานรวม 5 บานถูกยกออกและใช้ไม้ตีปิดแทน ข้าวของพังเสียหายทุกอย่าง ไฟฟ้า-น้ำประปาถูกตัดหมด สภาพเหมือนบ้านร้างเนื่องจากถูกหลานชายตัวเองทุบทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี โดยตอนนี้ยายเจนจิรา และสามีได้ย้ายไปอาศัยอยู่กับญาติอีกหมู่บ้าน [b]ยายเจนจิราเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนหน้านั้นบ้านตัวเองที่อยู่กันสองคนกับสามี ตาบอดทั้งคู่ ถูกไฟไหม้ หลังจากนั้นชาวบ้านและหน่วยงานราชการจึงได้เข้ามาช่วยสร้างบ้านให้บริเวณกลางทุ่งนาของญาติ ต่อมาหลานชายเข้ามาขออยู่อาศัยด้วย ตนและสามีก็ให้อยู่[/b] สุดรันทดซ้ำ! สองตายายพะเยาตาบอดทั้งคู่โรครุมไม่พอ หลานทาสยาขออยู่ด้วยคลั่งทำลายบ้านพังยับ