หมอเตือน "กินหมูดิบ" ถึงพิการถาวร หนักสุดถึงตาย รีบบอกต่อคนรักท่าน
[/p]
[b]สคร.9 เตือนประชาชน อย่ากินหมูดิบ หรือลาบเลือดดิบ ๆ เสี่ยงโรคไข้หูดับ อาจทำให้สูญเสียการได้ยินหรือที่เรียกว่าหูดับ จนถึงขั้นหูหนวกถาวรได้[/b]
ในช่วงนี้พบผู้ป่วยโรคไข้หูดับทั้งจากการกินหมูดิบ ลาบเลือดดิบ ก้อยดิบ และดื่มสุราร่วมกับการ กินอาหารสุกๆดิบๆ รวมไปถึงพ่อครัวแม่ครัว ผู้ปรุงอาหารที่มีบาดแผลแล้วไปสัมผัสเนื้อหมูหรือเลือดหมูดิบๆ ที่มีเชื้อ ทำให้เสี่ยงติดเชื้อโรคไข้หูดับได้
[b]สคร.9 เตือนประชาชน อย่ากินหมูดิบ หรือลาบเลือดดิบๆ รวมไปถึงอาหารปิ้งย่าง ควรมีอุปกรณ์คีบเนื้อหมูสุกและเนื้อหมูดิบแยกจากกัน ไม่ควรใช้ตะเกียบคีบหมูดิบ แล้วนำมารับประทาน เพราะหากติดเชื้อโรคไข้หูดับแล้วอาจทำให้สูญเสียการได้ยินหรือที่เรียกว่าหูดับ จนถึงขั้นหูหนวกถาวรได้[/b]
นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวถึงโรคไข้หูดับว่า เกิดจากการกินเนื้อหมู หรือเลือดหมูสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบหมูดิบ ลาบเลือดดิบ ที่มีเชื้อสเตปโตค็อกคัสซูอิส (Streptococcus suis) ปนเปื้อนอยู่
โดยเชื้อนี้จะอยู่ในทางเดินหายใจของหมู และอยู่ในเลือดของหมูที่ติดเชื้อ อีกทั้งมีกระแสสังคมบนสื่อออนไลน์ได้รีวิวการรับประทานอาหารดิบ และมีพฤติกรรมการดื่มสุราร่วมกับการรับประทานอาหารสุกๆดิบๆ มีผู้ติดตามรับชมจำนวนมาก อาจทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ หรืออยากลองทำตาม ทำให้เสี่ยงติดเชื้อโรคไข้หูดับได้
[b]นอกจากนี้โรคไข้หูดับสามารถติดต่อผ่านทางบาดแผล รอยถลอก และทางเยื่อบุตา เมื่อได้รับเชื้อโรคไข้หูดับเข้าไปแล้ว ทำให้ผู้ติดเชื้อมีไข้สูงเฉียบพลัน (มากกว่าหรือเท่ากับ 38 องศาเชลเซียส) ปวดศีรษะ หนาวสั่น สับสนกระสับกระส่าย ปวดข้อ คอแข็ง หูหนวกหรือการได้ยินลดลงอย่างเฉียบพลัน การทรงตัวผิดปกติ หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว ความดันเลือดต่ำ มีจ้ำเลือดทั่วตัว ปวดตา ตาแดง หรือมองภาพไม่ชัด[/b]
สถานการณ์โรคไข้หูดับในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 25 กันยายน 2566 มีผู้ป่วยโรคไข้ หูดับ 436 ราย มีผู้เสียชีวิต 19 ราย ที่ จ.เชียงใหม่ 1 ราย จ.น่าน 1 ราย จ.ตาก 2 ราย จ.อุตรดิตถ์ 2 ราย จ.กำแพงเพชร 1 ราย จ.อุทัยธานี 2 ราย จ.นครปฐม 2 ราย จ.สมุทรสาคร 1 ราย จ.มหาสารคาม 2 ราย จ.หนองคาย 1 ราย จ.นครราชสีมา 3 ราย และ จ. ชัยภูมิ 1 ราย
หมอเตือน "กินหมูดิบ" ถึงพิการถาวร หนักสุดถึงตาย รีบบอกต่อคนรักท่าน