กินให้เป็นยา สรรพคุณ “กล้วย” ที่คนไม่ค่อยรู้! ดีต่อตับ ความจำ
[/p]
[b]นอกเหนือจากประโยชน์ทางด้านอาหารแล้ว กล้วยยังมีคุณค่าอนันต์ในทางยา หมอพื้นบ้านใช้ใบตองอ่อนที่ยังม้วนอยู่ นำมาอังไฟสำหรับประคบรักษาอาการปวดหน้าอก อาการอักเสบพุพองของผิวหนัง หรือนำมาต้มน้ำดื่มแก้ท้องเสีย บิด แก้ผื่นคัน[/b]
สมัยที่ยาเพนิซิลินหายาก น้ำคั้นสดจากหยวกกล้วยช่วยเยียวยาโรคหนองใน ดื่มแก้ท้องร่วง ท้องเสีย หรือใช้ชโลมหนังศีรษะและเส้นผมบ่อยๆ เพื่อรักษาอาการผมร่วงและปลูกผม น้ำคั้นจากเหง้าเป็นยาแก้ไข้และบำรุงร่างกาย
นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาฤทธิ์ป้องกันและรักษาแผลในกระเพาะอาหารในหนูทดลองหลายชนิด ซึ่งสามารถเทียบเคียงได้กับคน พบว่า ผงกล้วยดิบ ในขนาด 5 กรัม/วัน (สำหรับหนูทดลอง) หรือประมาณ 250 กรัม/วัน สำหรับคน สามารถช่วยป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะได้
และถ้าเพิ่มปริมาณขนาด 7 กรัม/วัน (สำหรับหนูทดลอง) หรือประมาณ 350 กรัม/วัน สำหรับคน จะช่วยรักษาแผลในกระเพาะที่เกิดจากการได้รับยาแอสไพริน
[b]โดยพบว่า กล้วย จะไปกระตุ้นให้เซลล์ในเยื่อบุกระเพาะหลั่งสารเมือก (mucin) ออกมาเคลือบกระเพาะ เพิ่มความหนาและความแข็งแรงของเยื่อบุกระเพาะ ลดความเป็นกรดในกระเพาะ กระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดมาโครฟาจ (macrophage) ซึ่งช่วยเร่งการสมานแผลในกระเพาะอาหารให้หายเร็วขึ้น[/b]
สรรพคุณของเรื่องกล้วยๆ ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะผลจากการศึกษาในหนูทดลอง ยังพบว่า ผงกล้วยดิบ ขนาด 40 กรัม/วัน สำหรับคนเป็นยารักษาเบาหวานที่ได้ผลดีและปลอดภัย โดยออกฤทธิ์กระตุ้นการสร้างอินซูลินและกระตุ้นการใช้น้ำตาลกลูโคสในร่างกายด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่า กล้วยดิบ มีเส้นใยอาหารจำพวกเฮมิเซลลูโลส (hemicellulose) และนิวตรอลดีเทอร์เจนต์ (nutral detergent fiber-NDF) ซึ่งเป็นเส้นใยที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายได้ มีคุณสมบัติช่วยดูดซึมไขมันและคอเลสเตอรอลไว้แล้วขับออกมากับอุจจาระก้อนโต ทำให้ร่างกายดูดซึมคอเลสเตอรอลน้อยลง ส่งผลให้ปริมาณไขมันในเลือดและเนื้อเยื่อลดลงด้วย
กินให้เป็นยา สรรพคุณ “กล้วย” ที่คนไม่ค่อยรู้! ดีต่อตับ ความจำ