สุดรันทด 3 พี่น้องพิการ กินแต่น้ำพริก ไม่ได้กินหมูนาน 2 ปี
[/p]
[b]พี่น้องสุดรันทด บ้านอยู่เกาะ เข้าออกบ้านต้องนั่งแพข้าม ต่างคนต่างพิการ ตำแต่น้ำพริก หาผักตามสวนกิน ไม่เคยกินหมู่มา 2 ปี อดมื้อกินมื้อ บ้านผุพัง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้[/b]
วันที่ 1 ก.ย.2566 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังอ่างเก็บน้ำ บ้านห้วยไคร้หลวง หมู่ 1 ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้ข้ามน้ำโดยใช้เชือกดึงแพข้าม ไปยังบ้านหลังเล็ก ๆ ที่อยู่เกาะ และเป็นสวน พบกันนางปราณี นั่งคอยดูแลพี่ชายที่ป่วยอาการทางสมอง 2 คน ภายในบ้านไม่มีอะไรมาก สอบถามนางปราณี ทราบว่า อยู่ด้วยกัน 3 คน มีนายอุดม มูลทาศรี (พี่ชายคนโต) อายุ 77 ปี พิการทางสมอง ไม่สามารถพูดได้ นายประพันธ์ มูลทาศรี (คนที่ 2 ) 70 ปี เป็นโรคปอด นางปราณี มูลทาศรี (คนที่ 3 ) อายุ 58 ปี ป่วยด้วยเส้นเลือดตีบ ความดัน เดินลำบาก และมีน้องสาวอีกคนที่มีครอบครัวไปย้ายอยู่ต่างจังหวัด
ที่ต้องมาอยู่บ้านเกาะ เกิดจากก่อนหน้าที่ยังแข็งแรงเคยไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร ได้เงินมาจำนวนหนึ่ง ได้ซื้อที่ดินเอาไว้ประมาณ 1งาน 3 ตารางวา โดยใช้ชื่อน้องสาวเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ไม่นานน้องสาวและพี่ชายคนที่ 2 ได้แอบเอาที่ดินไปจำนองนำเงินไปใช้ แต่ไม่จ่ายดอกเบี้ย ผู้จำนองจะยึดที่ดิน ทางน้องสาวจึงตัดสินใจขาย ได้เงินมา 800,000 บาท โดยทางน้องสาวได้แบ่งเงินให้ นายอุดม-นายประพันธ์-นางปราณี คนละประมาณ 120,000 บาท ส่วนที่เหลือน้องสาวได้เอาไปใช้ ด้านนายประพันธ์ ซึ่งก่อนหน้ามีภรรยาอยู่แล้ว แต่ได้กลับไปอยู่ จ.เลย นายประพันธ์ จึงนำเงินส่วนตัว และนำเงินส่วนแบ่งของนายอุดมพี่ชายคนโต (พิการทางสมอง)ไปด้วย นำส่งให้ภรรยาเพื่อต้องการให้ภรรยากับมา สุดท้ายภรรยาไม่กลับมาแต่เสียเงินไปหมด เหลือแต่ในส่วนของนางปราณี 120,000 บาท เมื่อไม่มีที่ดินอยู่อาศัย จึงได้ของอาศัยที่ดินของญาติฝ่ายพ่อ ที่อยู่ปัจจุบันอาศัยอยู่ โดยนำเงินให้หลานชายเก็บ (ลูกน้องสาว) และช่วยสร้างกระต๊อบให้อยู่อาศัย ที่เหลือหลานชายเก็บ คอยซื้อข้าวสารมาส่งให้ ซึ่งตอนนี้ทราบว่าเหลือประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท เหลือประทังชีวิตให้ถึงที่สุด
สุดรันทด 3 พี่น้องพิการ กินแต่น้ำพริก ไม่ได้กินหมูนาน 2 ปี