โครงการ คลังคำศัพท์ภาษามือเรื่องการจัดการ – มุ่งผลิตบุคลากรคุณภาพสู่ธุรกิจ
[/p]
หนึ่งในเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ขององค์การสหประชาชาติ คือเรื่องของ Quality Education หรือ การสร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพ อย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ ซีเอ็มเอ็มยู (CMMU) ให้ความสำคัญอยู่เช่นกัน เนื่องในวาระครบปีที่ 25 ที่ ซีเอ็มเอ็มยู มุ่งผลิตบุคลากรที่มีศักยภาพสูง เพื่อธุรกิจยุคใหม่ พร้อมขยายเป้าหมายมุ่งพัฒนาสังคมและธุรกิจ สู่ความยั่งยืน
[b]โครงการ คลังคำศัพท์ภาษามือเรื่องการจัดการ[/b]
จึงนับเป็นโอกาสอันดี ที่วันนี้จะชวนทุกคนร่วมพูดคุยกับ ผศ.ดร.บุริม โอทกานนท์ รองคณบดีงานสนับสนุนการศึกษาและวิชาการ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนจุดบกพร่องทางการได้ยิน สู่โอกาสทางการศึกษา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของผู้พิการ ด้วยความยึดมั่นในปรัชญาของมหาวิทยาลัยที่ว่า “ความสำเร็จที่แท้จริง อยู่ที่การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ เพื่อประโยชน์สุขแก่มวลมนุษยชาติ” นำไปสู่การริเริ่มการพัฒนาโครงการ “คลังคำศัพท์ภาษามือด้านการจัดการ”
[b]ที่มาของโครงการ
• โอกาสที่ขาดหายไป … จากความบกพร่องที่เลือกไม่ได้[/b]
ผศ.ดร.บุริม โอทกานนท์ หัวหน้าโครงการวิจัยเรื่องการใช้ศักยภาพของอุดมศึกษา เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับการเรียนรู้ และการทำงานสำหรับผู้พิการ เล่าถึงที่มาของการพัฒนา ” คลังคำศัพท์ภาษามือด้านการจัดการ ” ว่า จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2563 พบจำนวนผู้พิการในประเทศไทยนั้นมีอยู่ประมาณ 3.7 ล้านคน โดยกลุ่มผู้พิการทางการได้ยินนั้น คิดเป็นร้อยละ 18.8 ของประชากรผู้พิการทั้งหมด
[b]สถิติของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ[/b]
นอกจากนี้ ยังมีสถิติของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ในปี 2562 ที่ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทย มีผู้พิการที่ได้เข้าสู่ระบบการจ้างงานจำนวนน้อย โดยผู้พิการที่ได้เข้าสู่ระบบการจ้างงาน มีเพียงร้อยละ 24.5 ทั้งนี้ในจำนวนดังกล่าวพบว่า ผู้พิการส่วนใหญ่จำนวนร้อยละ 71 จบการศึกษาในระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาเพียงเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า กลุ่มคนเหล่านี้ยังมีความรู้ที่น้อย ส่วนผู้พิการที่มีการศึกษาสูงกว่าระดับชั้นมัธยมศึกษา พบเพียงร้อยละ 3.3 ซึ่งเป็นจำนวนที่ค่อนข้างน้อย ทั้งนี้ จำนวนนักเรียนผู้มีความบกพร่องทางการได้ยินทั่วประเทศ ส่วนใหญ่จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ในขณะที่อัตราการเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากข้อมูลการสำรวจของทีมวิจัย พบว่าอยู่ที่ร้อยละ 7.2
[b]• เติม “องค์ความรู้” ให้ผู้พิการ นอกจาก “ทักษะ”[/b]
จากสถิติดังกล่าวที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า การมีต้นทุนทางการศึกษาที่น้อย ก็จะส่งผลให้โอกาสยิ่งน้อยตามไปเช่นกัน ยกตัวอย่าง เรื่องการเข้าถึงเรื่องของเงินทุน ภาครัฐ หรือแม้กระทั่งโอกาสในการทำงาน เพราะบริษัทส่วนใหญ่ยังคงใช้วิธีคิดในการจ้างงานแบบคนทั่วไป คือ หากคุณจะทำงานคุณต้องจบปริญญาตรี ปวช. หรือ ปวศ. เท่านั้น ซึ่งกลุ่มผู้พิการเหล่านี้จบเพียงแค่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อกลุ่มผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน ไม่มีการศึกษาในระดับที่สูงมากพอ สุดท้ายแล้วการทำงานของผู้พิการทางการได้ยิน จึงเป็นอาชีพที่เน้นใช้ทักษะมากกว่าการใช้ความรู้
นอกจากนี้ การขาดความรู้และคำที่จะใช้ในการสื่อสาร ทำให้ผู้พิการทางการได้ยิน ต้องเผชิญกับปัญหาหลายอย่างในการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น การถูกละเมิดสิทธิ การถูกเอาเปรียบ การถูกดูแคลน การถูกเลือกปฏิบัติ หรือการถูกกีดกันออกจากสังคมที่มีการสื่อสารคนละแบบ การมีความรู้เพิ่ม และการเพิ่มความสามารถในการสื่อสาร จึงอาจเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาที่ผู้พิการทางการได้ยินกำลังเผชิญอยู่ นอกจากนี้ การศึกษายังสามารถสร้างและขยายโอกาส ในการทำงานในระดับที่สูงขึ้น และมีศักยภาพในการเป็นเจ้าของกิจการเพิ่มมากขึ้น
โครงการ คลังคำศัพท์ภาษามือเรื่องการจัดการ – มุ่งผลิตบุคลากรคุณภาพสู่ธุรกิจ