ท่องโลกบนวีลแชร์ กล้าฝันกล้าทำ ร่างกายไม่ใช่อุปสรรค
[/p]
สำหรับเบื้องหลังการเดินทางครั้งนี้ “คอรี่ ลี” ใช้เวลาถึงสองปีเพื่อศึกษาเส้นทางและรายละเอียดทั้งหมดที่จำเป็น เพราะแอนตาร์กติกาเป็นทวีปในขั้วโลกใต้ที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดในโลก การตัดสินใจล่องเรือสำราญเที่ยวสุดท้ายก่อนที่จะถูกปิดยาวเพราะโควิด-19 ระบาด “มันรู้สึกยิ่งกว่าฝัน” ในที่สุดก็ได้เห็นวาฬ เพนกวิน แมวน้ำ และทุ่นน้ำแข็ง
ชีวิตของ “คอรี่” ไม่เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป แต่เขาเริ่มป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ตั้งแต่กำเนิด แต่มาตรวจพบตอนอายุ 2 ขวบ พออายุ 4 ขวบ เขาก็เริ่มใช้วีลแชร์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
แต่..เด็กทุกคนย่อมมีความฝัน และความฝันของเขาไม่ได้หยุดลงที่ขาที่ขาดกล้ามเนื้อหรือเรี่ยวแรง
จุดเริ่มต้นของความฝันที่จะเที่ยวทั่วโลกของ “คอรี่” เกิดขึ้นในสมัยที่เขายังเป็นเด็ก โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “แซนดี้ กิลเบรธ” ซึ่งก็คือแม่ของเขา ที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เปรียบเสมือน ครูและผู้ให้กำเนิดในคนเดียวกัน
ในช่วงปิดเทอม 3 เดือน “แซนดี้” ที่ยึดอาชีพครู ได้พาลูกชายไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ บ่อยครั้ง โดยเฉพาะการเที่ยวต่างเมือง หรือท่องเที่ยวแนวแอดเวนเจอร์
สิ่งที่แม่ผมทำ คือ พยายามผลักดันผมออกจาก comfort zone โดยเธอบอกกับผมว่า “ถ้าลูกดูธรรมดาไม่ได้ ก็ทำตัวให้โดดเด่นไปเลย”
คำพูดนี้เอง คือ แรงบันดาลใจให้ผมตั้งเป้าหมายใหญ่ในชีวิตและพยายามไล่ตามความฝัน ด้วยการทำให้โดดเด่นมากที่สุดแล้วก็เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นด้วย
จากนั้นเป็นต้นมา “คอรี่” เลือกที่จะออกเดินทางไปผจญภัยในต่างแดนเพื่อแสวงหา “ประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นปนหวาดเสียว” กล้าที่จะลองเล่นโลดโผน เช่น ขึ้นบอลลูนลอยฟ้าที่ลาสเวกัส อิสราเอลและสเปน และเล่นซิปไลน์โหนสลิงผ่านฟาร์มจระเข้ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา แล้วยังไปขี่อูฐที่โมร็อกโก
“ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้สัมผัสประสบการณ์เหล่านั้น เพราะตัวผมเป็นผู้พิการที่ต้องอยู่บนวีลแชร์ แต่มันก็เป็นไปได้”
ท่องโลกบนวีลแชร์ กล้าฝันกล้าทำ ร่างกายไม่ใช่อุปสรรค