สไลด์โชว์ ไฟฟ้าช็อตดับฝันอาชีพนักฟุตบอล “กอล์ฟ”พลิกชะตาสู่ "สตรีมเมอร์ไร้แขน" ผู้สร้างแรงบันดาลใจ

ไฟฟ้าช็อตดับฝันอาชีพนักฟุตบอล “กอล์ฟ”พลิกชะตาสู่ "สตรีมเมอร์ไร้แขน" ผู้สร้างแรงบันดาลใจ

[/p] [b]รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “กอล์ฟ-ภราดร” ผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้ถูกไฟฟ้าแรงสูงช็อตจนพิการแขน-ขา ไม่สามารถก้าวสู่ฝันที่อยากเป็นนักฟุตบอลได้ แต่เขายังสามารถใช้อวัยวะที่มีทำงานเพื่อหารายได้แบ่งเบาภาระครอบครัวได้ ด้วยการเป็น “สตรีมเมอร์ไร้แขน” ผู้สร้างแรงบันดาลใจ [/b] บางครั้งเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ก็อาจเปลี่ยนชีวิตของเราชนิดที่ไม่สามารถเหมือนเดิมได้อีกต่อไป จากคนปกติกลายเป็นคนพิการ จากคนเคยมีฝัน ฝันนั้นก็พังทลายลง จนบางคนอาจยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่สำหรับ “กอล์ฟ” ภราดร รุ่งเรือง วัย 18 ผู้ที่เคยมีฝันอยากเป็นนักฟุตบอล แต่แล้ววันหนึ่ง สิ่งที่ฝันไว้ต้องดับวูบลง เพราะอุบัติเหตุไฟฟ้าช็อต เปลี่ยนชีวิตเขาให้กลายเป็นคนพิการไร้แขน-ขา ตั้งแต่เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา “วันนั้นผมไปขายของกับยาย และกลับมาบ้าน ตอนเย็นแล้ว ผมนัดกับเพื่อนไว้ ไปตกปลา แล้วผมก็เดินเลาะคันนาไป จะถึงบ้านเพื่อนแล้ว มีสายไฟแรงสูงที่ห้อย มันก็ห้อยมานานแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่ามีกระแสไฟ ผมก็พยายามจะไปอีกฝั่งหนึ่ง แล้วจู่ๆ ไม่รู้โดนส่วนไหนผม ผมก็ไม่รู้สติแล้วตั้งแต่ตอนนั้น” "สภาพที่ผมไปเห็นตอนแรก รอบบริเวณน้องไฟไหม้หมดเลย หญ้าไหม้หมด สภาพแขนน้องก็ระเบิด เท้าก็ระเบิด ช่วงตัวไหม้หมด เสื้อผ้าก็ไหม้หมดเลย" นิรันดร์ รุ่งเรือง น้าของกอล์ฟ “ตอนนั้นช็อกมาก เพราะกำลังเดินทางกลับมาจากทำงาน แล้วมีพวกโทรบอก แต่ตอนแรกไม่คิดว่าน้องจะเป็นเยอะนะ คิดว่าเขาโดนสายไฟฟ้าในบ้าน ไม่คิดว่าจะโดนสายไฟแรงสูง แล้วก็ตามไปที่ รพ.กัน พอนาทีที่เห็นสภาพลูก บอกไม่ถูกเลย ช็อกเลย กลัวลูกไม่รอด”จงรักษ์ รุ่งเรือง แม่เผยความรู้สึกหลังรู้ว่ากอล์ฟถูกไฟฟ้าช็อต เหตุการณ์ครั้งนั้น ส่งผลให้กอล์ฟต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลนานหลายเดือน กว่าจะรู้สึกตัวก็ใช้เวลานานถึง 2 เดือน การที่หมอต้องตัดแขนลูก เกือบทำให้แม่และน้าถอดใจ เพื่อปล่อยลูกไป เพราะกลัวลูกทรมาน โชคดีที่หมอขอให้สู้ ไฟฟ้าช็อตดับฝันอาชีพนักฟุตบอล “กอล์ฟ”พลิกชะตาสู่ "สตรีมเมอร์ไร้แขน" ผู้สร้างแรงบันดาลใจ

[/p] “ตอนนั้นเรากลัวว่าลูกจะไม่สมประกอบ ถ้าไปเกิดใหม่ และกลัวจะทรมาน ตอนนั้นเลยตัดสินใจกับน้อง ร้องไห้กันสองคน และตัดสินใจปล่อยให้ลูกไป และหมอก็บอกให้สู้ เราสู้กันมาเยอะแล้ว สู้กันไปอีกรอบหนึ่ง พระท่านก็บอกว่า น้องยังอยู่ ยังไงน้องก็อยู่ ก็เลยสู้กัน” แม้คนรอบข้างจะเสียใจที่กอล์ฟต้องพิการในวัยแค่ 14 แต่สำหรับกอล์ฟแล้ว เขาแกร่งเกินอายุมาก “ก็เลี้ยงเขามาตั้งแต่เล็กๆ นั่งซาเล้งไปส่งยายขายของ วัดไผ่โรงวัว 3 คนนะ รุ่นเดียวกัน ผู้หญิง 2 นั่งเต็มซาเล้งเลย ไปขายของวัดไผ่โรงวัว เขาลือกัน มาแล้วแม่ลูกดก พ่อลูกดก (ถาม-จากที่เขาเคยนั่งซาเล้งไปกับเรา ลงไปวิ่งเล่น เดินเล่นกันเรา แล้ววันหนึ่งเขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้อีกแล้ว?) โห จะพูดยังไงดีล่ะ ก็ผิดหวัง ผิดหวังเยอะเลย ตอนนั้นถ้าเราไปไหนไม่ได้ เขาขับซาเล้งเองนะ ขับแทน ไปขายของกับยายเขา เป็นมือขวาของเราเลย หวังพึ่งเขา”พร รุ่งเรือง คุณตาของกอล์ฟยอมรับเหมือนตนเองสูญเสียแขนไปข้างหนึ่งเมื่อหลานพิการ “แรกๆ ก็รู้สึกเสียใจ แต่ก็เสียใจไม่นาน เพราะยังไงเราก็อยู่ตรงนี้ไม่ได้อยู่ดี เราเป็นไปแล้ว เราย้อนกลับไปทำอะไรไม่ได้แล้ว เราก็ต้องก้าวหน้าไปเรื่อยๆ”กอล์ฟกับวัยแค่ 14 แต่เห็นสัจธรรมของชีวิต ไม่ยึดติดกับอดีต เพราะชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้า “ช่วงที่เขาโดนไฟฟ้าช็อตเนี่ย เหลืออีกวันเดียวจะสอบเสร็จ ขึ้น ม.2 ก็สอบไม่เสร็จ ก็ไม่ได้ไปเรียนแล้ว ถ้าไปจะเป็นภาระของครูด้วย เป็นภาระของเพื่อนด้วย เราก็ไม่อยากให้หลานเราไปเป็นภาระเขา” นิรันดร์ รุ่งเรือง น้าของกอล์ฟ “ถ้าผมไม่เป็นแบบนี้ ผมอาจเป็นนักฟุตบอลของสุพรรณฯ เอฟซีก็ได้ (ถาม-เมื่อเราไม่สามารถกลับไปทำสิ่งที่เราชอบได้ ไม่ท้อหรือ?) ถามว่าท้อไหม แรกๆ ก็มีคิดบ้าง คิดได้พักหนึ่งก็มีความคิดใหม่ขึ้นมา คือ เราคิดได้ แต่เราย้อนกลับไปไม่ได้ เราต้องคิดถึงวันข้างหน้าจะเอายังไงกับชีวิต ในเมื่อเราย้อนกลับไม่ได้ เราก็ต้องทำวันข้างหน้าให้เปลี่ยนจากที่เราคิดไว้” ไฟฟ้าช็อตดับฝันอาชีพนักฟุตบอล “กอล์ฟ”พลิกชะตาสู่ "สตรีมเมอร์ไร้แขน" ผู้สร้างแรงบันดาลใจ