เช็ค5สัญญาณเสี่ยง'ต้อกระจก' สาเหตุตาบอดที่ไม่ควรเกิด
[/p]
[b] “โรคต้อกระจก” จะค่อยๆ เกิดขึ้น โดยใช้ระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลงของ “เลนส์ตา” จนกระทั่งตาขุ่นมัว จึงอาจทำให้คนทั่วไปละเลยอาการเริ่มต้น “โรคต้อกระจก” ที่สามารถส่งผลร้ายต่อการมองเห็น ฉะนั้นผู้ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงควรรู้จักสังเกตตนเองรวมถึงบุคคลใกล้ตัวถึงอาการ 5 สัญญาณเสี่ยง “ต้อกระจก” ได้แก่... [/b]
1.ตาค่อยๆ มัวลง อย่างช้าๆ โดยไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ อาจเริ่มมีอาการที่มัวลงภายในช่วงเวลาสั้นเพียง 2-3 เดือน หรือถึงมากกว่า 10 ปีในบางราย
2.สายตากลับ คือมีอาการเปลี่ยนแปลงด้านการมองเห็นอย่างเห็นได้ชัดเจน เช่น จากเดิมสายตายาวแล้วเปลี่ยนเป็นสายตาสั้น หรือมีสายตาเอียงมากขึ้น
3. เห็นแสงแตกกระจาย เมื่อใช้สายตามองแสงแล้วจะเห็นมีลักษณะเป็นเส้นๆ เป็นแฉกๆ หรืออาจดูมีภาพซ้อน
4.ความสามารถในการมองเห็นในที่มืดลดน้อยลง ต้องการแสงสว่างที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะพบบ่อยๆ ในกลุ่มคนสูงวัยมากๆ
5.ต้อกระจกบางชนิดจะมองเห็นในที่มืดชัดกว่าที่สว่าง เนื่องจากมีความขุ่นมัวเฉพาะส่วนกลางของเลนส์ตา ซึ่งในที่สว่างนั้น “รูม่านตา” จะมีขนาดเล็ก เวลาใช้สายตาก็จะมองผ่านเฉพาะส่วนที่ขุ่นมัวนั้น แต่ในที่มืดรูม่านตาจะขยายกว้างขึ้นการมองเห็นก็จะดีขึ้น มักพบในคนที่ป่วยเป็น “โรคต้อกระจก” จากผลกระทบของโรคเบาหวาน ใช้ยาสเตียรอยด์ด้วยการรับประทาน หรือหยอดตามาเป็นเวลานานๆ
หากมีอาการน่าสงสัยเพียง 1 ใน 5 ข้อนี้ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็ค “ดวงตา” อย่างละเอียด และรับการรักษาอย่างทันท่วงที เพราะความก้าวหน้าทางการแพทย์ปัจจุบันเราสามารถรักษาผู้ป่วยได้อย่างหลากหลายรูปแบบ ทั้งการสวมแว่นตา การใช้ยาหยอดตาในกรณีที่ยังไม่มีอาการรุนแรงมาก รวมไปถึงการผ่าตัดเปลี่ยน “เลนส์แก้วตา” ที่ทำได้ง่ายมากขึ้น
เช็ค5สัญญาณเสี่ยง'ต้อกระจก' สาเหตุตาบอดที่ไม่ควรเกิด