ศิลปินดาวน์ซินโดรมคนแรกของไทย
[/p]
[b] “เหมียวชอบงานศิลปะมาตั้งแต่เด็ก เพราะศิลปะเป็นการใช้จินตนาการ ทำให้เราได้คิดก่อนวาดภาพและระบายสี เป็นการบ่งบอกถึงอารมณ์ความรู้สึก นึกคิดของคนๆ หนึ่งได้ เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ที่แต่ละคนอาจจะนำเสนอแตกต่างกันออกไป ทุกครั้งที่สร้างสรรค์ผลงานเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข และสนุกมากๆ แม้ภาพหนึ่งภาพจะใช้เวลานาน ถ้าไม่มีโจทย์จากอาจารย์ผู้สอน จะกลั่นกรองจากความรู้สึก นึกคิดของเรา แต่ถ้ามีโจทย์เราก็ต้องตีความ เรียงร้อยเรื่องราวที่อยากนำเสนอ และต้องยอมรับการปรับแก้ วิพากษ์วิจารณ์ ลงมือปฏิบัติซ้ำๆ” น้องเหมียวกล่าว [/b]
[b]น้องเหมียว เล่าต่อว่า [/b] ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าตัวเองชอบศิลปะ แต่เป็นสิ่งที่เราทำได้ดี และครอบครัว คุณแม่คุณพ่อก็สนับสนุนเต็มที่ ให้อิสระทางความคิด สร้างสรรค์ผลงาน พาไปทุกๆ ที่ที่ครอบครัวไป ไม่ว่าจะไปต่างประเทศ หรือเที่ยวในประเทศ ทำให้เรามีประสบการณ์ชีวิตมากมาย ให้เราสามารถดูแลตัวเองได้โดยที่เขาคอยช่วยเหลือเราอยู่ข้างๆ และการสร้างสรรค์งานศิลปะ ทำให้เรามีเพื่อน มีสังคม เพราะหลายครั้งที่เราไปออกค่ายอาสา สอนศิลปะ หรือเข้าร่วมแสดงผลงานต่างๆ ได้เจอผู้คนที่หลากหลาย เป็นการปรับตัวเข้าสังคม เรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่น
เริ่มแรกตอนที่ครอบครัวรู้ว่า [b] “น้องเหมียว” [/b]เป็นเด็กพิเศษหรือเด็กดาวน์ซิมโดรมก็ไม่ได้ทำให้น้องรู้สึกว่าตัวเองแตกต่างหรือพิเศษกว่าคนอื่น ยกเว้นการดูแลเอาใจใส่ ความห่วงใยที่ครอบครัวมีให้
[b]"หลายครั้งที่เดินไปไหนมาไหน หรือไปมหาวิทยาลัยช่วงปีแรกๆ มักจะถูกมองว่าเราไม่เหมือนคนอื่น จะเรียนได้หรือไม่ เรียนร่วม ใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้หรือไม่ แต่เราไม่สนใจคำพูด การกระทำของคนอื่นที่แสดงต่อเรา เพราะคนเราไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ทุกคนต่างมีหนทางของตนเอง เราไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร หรืออยากปรับความคิดคนอื่นที่มีต่อเรา เพียงเราได้เกิดมา ได้ทำความฝัน ได้ทำในสิ่งที่ตนเองรัก ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน มีครอบครัวที่คอยอยู่ข้างๆ มีแรงบันดาลใจในทุกวัน และทำหน้าที่รับผิดชอบของเราให้ดี ธรรมะสอนให้รู้จักการอภัย คิดบวก คิดดี ทำดี เท่านี้ชีวิตของเราก็จะดี และมีความสุขได้ในทุกวัน”น้องเหมียว กล่าว [/b]
ศิลปินดาวน์ซินโดรมคนแรกของไทย