เลี้ยงไก่พื้นเมืองไม่ใช่เรื่องยาก ปล่อยตามธรรมชาติ หาอาหารกินเอง ไก่แข็งแรง ประหยัดต้นทุน เป็นที่ต้องการของตลาด
[/p]
ซึ่งไก่พื้นเมืองเมื่อเลี้ยงจนโตเต็มที่ ตัวเมียจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมขึ้นไป ส่วนตัวผู้จะมีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม โดยเมื่อทุกตัวเข้าสู่วัยผสมพันธุ์ได้ ก็จะปล่อยให้ไก่ผสมพันธุ์กันเอง ไม่ได้มีการจับคู่เหมือนกับการเลี้ยงแบบทำเป็นไก่ชนทั่วไป เพราะจะเน้นเป็นแบบจำหน่ายเป็นไก่เป็นให้กับลูกค้าที่จะมารับซื้อไปทำชำแหละเนื้อจำหน่ายเป็นไก่สดที่ตลาด
ซึ่งลูกไข่ที่ออกมาหากแม่ไก่ไม่ฟัก ผู้ใหญ่ณรงค์จะมีตู้ฟัก ทำการนำไข่ไปฟักเองที่เครื่อง เมื่อได้ลูกไก่ออกมาจากไข่แล้ว ก็จะกกให้มีความแข็งแรงสักระยะ พอลูกไก่มีความแข็งแรงก็จะปล่อยให้ไปอยู่ในฝูงตามธรรมชาติเหมือนเช่นตัวอื่นๆ
“การป้องกันโรคก็จะมีการทำวัคซีนให้บ้างในช่วงที่เป็นลูกไก่อยู่ พอไก่เจริญเติบโตมากขึ้นก็หมั่นดูบ้างว่ามีลักษณะอย่างไร ถ้าเหมือนจะเป็นช่วงที่มีโรคระบาด ก็จะหาซื้อยาปฏิชีวนะมาผสมกับน้ำให้ไก่กิน ก็จะช่วยป้องกันในเรื่องของโรคได้อยู่บ้าง เพราะบางทีโรคมามาก ถึงไก่จะเลี้ยงแบบนี้มีความแข็งแรงอยู่แล้ว แต่ก็ควรที่จะป้องกันไว้บ้าง ในช่วงที่เราคิดว่าน่าเป็นห่วง” ผู้ใหญ่ณรงค์ บอกถึงวิธีการดูแล
[b] จับจำหน่ายปีละ 2 ครั้ง [/b]
เนื่องจากการเลี้ยงไก่พื้นเมืองของผู้ใหญ่ณรงค์ เป็นแบบการเลี้ยงให้อยู่เชิงธรรมชาติ ไม่ได้เน้นให้อาหารเสริมหรืออาหารข้นที่มีจำนวนโปรตีนมากๆ ไก่อาจจะเจริญเติบโตได้ช้ากว่าปกติ แต่ในเรื่องของรสชาติ เนื้อมีความอร่อยแน่นอน ถึงกับมีแม่ค้ามาติดต่อขอซื้อเพื่อไปจำหน่ายเป็นไก่สดถึงบ้านกันเลยทีเดียว
“พอถึงเวลาทุก 6 เดือน แม่ค้าที่เขามารับซื้อประจำ เขาก็จะมาติดต่อขอซื้อถึงบ้าน เขาก็จะนำคนมาจับเอง โดยที่เราไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายในเรื่องของการจับ เขามาจับไปต่อครั้งก็ 50-60 กิโลกรัม ต่อครั้ง ราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท ซึ่งต่อปีก็ถือว่าเป็นอาชีพเสริมที่ทำรายได้พอสมควร จากปริมาณที่ขายได้แบบอาชีพเสริม” ผู้ใหญ่ณรงค์ บอก
หาแมลงตามคอกโคนมกิน