จะดีแค่ไหนท่าคนพิการสายตามีของเล่น 3 มิติโต้ตอบได้
[b]เบื้องหลังการทำผลงานชิ้นนี้ทั้งสามคนต้องผ่านอุปสรรคมาไม่ใช่น้อย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ทั้งสามคนถอดใจ แต่ยิ่งกลับมีกำลังใจที่อยากจะพัฒนาผลงานต่อไปให้สมบูรณ์ขึ้นไปอีก[/b] พีช น้องเล็กของกลุ่ม กล่าวว่ากว่าจะออกมาเป็นผลงานชิ้นนี้ พวกเราได้นำผลงานนำไปทดสอบที่โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพฯ ประมาณ 4-5 ครั้ง ซึ่งก็มีฟีดแบคที่ทั้งดีและไม่ดีกลับมาให้พัฒนาผลงานต่อ
[b]แต่ทุกครั้งที่เราไป ก็จะเห็นน้องๆ เขาเล่นอย่างมีความสุข เลยรู้สึกว่าเราทำมาเพื่อช่วยคนอื่น เราไม่ได้ทำมาเพื่อตัวเองถ้าเราทำของขึ้นมาสักชิ้นแล้วเขาได้รับประโยชน์จริงๆ[/b] กลายเป็นว่าของเล่นชิ้นหนึ่งสามารถสร้างการเรียนรู้ให้น้องๆอีกหลายคนจุดนี้เลยทำให้รู้สึกว่าเรามีคุณค่าที่ได้ทำประโยชน์ให้สังคม
[b]ด้านน้องพี กล่าวว่าการเข้าร่วมโครงการต่อกล้าให้เติบใหญ่ ปี 5 มีส่วนช่วยให้เราเปลี่ยนมุมมองและความคิดในการทำงานไปเลย เช่น[/b] การเจอข้อผิดพลาดจากทำงานบ่อยๆ ถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะเมื่อได้พบเร็วเท่าไหร่ เราสามารถลุกขึ้นมาแก้ไขได้เร็วเท่านั้น [b]อีกอย่างการลงมือทำบ่อยๆ จะทำให้เราเกิดความชำนาญ[/b] ช่วยให้เราพบโจทย์ปัญหาที่แท้จริง ส่งผลให้งานของเราเข้าไปตอบโจทย์และแก้ปัญหาของผู้ใช้ได้จริงๆ
[b]ที่สำคัญการได้พูดคุยและแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาในทีม หรือนำปัญหาที่เกิดขึ้นมาร่วมกันคิดร่วมกันทำ จะทำให้เห็นทางออกของปัญหาชัดเจนกว่าการนั่งคิดคนเดียว ผลงานของเราก็จะพัฒนาได้เร็วขึ้นด้วย[/b]… "ตอนแรกก่อนจะทำโปรเจคนี้ หนูเคยคิดว่าเราต้องเก่งถึงจะทำอะไรสำเร็จ หรือต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญก่อน ถึงจะทำโปรเจคใหญ่ๆ ได้ แต่ตอนนี้มุมมองในเรื่องนี้ได้เปลี่ยนไปถ้าเราไม่เริ่มลงมือทำ เราก็จะไม่เก่งขึ้น ไม่พัฒนาขึ้น ดังนั้นถ้าอยากทำอะไรก็ลงมือทำเลย ขอแค่มีไอเดียที่ดี กับทีมที่ดีก็เริ่มต้นได้แล้ว แต่พอเริ่มแล้ว หลังจากนั้นจะมีปัญหาเกิดขึ้นเยอะมาก เราจะล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเหล่า แต่สิ่งที่จะฉุดเราขึ้น ให้เราทำมันต่อไปคือ Passion กับความมุ่งมั่น และความอดทน เราก็จะสามารถแก้ปัญหาต่างๆไปได้เรื่อยๆไม่มีวันหยุด”
น้องพิการทางสายตากำลังเล่น ของเล่น 3 มิติ