โรคอ้วน ไม่ใช่เรื่องตลก!! รู้จักควบคุม ก่อนโรคร้ายมาเยือน
ประมาท! ถ้าคิดว่าอ้วนไม่ถึงตาย ภาวะ “น้ำหนักตัวเกิน” และ “โรคอ้วน” นั้นเป็นการเชื้อเชิญ หรือเดินเข้าไปสู่โรคร้าย ได้แก่ [b]โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง (โรคอัมพาต) โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคนิ่วในถุงน้ำดี เพราะการมีไขมันในเลือดสูง ส่งผลให้น้ำดีจากตับมีไขมันสูงตามไปด้วย[/b] ซึ่งไขมันจะตกตะกอนเกิดเป็นนิ่วในถุงน้ำดีได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีปัญหาในการหายใจ มักเป็นโรคนอนหลับแล้วหยุดหายใจ (Sleep apnea) อีกแง่มุมหนึ่ง [b]ภาวะอวบอ้วนส่งผลให้ผู้ป่วยมีปัญหาทางด้านสังคมอย่างช้าๆ ทั้งกับตัวผู้ป่วยเองและครอบครัว และมักเป็นโรคซึมเศร้าในท้ายที่สุด[/b]
[b]ไม่อยากอ้วนทำไงดี…? 1. กินให้ดู คิดเป็นระบบ รู้จักควบคุมอาหาร [/b]
[b]1.1 ต้องลดปริมาณพลังงานที่บริโภค[/b] คนที่กินอาหารมาก ต้องกินให้น้อยลง ต้องทำอย่างเคร่งครัด น้ำหนักที่เกินอยู่จึงจะลดลง และไม่แนะนำให้ลดน้ำหนักโดยวิธีอดอาหาร เพราะจะมีผลเสียมากกว่าผลดี
[b]1.2 เมื่อกินอาหารน้อยลง[/b] จะต้องระมัดระวังว่าอาหารนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการดีพอไหมให้สมดุลกับ ข้อที่ว่ามันยังมีความเอร็ดอร่อยไม่น่าเบื่อด้วย
[b]1.3 ทุกมื้ออาหารควรมีผักและผลไม้เสมอ[/b] เพราะอาหารสองประเภทนี้นอกจากให้วิตามินและเกลือแร่ ยังให้ใยอาหารซึ่งทำให้ท้องไม่ผูก และมีความรู้สึกอิ่มไม่หิวบ่อย สำหรับผลไม้ไม่ควรกิน คือ พวกที่มีรสหวานจัด เช่น องุ่น ละมุด ทุเรียน ถ้ากินให้กินเป็นครั้งคราวเท่านั้น
[b]1.4 ไขมัน ให้ดูที่มาจากพืชในการปรุงอาหาร[/b] และพิจารณาร่วมกับกรดไขมันจำเป็นในสัดส่วนที่เหมาะสม ส่วนคาร์โบไฮเดรท แป้ง น้ำตาล พิจารณาจากคุณค่าและที่มาเป็นหลัก อย่างขนมหวาน น้ำอัดลม และการปรุงอาหารด้วยน้ำตาล ให้ลด ละ มากที่สุด
[b]2. อยู่ให้เป็น ลุยงาน ออกกำลังกายเสมอ[/b] การลดน้ำหนักจะได้ผลดีต่อเมื่อเราออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ถ้าคนที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ต้องค่อยๆ เริ่มและทำให้เกิดวินัย นับตั้งแต่เดินก็เป็นวิธีออกกำลังกายอย่างหนึ่ง การออกกำลังกายในแต่ละช่วง ควรใช้เวลา 15-45 นาที โดยทำต่อเนื่องกันไปจนกระทั่งรู้สึกว่าเหนื่อยค่อยพัก ในวันหนึ่งๆ ถ้ามีเวลาออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาวันละ 1 ชั่วโมงจะดีมาก และต่อเนื่องนานนับปีจึงจะบอกได้ว่าผู้ป่วยประสบความสำเร็จ ในการลดน้ำหนักหรือไม่
[b]3. ทางเลือกใหม่ในการรักษา[/b] ลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยและได้ผลด้วย Gastric Balloon การใส่บอลลูน ที่บรรจุสารน้ำเข้าไปในกระเพาะอาหาร เพื่อการควบคุมน้ำหนัก โดยบอลลูนจะเข้าไปลดความจุของกระเพาะอาหาร ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง และอิ่มนานกว่าเดิม ร่างกายจึงนำไขมันส่วนเกินออกมาใช้เป็นพลังงานแทน ส่งผลให้น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงในที่สุด
ออกกำลังกายบนลู่วิ่ง