ส้มปลาอีตู๋ สุดยอดของฝากจากโขงเจียม
[/p]
[b]จากข้าราชการครู ผันชีวิตสร้างสินค้าแปรรูป[/b]
คุณวายุรี สาววัยเกษียณผู้มีอัธยาศัยยิ้มแย้มแจ่มใส เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนมีอาชีพรับราชการครู ต่อมาประมาณ ปี 2547 จึงได้เกษียณก่อนเวลาจากการรับราชการ เพราะต้องออกมาดูแลคุณแม่และสามีซึ่งกำลังป่วยอยู่ในขณะนั้น ซึ่งในช่วงนั้นก็ยังไม่ได้ประกอบอาชีพอย่างอื่นอย่างจริงจัง
เมื่อผ่านเข้าสู่ปี 2550 ได้เล็งเห็นว่าอำเภอโขงเจียม เป็นอำเภอที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่หน่วยงานต่างๆ ใช้ที่พักตามโรงแรมเป็นที่จัดอบรมสัมมนาอีกด้วย
[b] “ช่วงนั้นเราก็ยังไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ก็อยู่แบบพออยู่พอกินไปก่อน พอมาอยู่บ้านได้ประมาณ 3 ปี ก็เห็นว่าที่นี่มันเหมือนเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ยังไม่มีเรื่องของฝากที่ขึ้นชื่อของอำเภอ ก็ได้มองเห็นโอกาสในจุดนี้ จึงได้ชวนชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่มารวมกลุ่มกัน จัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน เพื่อผลิตสินค้าแปรรูปเป็นของฝากของโขงเจียมขึ้น” [/b] คุณวายุรี เล่าถึงที่มา
เนื่องจากในพื้นที่ของอำเภอโขงเจียมมีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งในช่วงฤดูฝนจะมีปลาค่อนข้างชุกชุม คือ ปลาอีตู๋ (ปลากาดำ) โดยจะนำปลาเหล่านั้นมาประกอบอาหารที่หลากหลายเมนู และเมื่อปลามีจำนวนที่มากเกินพอกว่าจะนำมากินไหว ก็จะต้องนำมาถนอมอาหารสามารถเก็บไว้กินได้ตลอดทั้งปี เช่น การทำปลาร้า และการทำเป็นแจ่วบอง จึงได้นำภูมิปัญญาเหล่านี้ต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น
[b]ใช้ปลาอีตู๋ จากแหล่งน้ำธรรมชาติ[/b]
ในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี เป็นช่วงที่มีปลาอีตู๋ชุกชุมมากที่สุดในแม่น้ำโขง ก็จะค่อนข้างหาวัตถุดิบได้ง่าย โดยจะนำมาทำเป็นปลาร้าเก็บไว้ และช่วงที่วัตถุดิบในพื้นที่หายากก็จะติดต่อขอซื้อมาจากแหล่งอื่น เช่น แม่น้ำมูล และเขื่อนสิรินธร
ปลาอีตู๋ (ปลากาดำ)