จุดอ่อนรถไฟฟ้ากับคนพิการ
[b]นี่เป็นเสียงสะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำในการใช้งาน “ขนส่งมวลชน” ที่ทุกคนน่าจะสามารถใช้บริการได้ แต่ความเป็นจริงก็ยังมีกลุ่มคนที่ใช้ไม่ได้ และดูจะถูกละเลยมาตั้งแต่ที่มีโครงการสร้างสถานีรถไฟฟ้าเมื่อ 25 ปีก่อน[/b] จนนำไปสู่การร้องเรียนบีทีเอสเมื่อมีกฎกระทรวงมหาดไทยออกมาเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกแก่คนพิการ และคนชราในปี พ.ศ. 2542 [b]ทำให้มีการสร้างลิฟท์ 5 สถานีจาก 23 สถานี ก่อนจะมีคำสั่งจากศาลปกครองสูงสุดให้ติดตั้งลิฟท์ให้ครบทั้ง 23 สถานีภายใน 21 มกราคม 2559[/b] แต่ทางกรุงเทพมหานครได้ประกาศว่าจะสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน2559
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมาจึง[b]มีการเปิดลิฟท์รถไฟฟ้าบีทีเอสเพิ่มอีก 4 สถานี และชี้แจงว่าจะสามารถเปิดใช้งานลิฟท์สถานีที่เหลือให้ได้ภายในปี 2560 นี้[/b] มันจึงเป็นต้นทุนชีวิตที่ผู้พิการต้องแบกรับต่อไป แต่ต่อให้เสร็จผู้พิการก็ยังไม่สามารถเข้าถึงได้สะดวกอยู่ดี
เรื่องนี้ [b]มานิตย์ อินทร์พิมพ์ หรือ ซาบะ หนึ่งในผู้ร่วมชะตากรรม เป็นตัวแทนของมนุษย์ล้อได้พาไปสำรวจการใช้ชีวิตของคนพิการกับระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัยที่สุดของกรุงเทพมหานคร[/b] เล่าถึงความยากลำบากของการที่เล่าถึงความยากลำบากในการโดยสารรถไฟฟ้าที่มีอุปสรรคตั้งแต่หมุนวงล้อแรก นอกจากจะเป็นสิ่งที่เหล่ามนุษย์ล้อต้องพบเจอ มันยังเป็นอุปสรรคสำคัญในการเดินทางของผู้สูงอายุ เด็ก และนักท่องเที่ยวที่มีกระเป๋าใบใหญ่อีกด้วย
[b]หากเป็นชั่วโมงเร่งด่วนวันธรรมดา ที่ต้องเบียดเสียดไปกับฝูงชน แทบไม่มีที่สำหรับรถเข็น รวมทั้งผู้พิการประเภทอื่น[/b] อย่าง สัญญาณไฟกระพริบบนป้าย เพื่อบอกผู้พิการทางการได้ยินให้รู้ว่าถึงสถานีใดแล้ว หรือแม้แต่ การใช้ผิวสัมผัสวัสดุปูพื้นสำหรับผู้พิการทางสายตารอบสถานี ถือเป็นรายละเอียดที่ทำให้ผู้พิการสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้เทียบเท่ากับคนทั่วไป [b]การเชื่อมต่อระหว่างระบบ ก็เป็นอุปสรรคไม่น้อย[/b] และหากถ้าเปรียบสิทธิ์ของคนพิการด้วยการเข้าถึงผ่านลิฟต์ของสถานีเอ็มอาร์ทีแล้ว พวกเขาคงมีสิทธิ์เพียงครึ่งเดียว เพราะสถานีทั้งหมด 18 แห่งที่มีทางเข้าออก61จุดแต่กลับมีลิฟต์แบะทางลาดเพียง30จุดเท่านั้น
นายมานิตย์ อินทร์พิมพ์ ตัวแทนของมนุษย์ล้อได้พาไปสำรวจการใช้ชีวิตของคนพิการกับระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัยที่สุดของกรุงเทพมหานคร