เกษตรกรจะปรับตัวเข้าสู่สวนยาง 4.0 ได้อย่างไร
[/p]
ปัจจุบัน ทั่วโลกตั้งเป้าพัฒนาประเทศเข้าสู่ยุค 4.0 โดยใช้นวัตกรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกยางพารามากเป็น อันดับ 1 ของโลก ตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมา โดย ร้อยละ 86 ส่งออกยางในรูปวัตถุดิบประเภทยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง STR หรือน้ำยางข้น จำนวน 3.7 ล้านตัน ต่อปี สร้างรายได้เข้าประเทศ 1.7 แสนล้านบาท ต่อปี และแปรรูปยางพาราสำหรับใช้ภายในประเทศ แค่ร้อยละ 14 คิดเป็นมูลค่า 2.3 แสนล้านบาท ต่อปี ถือว่าสร้างมูลค่าทางการค้าสูงกว่าการส่งวัตถุดิบไปขายต่างประเทศเสียอีก
รัฐบาลเร่งปรับปรุงโครงสร้างยางพาราของไทยเพื่อก้าวเข้าสู่ยุค “นโยบายไทยแลนด์ 4.0” อย่างชัดเจน ตั้งแต่ ปี 2559 เป็นต้นมา เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน โดยมุ่งส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น เช่น โครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ จำนวน 1 แสนตัน โดยมอบหมายให้ กยท. เปิดจุดรับซื้อยางพาราจากเกษตรกรในราคาชี้นำตลาด ยางพาราแผ่นดิบคุณภาพ ชั้น 3 รับซื้อในราคา 45 บาท ต่อกิโลกรัม หลังจากเปิดซื้อยางได้แค่ 2,892 ตัน ก็ฉุดราคายางภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้นจากเดิม กิโลกรัมละ 33 บาท เป็น 50 กว่าบาท
[b]ในปี 2560 ภาครัฐเร่งสานต่อโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยสำรวจความต้องการของหน่วยงานภาครัฐ พบว่ามีปริมาณความต้องการใช้ยางกว่า 5,800 ตัน เช่น โครงการล้อยางประชารัฐ [/b]
เกษตรกรจะปรับตัวเข้าสู่สวนยาง 4.0 ได้อย่างไร