'The guidelight' เพื่อนช่วยเรียนของคนตาบอด
[/p]
[b]“The guidelight” พื้นที่ช่วยกันเรียนของเพื่อนตาดีและเพื่อนตาบอด ให้ใช้ใจอาสาและการแบ่งปัน เพื่อประสบความสำเร็จในการเรียนไปด้วยกัน[/b]
ตำราเรียนเล่มโตไม่มีเสียง ชีทเลคเชอร์ดีๆ ก็คงไม่มีใครแปลเป็นอักษรเบรลล์ให้อ่าน บางครั้งได้หนังสือมา 7 วันก่อนสอบ ถามว่าจะอ่านจะเก็งกันทันไหม นี่[b]คืออุปสรรคสำคัญในการเรียนมหาวิทยาลัยของน้องๆ ผู้พิการทางสายตา ที่จุดประกายให้ “จูน-เมธาวี ทัศนาเสถียรกิจ”อดีตนิสิตนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วัย 24 ปี คิดก่อตั้ง “The guidelight” (เดอะไกด์ไลท์) ขึ้น เพื่อช่วยเพื่อนตาบอดให้ประสบความสำเร็จในการเรียน[/b]
[b]ระหว่างเรียนกฎหมาย เธอช่วยอ่านชีทและตำราเรียนให้เพื่อนตาบอดได้ฟังก่อนสอบ สิ่งเล็กๆ ที่ทำในตอนนั้น ช่วยให้ “นิว-นุวัตร ตาตุ” นิสิตปริญญาโทผู้พิการทางสายตาที่ฝันอยากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยสามารถเรียนจบได้[/b]
“วันที่สอบผ่าน พี่นิวโทรมาหา บอกว่า พี่โทรหาพ่อ หาแม่ แล้วโทรหาจูนเป็นคนที่สามเลยนะ พี่อยากให้จูนรู้ว่า จูนทำให้พี่เข้าใกล้ความฝันมากขึ้น ถ้าไม่มีจูนพี่ก็คงไม่เข้าใกล้ความฝันขนาดนี้ วันนั้นรู้สึกขนลุก คิดว่าชีวิตเรามีค่ากับคนอื่นขนาดนี้เลยเหรอ [b]เลยเป็นแรงบันดาลใจว่า คงต้องลงมือทำอะไรสักอย่างเสียที เพื่อช่วยเพื่อนตาบอดและคนอื่นๆ[/b]” แต่คนตัวเล็ก มีแค่ความฝัน เธอจะไปทำอะไรได้ [b]จูนเลยตัดสินใจไปลงเรียนหลักสูตรผู้ประกอบการทางสังคม ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) แล้วหอบเอาความฝันไปให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญได้ร่วมกันก่อประกอบ[/b]
การได้ลงเรียนวิชากิจการเพื่อสังคมกับรุ่นพี่ [b]มูลนิธิอโชก้า สอนให้เธอรู้จักการ “ขุดปัญหา” เธอได้เรียนรู้ว่า โครงการเพื่อสังคมไหนที่เกิดจากการมโนขึ้นเองว่านั่นคือปัญหา[/b] โครงการนั้นจะเกิดและโตไม่ได้ หรือแม้โตได้ก็จะตายในที่สุด นั่นเองที่ทำให้เธอเริ่มทำวิจัยอย่างจริงจัง ทั้งหาข้อมูล และสอบถามผู้คน เพื่อให้เข้าใจปัญหาของคนตาบอดมากขึ้น
ในตอนแรกก็คิดแบบเด็กใจร้อนที่แค่อยากให้โครงการเกิดขึ้นเร็วๆ เลยคิดทำทริปที่ให้คนตาบอดนำคนตาดีเที่ยว ทว่าความฝันแบบโลกสวยก็แตกสลาย เมื่อได้เจอกูรูจากกิจกรรม HelpDesk โปรแกรมช่วยให้คำปรึกษาสำหรับคนเริ่มทำกิจการเพื่อสังคมของ School of Changemakers คนมีประสบการณ์มากกว่าบอกเธอว่า [b]สิ่งที่ทำดูวุ่นวายและเป็นไปได้ยาก เลยให้ลองเล่าเหตุผลที่อยากทำกิจการเพื่อสังคมเพื่อคนตาบอดอีกครั้ง[/b]..
“ในตอนนั้น [b]คีย์เวิร์ดที่จูนพูดถึงมากที่สุดคือ เพื่อนตาบอด เรียนหนังสือ และเรียนจบ พี่เขาเลยบอกว่า ทำไมไม่ทำเรื่องการศึกษาให้เด็กตาบอดเรียนจบล่ะ ในเมื่อมีความต้องการอยู่[/b] และยังไม่มีคนทำ ที่สำคัญจูนเป็นคนนั้นที่รู้แล้วว่าทำอย่างไรให้เด็กตาบอดเรียนจบได้ ครบทั้ง 3 องค์ประกอบ คือ ปัญหามีอยู่จริง ยังไม่มีใครทำ และจูนก็มีสกิลตรงนั้น”
[b]คำแนะนำในตอนนั้นเปิดโลกที่มืดมิดของเธอให้สว่างไสวขึ้น จนได้ผลผลิตจากความฝันที่ชื่อ “The guidelight” พื้นที่ช่วยกันเรียนของเพื่อนตาดีและเพื่อนตาบอด แพลทฟอร์มออนไลน์ เว็บไซต์ The guidelight[/b] [url=http://theguide-light.com/] http://theguide-light.com/[/url] ที่รวบรวมสื่อการเรียนให้กับนักศึกษาตาบอด โดยเปิดพื้นที่ให้อาสาสมัครตาดีมาช่วยกันพิมพ์ตำราเรียน เอกสารประกอบการเรียนและตัวอย่างข้อสอบกันคนละ 5 หน้า พอพิมพ์เสร็จก็จะมีโปรแกรมช่วยแปลงเนื้อหานั้นให้เป็นไฟล์เสียง เพื่อให้นิสิตตาบอดได้ฟัง [b] “จากเดิมที่เขาได้หนังสือ 7 วันก่อนสอบ หรือหลายๆ เดือน กว่าจะได้ ตอนนี้แค่ 1-2 สัปดาห์ เด็กตาบอดก็ได้หนังสือครบแล้ว ซึ่งการได้หนังสือเร็วก็แปลว่า เขามีเวลามากขึ้น และมีสิทธิที่จะสอบผ่านได้มากขึ้นด้วย” [/b] เธอบอกผลลัพธ์
ภาพประกอบจากเว็บไซต์ The guidelight