จากก้นบึ้งหัวใจ 'ครูสอนเด็กพิเศษ' ไม่มีหรอกลูกศิษย์ฉัน เป็น 'นายกฯ'
[b]"เริ่มแรก คือ ตอนวัยรุ่น ครูได้ยินหลายคน พูดถึงเด็กพิเศษว่า เป็นคนบ้า เลยเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมต้องพูดถึงเด็กกลุ่มนี้แบบนั้น? เขาเป็นแบบนั้นจริงๆ หรอ? จึงตัดสินใจเลือกศึกษาในแผนการศึกษาพิเศษ[/b] ในตอนนั้นถือว่าเป็นสาขาที่ใหม่มาก และรู้สึกไม่ต้องแข่งขันกับใคร พอเรียนจบมีโอกาสมาสอนนักเรียนอย่างจริงจัง จึงอยากเปลี่ยนความคิดและความเข้าใจของหลายๆ คน ว่า เราควรช่วยเด็กกลุ่มนี้ ไม่ใช่ใช้คำพูดว่าเขา"
[b]ตั้งแต่มาเป็นครูสอนเด็กพิเศษเคยเจอปัญหาหรืออุปสรรคในการทำงานอย่างไรบ้าง? ครูนี กล่าวว่า[/b]"เมื่อมาทำงานจึงทราบเลยว่า ปัญหาจริงๆ อยู่ที่ตัวเรา หากมีความตั้งใจและจริงใจ แทบจะขจัดปัญหาที่เข้ามา [b]แม้บางครั้งผู้ปกครองอาจไม่เห็นด้วยกับวิธีการสอน แต่ครูไม่ได้มองว่านั่นเป็นปัญหา กลับมองว่า เราควรให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ควรทำให้พวกเขาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับนักเรียน เพื่อปรับทัศนคติที่มีต่อเด็ก รวมถึงคนรอบข้าง ทำให้รู้ว่าเด็กพิเศษสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้[/b] อย่ามองว่าเขาเป็นเด็กพิเศษ ที่ไม่มีหัวใจ ไม่มีจิตใจ แท้จริงแล้ว เด็กเหล่านี้ต้องการกำลังใจจากคนรอบข้าง"
[b]ถ้าพูดถึงเรื่อง ความประทับใจ ตั้งแต่สอนเด็กพิเศษมา ก็น่าจะเป็นการที่เขาจำเราได้ ครั้งหนึ่งครูเคยไปราชานุกูล พอลงจากรถปรากฏว่า มีเด็กคนหนึ่งวิ่งมากอดแน่นมาก แล้วบอกว่า "ครูนี คิดถึงจังเลย" พอเราได้ยินก็รู้สึกดีนะ รู้สึกหายเหนื่อย[/b] เพราะอย่างน้อยเด็กก็ยังจำเราได้ ส่วนอีกคนที่ได้ยินข่าวมา เขาไปเป็นพนักงานพับผ้าที่โรงงาน คอยพับผ้าแล้วนำใสแพ็กใส่ห่อ ก็ได้รับคำชมจากผู้จ้างว่า เขาเป็นเด็กพิเศษก็จริง แต่สามารถทำงานได้ดีกว่าคนปกติ ตรงที่เขาเป็นคนตรงต่อเวลา ทำงานก็คือทำงาน ไม่มีแอบอู้ นี่ก็ทำให้เรารู้ว่า ลูกศิษย์ของเราสามารถพัฒนาได้จริงๆ สิ่งที่ครูพูดหรือสอนไม่ได้เสียเปล่า
[b]ในฐานะที่เป็นครูสอนเด็กพิเศษ อยากให้สังคมรู้ว่า เด็กพิเศษสามารถพัฒนาได้ ฉะนั้นอย่าปล่อยหรือทิ้งเขา แม้ว่าพวกเขาจะพัฒนาและเรียนรู้ไม่เท่าเด็กปกติ[/b] แต่พวกเขาก็ยังต้องการความช่วยเหลือ และต้องได้รับการพัฒนา ครูอยากให้มองเขาเป็นส่วนหนึ่ง อย่าคิดว่าเขาต่างจากคนทั่วไป เปิดโอกาสให้เขามีที่ยืนร่วมกับคนอื่นๆ เช่นกัน
[b]ด้านคุณครูอีกท่านหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้เริ่มต้นสอนเด็กพิเศษมาก่อน แต่ด้วยใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตา ทำให้คุณครูท่านนี้หันมาดูแลและสอนเด็กพิเศษอย่างจริงจังมากว่า 20 ปี เช่นกัน นั้นคือคุณครูอารีรักษ์ สิทธิโอสา หรือ ครูแดง[/b] "ก่อนหน้านี้ครูสอนนักเรียนปกติ แต่ที่ตัดสินใจมาสอนเด็กห้องพิเศษ เพราะเห็นว่าเขาอ่อน พอมาเป็นครูสอนเด็กห้องพิเศษ ต้องปรับตัวเยอะนะ เรียกว่าต้องปรับกันทุกๆ ปี เพราะครูเป็นคนใจร้อน ฉะนั้นไม้เรียวต้องวางห่างๆ มือ กลัวว่าจะคว้ามาตีเด็ก ต่อมาก็ไปอบรมใบประกาศนียบัตร 200 ชม. เพื่อมาเป็นครูสอนเด็กพิเศษ จากนั้นก็สอนมาตลอด"
คุณครูอารีรักษ์ สิทธิโอสา หรือ ครูแดง ครูสอนเด็กพิเศษ