สไลด์โชว์ จิตอาสา'ไกด์รันเนอร์'มาราธอนเพื่อคนตาบอดสู่เส้นชัย

เป็นเรื่องดีในยุคนี้สำหรับเทรนด์สุขภาพที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้หลายๆ คนใส่ใจตัวเอง หันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น โดย [b]"การวิ่ง" ถือเป็นหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากปฏิบัติได้ง่าย สะดวก ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์อื่นใดมาเป็นตัวช่วย เพียงแค่มีรองเท้ากีฬาดีๆ สักคู่ก็สามารถออกวิ่งได้แล้ว[/b] และถึงแม้จะเป็นวิธีออกกำลังกายที่ง่ายแสนง่ายเพียงใด แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถวิ่งได้ เพราะยังมีเพื่อนร่วมสังคมของเราอีกกลุ่มหนึ่งที่รู้สึกว่าการวิ่งเป็นสิ่งที่ยาก และอาจเป็นไปไม่ได้ด้วยความทุพพลภาพทางร่างกาย นั่นคือ [b]"คนพิการทางสายตา" นั่นเองทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้คนพิการทางสายตาได้มีโอกาสเอาชนะในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะทำได้อย่างกิจกรรมการวิ่ง ทางธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดจึงได้ร่วมมือกับสมาคมนักวิ่งเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย จัดแคมเปญ "Run with the Blind (รัน วิท เดอะ บลายด์)" ขึ้น[/b] ให้คนพิการทางสายตาได้เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันวิ่งมาราธอนประจำปี กับงาน [b]"สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด กรุงเทพมาราธอน ครั้งที่ 28" ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2558[/b] ซึ่งทุกท่านสามารถมีส่วนร่วมและช่วยเหลือให้พวกเขาพิชิตเป้าหมายได้โดยการ[b]สมัครเป็นจิตอาสา "ไกด์รันเนอร์ (Guide Runner)" เพื่อทุกก้าวที่จะวิ่งไปนั้นมีความปลอดภัยและมั่นคงที่สุด[/b] ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดจึงร่วมมือกับสมาคมนักวิ่งเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย จัดแคมเปญ "Run with the Blind (รัน วิท เดอะ บลายด์)"

[b]นายศักดิ์สิทธิ์ ปิติพงศ์สุนทร ผู้อำนวยการอาวุโส[/b] หัวหน้าฝ่ายบริหารภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์และการตลาด ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด กล่าวว่า [b]จากการที่ทางธนาคารได้จัดทำโครงการจิตอาสาหลายๆ โครงการ ทั้งการเป็นเจ้าภาพงานวิ่ง และโครงการที่เกี่ยวข้องกับคนพิการทางสายตา ทำให้ทราบว่าน้องๆ คนตาบอดเขาก็มีความต้องการที่จะออกกำลังกาย[/b] ต้องการที่อยากจะเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่นเดียวกับคนปกติทั่วไปในสังคม ประกอบกับหลักปรัชญาด้านการบริหารงานของธนาคาร เรื่อง Diversity and Inclusion คือการยอมรับและผนวกความแตกต่างของบุคคล อาทิ เชื้อชาติ ศาสนา เพศ รสนิยมทางเพศ สถานะทางสังคม อายุ และสภาพทางด้านร่างกาย เราจึงมองว่า[b]คนพิการทางสายตาเองก็ควรได้รับโอกาสที่จะทำกิจกรรมเหมือนคนปกติมีศักยภาพ และหนึ่งสิ่งที่ทำให้พวกเขากลับเข้าสู่สังคมเข้ามารวมเป็นส่วนหนึ่งได้ก็คือ การยอมรับความแตกต่างในสังคมด้วยการทำให้ทุกคนเข้าใจและรู้ว่าคนเราไม่เหมือนกัน[/b] แต่ก็ยังสื่อสารกันได้ ทำงานร่วมกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ รวมถึงสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข จึงเป็นที่มาสำหรับแคมเปญ "รัน วิท เดอะ บลายด์ (Run with the Blind)" ครั้งนี้ ซึ่ง[b]ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่จะเปิดประตูแห่งโอกาสให้คนพิการทางสายตาได้มีโอกาสท้าทายความสามารถของตัวเอง จากที่รู้สึกว่าการวิ่งเป็นสิ่งที่ยากและอาจเป็นไปไม่ได้ ด้วยการเข้าร่วมวิ่งมาราธอน[/b] โดยส่วนสำคัญของกิจกรรมดังกล่าวคือ การเปิดรับสมัครไกด์รันเนอร์ (Guide Runner) หรือนักวิ่งจิตอาสา เพื่อมาร่วมเป็นโค้ชผู้ฝึกซ้อมและผู้ดูแลนักกีฬาคนพิการทางสายตาตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่การฝึกซ้อมไปจนถึงการเข้าร่วมแข่งขันจริง "เป้าหมายสำหรับแคมเปญ 'รัน วิท เดอะ บลายด์' ไม่ใช่เพียงเรื่องสุขภาพที่จะได้ แต่เรามุ่งเน้นว่า[b]คนปกติจะมีความยอมรับซึ่งกันและกัน มีความเข้าใจในคนตาบอดที่อยากจะอยู่และกลับเข้ามาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างคนปกติ[/b] และเราควรช่วยสนับสนุนพวกเขาพิชิตเป้าหมายที่เหนือกว่าเส้นชัย มาสร้างความสุขความสำเร็จให้กับพวกเขาได้ จึง[b]อยากเชิญชวนให้ผู้ใจบุญ ผู้มีจิตอาสามาสมัครเป็น 'ไกด์รันเนอร์' ได้ตั้งแต่วันนี้ และไม่ว่าจะเป็นใคร อายุเท่าไหร่ ก็สามารถมาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ กับการทำบุญหลายต่อกับมาราธอนครั้งนี้ได้"[/b]คุณศักดิ์สิทธิ์เผย ด้าน[b]ผู้สมัครไกด์รันเนอร์ นายจิรวัฒน์ มีสุข อดีตนักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทย ผู้ฝึกสอนนักกรีฑาคนพิการทางสายตา กล่าวถึงแรงบันดาลใจการมาเป็นไกด์รันเนอร์ว่า[/b] เนื่องจากตัวเองก็เป็นคนพิการทางสายตา เพราะประสบอุบัติเหตุ ทำให้สูญเสียดวงตาไปหนึ่งข้าง แต่อีกหนึ่งข้างยังสามารถมองเห็นได้ แต่ก็ยังรักในกีฬาวิ่ง [b]จึงมีความสนใจอยากช่วยเหลือ ทั้งเป็นการทำบุญในการมอบโอกาสดีๆ เพื่อคนพิการทางสายตาให้มาลุกขึ้นวิ่งได้อีกครั้ง[/b] เพราะปัจจุบันมีคนตาบอดจำนวนมากต้องการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ซึ่งสำหรับพวกเขาการออกกำลังกายจะทำได้เพียงแค่การกระโดดตบ การซิตอัพ หรือการออกกำลังกายที่ทำอยู่กับที่ ไม่ต้องเคลื่อนไหวไปบริเวณอื่นๆ มากนักแต่ไม่ใช่ว่าเขาเหล่านั้นไม่ชอบที่จะวิ่งเพียงแต่ยังขาดไกด์รันเนอร์คอยแนะนำและช่วยเหลือด้านการวิ่ง โดย[b]ผู้ที่สนใจร่วมเป็นไกด์รันเนอร์จิตอาสาควรมีร่างกายที่แข็งแรง มีพื้นฐานความรู้เรื่องการวิ่ง มีทักษะด้านการบอกทิศทางด้วยเสียง ที่สำคัญคือมีความเข้าใจสภาพร่างกายจิตใจของคนพิการทางสายตา และต้องมีเวลาในการฝึกซ้อมการวิ่งร่วมกันกับคนพิการทางสายตา[/b] เพราะในการวิ่งเราจะต้องช่วยเหลือ วิ่งคู่ไปกับคนตาบอด โดยใช้วิธีจับศอกหรือใช้เชือกเกี่ยวกับมือในการวิ่งไปพร้อมกัน ดังนั้นจึงจะต้องเข้าใจจังหวะการเคลื่อนไหวได้อย่างลงตัว ในการสื่อสารบอกเส้นทางและสิ่งกีดขวาง เพื่อความปลอดภัยตลอดการวิ่งนั้น" ไกด์รันเนอร์จิตอาสากล่าว ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดจึงร่วมมือกับสมาคมนักวิ่งเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย จัดแคมเปญ "Run with the Blind (รัน วิท เดอะ บลายด์)"