เรื่องเล่าเมาแล้วขับ ตอน 3: หมวกกันน็อกไม่ช่วย! เมาซิ่ง ดับฝันงาน เงิน คนรัก
[b]ยามมืดมนคนสุดท้ายที่เคียงข้าคือ...? [/b] “ด้วยความที่การจ้างคนดูแลนั้นมีค่าใช้จ่ายสูงมากๆ เราจึงไม่สามารถจ้างคนดูแลได้ [b]โดยมีคุณแม่ของเราเป็นคนรับหน้าที่ดูแลเราทุกๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นพลิกตัว อาบน้ำ หรือถ่ายท้อง ท่านไม่เคยทอดทิ้งเราเลยก็เพราะกำลังใจจากท่าน ที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น” [/b] ประสม พูดถึงชีวิตของตนและคุณแม่อันเป็นที่รัก
[b]ในช่วง 2 ปีแรกหลังเกิดอุบัติเหตุ ประสมไม่ได้ลุกขึ้นมาจากที่นอนเลย เพราะร่างกายไร้แรงขยับเขยื้อน ไม่สามารถลุกนั่งได้[/b] ครั้นแม่จะจับให้ลุกขึ้นมานั่ง ก็วิงเวียนศีรษะ และอาเจียนทุกครั้งไป สุดท้ายเขาจึงจำเป็นต้องนอนซมอยู่ระยะเวลาหนึ่ง โดยขยับแข้งขยับขาไม่ได้นานราว 3 ปี
[b] “ตอนที่คุณพ่อ คุณแม่รู้ว่า เราจะต้องกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต ท่านเสียใจมาก แต่จะไปทำอะไรได้ เพราะเราทำตัวเราเอง เราประมาทเอง ไม่มีใครมากระทำ ก็ต้องยอมรับสภาพกันไป[/b] ถ้าถามว่า เข็ดไหม ก็ตอบได้ว่าไม่เข็ด บางทีก็ยังดื่มอยู่ แต่ไม่เยอะ ซึ่งเราคิดว่า เราเคราะห์ร้ายที่คอไปกระแทก ถ้าหันหลังกระแทก คงไม่พิการแบบนี้ แต่ถ้าจะให้ดื่มแล้วขับ สาบานว่าไม่ทำแน่นอน” มด ประสมยืนยันหนักแน่น
[b]ส่วนเพื่อนฝูงในกลุ่มเดียวกันก็ล้มหายตายจากไปเยอะ เพราะเกิดอุบัติทางรถมอเตอร์ไซค์เช่นกัน โดยมาจากสาเหตุเดียวกันก็คือ เมาแล้วขับ[/b] โดยตอนนี้เหลือเพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่วัยรุ่นเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งคนที่เหลือรอดคนเดียวนั้น เป็นคนที่ไม่ดื่มสุรา แต่ด้วยความที่ประสม ต้องกลายเป็นผู้พิการ เขาจึงไม่มีเพื่อนแท้แม้แต่คนเดียว และไร้คนรักเคียงคู่กายมาโดยตลอด
[b]ล้มต้องลุกได้!พิการแต่ทำทุกอย่างได้ดั่งคนปกติ กว่าร่างกายของประสมจะลุกขึ้นมานั่งได้เหมือนปกติ ใช้เวลาปีเศษๆ ที่จะต้องอดทน ฝืนร่างกายที่จะต้องเวียนหัวหน้ามืด พร้อมกับฝึกให้ร่างกายเกิดความสมดุล[/b] ซึ่งเป็นเวลาที่ยากลำบากสำหรับชายผู้นี้อย่างมาก แต่สุดท้ายเขาก็สู้ไม่ถอย จนในที่สุดเขาก็สามารถนั่ง และขับรถไปไหนมาไหนได้โดยสะดวก อีกทั้งยังมีใบขับขี่สำหรับคนพิการ แต่กว่าจะสอบผ่านมาได้ เขาต้องเข้าสอบถึง 6 ครั้ง กว่าจะได้ใบขับขี่มาครอบครอง
“ถึงแม้ในวันข้างหน้าเราอาจจะมีเงินเป็นร้อยล้าน ก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้แล้ว สิ่งที่ทำได้วันนี้ จะมีก็แต่ร่างกายที่เรามีอยู่ตอนนี้ให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเอง คนรอบข้างและสังคมให้มากที่สุด [b]อย่ามองว่าคนพิการจะต้องเป็นภาระ แต่คนพิการก็ถือว่าเป็นบุคคลธรรมดาๆ ที่สามารถพัฒนาตัวเอง สามารถหารายได้ มีเงินมีทองใช้ไม่แพ้คนขาแข้งดีๆ” [/b] ประสม สุกแสวง
ทีมนักกีฬาวีลแชร์รักบี้ทีมชาติ