สไลด์โชว์ กฤษนะทัวร์ยกล้อ:'อารยสถาปัตย์รถเมล์ไทย'

กฤษนะ ละไล และผู้ร่วมประชุมเรื่องการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 3,183 คัน

[/p] [b]'อารยสถาปัตย์รถเมล์ไทย' : คอลัมน์ กฤษนะทัวร์ยกล้อ โดย.. กฤษนะ ละไล[/b] เมืองไทยกำลังจะมีการปฏิวัติระบบขนส่งมวลชน ประเภทรถเมล์ ครั้งสำคัญในช่วงการก้าวไปสู่ประชาคมอาเซียนภายในปีหน้า โดย [b]ขสมก. หรือ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม กำลังได้ข้อสรุปในการเปิดประมูล และจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี หรือรถเมล์ใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ จำนวน 3,183 คัน มูลค่า 13,162.2 ล้านบาท[/b] นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญในการพัฒนาระบบรถเมล์ขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานคร เพื่อให้เกิดความสะดวก และปลอดภัย [b]สมดังคำขวัญของกระทรวงคมนาคมยุคใหม่ ที่เน้นว่า “สะดวก ปลอดภัย ใส่ใจคนพิการ” ซึ่งก็ถือว่ามาถูกทางแล้ว[/b] เพราะถ้าเราทำระบบขนส่งมวลชนต่างๆให้คนพิการสามารถเข้าถึงได้ และใช้บริการได้โดยสะดวก และปลอดภัยแล้ว คนกลุ่มอื่นๆ ก็จะพลอยได้รับความ สะดวก และปลอดภัยไปด้วย [b]โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ตำรวจทหารผ่านศึก ผู้ที่มีสุขภาพไม่แข็งแรง ผู้ป่วยพักฟื้น รวมถึงสตรีมีครรภ์ และเด็กเล็ก[/b] ภาพวาดการ์ตูนกฤษนะ ละไล ผู้ประกาศข่าวพิการนั่งรถเข็น

[/p] แต่ประเด็นปัญหาขณะนี้ อยู่ที่ว่า จำนวนรถเมล์เอ็นจีวีทั้ง 3,183 คัน ที่กำลังจะมีการจัดซื้อกันมานั้น ขสมก.ยอมให้ใช้แบบโลว์ฟลอร์ หรือเป็นรถเมล์แบบชานต่ำที่คนพิการ และผู้สูงอายุขึ้นลงได้สะดวกปลอดภัย [b]เฉพาะรถเมล์แบบปรับอากาศ หรือรถ ปอ.จำนวน 1,524 คันเท่านั้น[/b] ส่วนที่เหลืออีก 1,659 คัน ซึ่งเป็นรถเมล์แบบธรรมดา หรือรถเมล์ร้อนนั้น ขอให้เป็นแบบเดิม คือ เป็นรถเมล์แบบพื้นสูง มีบันได 3 ขั้น [b]จะเดินขึ้นเดินลงก็ลำบาก และอันตราย มีหลายคนเคยก้าวตกบันไดรถเมล์[/b]จนกลายเป็นข่าวขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ มานักต่อนักแล้ว แต่ที่ ขสมก.จะทำเพิ่มขึ้นมาสำหรับรถเมล์ร้อนล็อตใหม่ คือ การติดตั้งลิฟต์ขึ้นลงสำหรับให้บริการผู้สูงอายุ และผู้พิการ หรือผู้ที่ต้องใช้รถเข็นวีลแชร์ โดย ขสมก.อ้างว่า [b]มีปัญหาเรื่องคอสะพานในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 11 จุด ที่มีลักษณะสูงชัน ทำให้รถเมล์แบบชานต่ำวิ่งผ่านไม่ได้[/b] จึงจำเป็นต้องใช้รถเมล์แบบพื้นสูงหนีน้ำท่วมกันต่อไป เรื่องนี้กำลังเป็นที่จับจ้องมองดูกันอยู่ว่า [ub]สาเหตุที่อยู่เบื้องหลังแท้จริง เพราะอะไรกันแน่? [/ub] ทีแรก ขสมก.เคยอ้างว่าที่ต้องใช้รถเมล์พื้นสูงๆนั้น ก็เพื่อหนีน้ำท่วม แต่พอถูกโต้แย้งด้วยเหตุผลต่างๆ (เช่น น้ำท่วมใหญ่ 20-30 ปีมีมาหน ,ใจคอจะปล่อยให้กรุงเทพฯ ถูกน้ำท่วมถล่มยับแบบปี 54 กันอีกเหรอ ! งบ 3.5 แสนล้าน เอาไปทำอะไร?) [b]ในที่สุด ก็ไม่มีข้ออ้างเรื่องน้ำท่วมอีกต่อไป[/b] ภาพวาดการ์ตูน รถเมล์เพื่อทุกคน

มาถึงเรื่องคอสะพาน ซึ่งได้เคยมีการพบปะหารือเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันระหว่างกรุงเทพมหานคร โดยรองผู้ว่าฝ่ายโยธาฯ คุณจุมพล สำเภาพล กับคุณนเรศ บุญเปี่ยม รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก.เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ โดยทาง กทม.ยืนยันว่า ปัญหาเรื่องคอสะพานสูงชัน สำรวจเบื้องต้นพบว่ามีอยู่ 7 จุด ที่อาจเป็นอุปสรรคในการใช้รถเมล์ชานต่ำ ซึ่ง กทม.โดยรองฯจุมพล ยืนยันว่า [b]เป็นเรื่องเล็กน้อยที่แก้ไขได้ไม่ยาก ใช้เวลาไม่นาน และพร้อมจะให้ความร่วมมือกับ ขสมก.อย่างเต็มที่เพื่อขจัดอุปสรรคต่างๆในการที่จะนำเอารถเมล์แบบชานต่ำมา ใช้ในเมืองไทยเหมือนในนานาอารยประเทศทั่วโลก [/b] [b]คุณนเรศ บุญเปี่ยม รักษาการ ผอ.ขสมก. บอกว่า[/b] อาจเป็นไปได้ ที่ ขสมก.จะสั่งซื้อเฉพาะรถเมล์ปรับอากาศที่เป็นแบบชานต่ำทั้งหมด มาทดลองให้บริการก่อน ส่วนรถเมล์ร้อนที่ยังติดปัญหาเรื่องคอสะพาน อาจต้องใช้เวลาพิจารณาหาข้อสรุปกันอีกที ขณะที่ [b]คุณอุดมโชค ชูรัตน์ ประธานเครือข่ายรถเมล์เพื่อประชาชน ทุกคนขึ้นได้ทุกคัน มองว่า[/b] ถึงเวลาแล้วที่เมืองไทยจะต้องมีระบบขนส่งมวลชนที่เป็นอารยสถาปัตย์ เอื้อต่อการเข้าถึง และใช้ประโยชน์ได้ของคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสภาพร่างกาย [b]เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับความสะดวก และปลอดภัยในการใช้บริการระบบขนส่งมวลชนทุกรูปแบบ[/b] โดยเฉพาะรถเมล์เอ็นจีวีที่ ขสมก.กำลังจะนำมาให้บริการในกรุงเทพฯนั้น [b]จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อให้ทุกคนต้องขึ้นได้ทุกคัน เพราะนี่คือสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนในการเข้าถึงบริการของรัฐ[/b] อีกทั้ง ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ ขสมก.จะใช้รถเมล์ร้อนเป็นแบบมีบันไดสูงๆ เหมือนเดิม แม้จะมีการติดตั้งลิฟต์สำหรับใช้ขึ้นลงให้แทน แต่คนพิการมองว่า ไม่สะดวกในการใช้งาน การดูแลรักษายุ่งยากกว่ารถเมล์แบบชานต่ำที่ใช้ทางลาดเชื่อมไปที่ฟุตบาท ประหยัดงบประมาณได้มากกว่า ภาพวาดการ์ตูน รถเมล์เพื่อทุกคน