ม็อบจิ๋ว...'เด็กสวนลุม'….เสียงดังจากนกหวีด อาจทำให้ประสาทหูเสื่อม
[b]"น้องวิว" วัย 8 ขวบ[/b] เพื่อนเล่นของน้องหลินที่เดินทางมากับพ่อจากสุราษฎร์ธานี มาร่วมชุมนุมเกือบ 3 เดือนแล้ว กิจวัตรประจำวันของหนูน้อยคนนี้คือการนำหนังสือที่ได้รับบริจาค มาวางให้ผู้ร่วมชุมนุมหยิบไปอ่านฟรีๆ หากช่วงไหนมีเวลาว่างก็อ่านหนังสือให้เด็กคนอื่นฟัง พอตกเย็นราว 4 โมง จะเก็บหนังสือลงกล่อง แล้วไปเดินเล่นหาข้าวกินและอาบน้ำ ก่อนมานั่งรอดูลุงกำนัน เมื่อลุงกำนันพูดจบจะเล่นกับเพื่อนๆ วัยเดียวกันอีกพักก่อนเข้านอนในเต็นท์
[b]"สนุกดี เวทีมีคนผ่านไปผ่านมาเยอะ บางครั้งก็รู้จัก[/b] คนที่เคยเห็นก็ได้เห็นอีกครั้ง ได้อ่านหนังสือ ถ้าหนูอยู่บ้านไม่ได้ทำอะไร หนูชอบที่ชุมนุมมีเพื่อนเยอะกว่าอยู่บ้าน" น้องวิวบอกเล่าความรู้สึกหลังจากมาร่วมชุมนุมกับผู้ใหญ่นานกว่า 3 เดือน ถ้าเกิดเหตุรุนแรงจะกลัวหรือไม่ "น้องวิว" ตอบทันทีว่า ไม่กลัว อย่างแรกขอให้ทุกคนมีสติก่อน แล้วค่อยพยายามหาทางหนี ถ้ามีคนบาดเจ็บก็เรียกให้เขามีสติแล้วเรียกคนมาช่วย
ขณะที่ [b]"จิรภา อรุณไทย" คุณแม่วัย 39 ปี พาลูกชายวัยขวบเศษ มาจากสุราษฎร์ธานี [/b]กำลังจับจองพื้นที่หน้าเวทีปราศรัย ยอมรับว่า เพิ่งมานอนที่สวนลุมพินีเป็นคืนแรก ตอนนี้สามีกำลังไปซื้อเต็นท์ ที่นี่มีห้องน้ำ อาหารพร้อม เหตุที่พาลูกมาด้วยเพราะลูกยังกินนมตัวเองอยู่
[b]ไม่ต่างจาก "สมชาย ซอหิรัญ" คุณพ่อวัย 50 ปี นั่งรถทัวร์มากับลูกชายวัย 2 ขวบและภรรยา[/b] พวกเขามาร่วมชุมนุมกว่า 10 ครั้งแล้ว และพาลูกมาเกือบทุกครั้ง
[b]"เรามาทำหน้าที่ของเรา เราทำเพื่อลูก ลูกของเราอยู่บ้านไม่มีใครเลี้ยง[/b] การปล่อยลูกไว้ไม่มีคนเลี้ยงนี่แหละคือการทำร้ายลูก เลยเอาลูกมาด้วย ไม่มีอะไรน่ากลัว พวกเขาพูดเรื่องสิทธิเด็กทำไมกัน ลูกผมสบายดีไม่มีปัญหาอะไร ที่นี่ปลอดภัยยิ่งกว่าปล่อยลูกไว้ แล้วเราไม่อยู่บ้าน ลูกอาจเกิดอันตรายมากกว่า เราไม่มีญาติช่วยเลี้ยง ไม่พาลูกมาลูกก็ขาดความอบอุ่น สิ่งที่เรามาทำเพื่อลูกก็ไม่มีความหมาย เลยเอาลูกมาด้วยเลย ไม่ชนะไม่กลับ"
ภาพ เด็กๆ ในที่ชุมนุม