เปิดโปงล็อกสเปกประมูลรถเมล์ NGV 3,183 คัน ทำแก๊งงาบเงินทอนอารมณ์ค้าง
[/p]
หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” มีมติอนุมัติโครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาท รวมค่าซ่อมบำรุง 10 ปี วงเงินประมาณ 13,858.408 ล้านบาท มูลค่าทั้งโครงการ 27,020.608 ล้านบาท [b]ได้มีความพยายามเร่งรัดการประมูลด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชัน) หวังจะรวบรัดตัดตอน[/b] แต่ทันทีที่เปิดร่างTOR ลงเว็บไซต์ ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่า กระบวนการล็อกสเปกถูกวางไว้นานแล้วนั้น...เป็นจริง [b]ซึ่งในแวดวงผู้ประกอบการอู่ต่อรถโดยสารภายในประเทศยืนยันว่าเงื่อนไข TOR ที่ ขสมก.ประกาศ โดยแบ่งประมูลรถโดยสารธรรมดาจํานวน 1,659 คัน ราคากลางที่กำหนดรถร้อน 3.8 ล้านบาท/คัน รถโดยสารปรับอากาศจํานวน 1,524 คัน ราคากลาง 4.5 ล้านบาท/คัน นั้นมีการล็อกเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ค่ายรถจากจีน[/b]รับออเดอร์รถปรับอากาศไป ส่วนรถร้อนจะเป็นของค่ายรถญี่ปุ่นที่จะได้แบบเหมาเข่งจัดสรรกันไว้ตั้งแต่ แรก และที่สำคัญสเปกรถร้อนที่ล็อกเพื่อเอื้อค่ายรถญี่ปุ่นรายนั้น ในวงการอู่ต่อรถรู้กันแล้วว่าจะใช้แชสซีส์รถบรรทุกมาดัดแปลงทำเพื่อให้เหลือ ส่วนต่างเป็นเงินทอนมากที่สุด เพื่อจ่ายให้กลุ่มอำนาจที่อนุมัติโครงการนี้นั่นเอง
[b] “เพราะบริษัทรถค่ายญี่ปุ่นได้เข้าติดต่ออู่ต่อรถในไทยให้ทำการดัดแปลงแชสซีส์รถบรรทุก ใช้ CNG เป็นรถโดยสาร[/b] ในแวดวงรู้กันหมด ปิดบังไม่ได้หรอก และที่อู่รถส่วนใหญ่ไม่รับงานทั้งๆ ที่กำไรก้อนใหญ่กองตรงหน้า เพราะรู้ดีว่าถ้าใช้แชสซีส์รถบรรทุกมาดัดแปลงอาจจะมีปัญหาความปลอดภัย [b]แม้หลายคนจะมองข้ามเรื่องนี้โดยอ้างว่ารถเมล์วิ่งในกทม.ไม่เร็วมากอุบัติเหตุไม่รุนแรง...แต่นี่คือชีวิตคนกว่า 5 ล้านคนที่ใช้บริการ” [/b]
ด้านอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดศึกษาเฝ้าระวังโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน ที่มีนายไพโรจน์ วงศ์วิภานันท์ เป็นประธาน [b]ได้เปิดเผยข้อมูลหลังตรวจสอบพบความไม่ถูกต้องในการประมูลหลายเรื่อง[/b] เช่น ราคากลางรถร้อน 3.8 ล้านบาท/คัน และรถปรับอากาศ 4.5 ล้านบาท/คัน สูงเกินจริง ซึ่ง ขสมก.ยืนยันว่าได้ราคามาจากบริษัทรถซึ่งเป็นราคาขายในแค็ตตาล็อกรวมภาษีและ กำไรไปแล้ว จะใช้อ้างอิงเป็นราคากลางไม่ได้ เพราะ ขสมก.กำหนดนำเข้ามาประกอบ ต้องคิดราคากลางแยกชิ้น เสียภาษีอัตราต่ำกว่านำเข้าทั้งคัน
[b] “เรื่องนี้อีกไม่นานอนุฯ ป.ป.ช.คงเปิดเผยราคารถ อัตราภาษี ที่เกี่ยวข้องแบบละเอียดยิบแน่นอน[/b] โดยแหล่งข่าวจากอู่ต่อรถรายหนึ่งยืนยันว่า อู่ต่อรถที่แพงที่สุดในประเทศไทยระบุว่า ค่าต่อตัวถังรถร้อนรวมภาษีแล้วจะอยู่ที่ 1 ล้านบาท/คัน รถปรับอากาศรวมแอร์ รวมภาษีแล้วไม่เกิน 1.7 ล้านบาท/คัน ที่เหลือเป็นค่าแชสซีส์ คิดดูว่าแชสซีส์แพงเกินไปหรือไม่”
ภาพวาดการ์ตูน รถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนต้องขึ้นได้
![[/p]
หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” มีมติอนุมัติโครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาท รวมค่าซ่อมบำรุง 10 ปี วงเงินประมาณ 13,858.408 ล้านบาท มูลค่าทั้งโครงการ 27,020.608 ล้านบาท [b]ได้มีความพยายามเร่งรัดการประมูลด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชัน) หวังจะรวบรัดตัดตอน[/b] แต่ทันทีที่เปิดร่างTOR ลงเว็บไซต์ ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่า กระบวนการล็อกสเปกถูกวางไว้นานแล้วนั้น...เป็นจริง [b]ซึ่งในแวดวงผู้ประกอบการอู่ต่อรถโดยสารภายในประเทศยืนยันว่าเงื่อนไข TOR ที่ ขสมก.ประกาศ โดยแบ่งประมูลรถโดยสารธรรมดาจํานวน 1,659 คัน ราคากลางที่กำหนดรถร้อน 3.8 ล้านบาท/คัน รถโดยสารปรับอากาศจํานวน 1,524 คัน ราคากลาง 4.5 ล้านบาท/คัน นั้นมีการล็อกเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ค่ายรถจากจีน[/b]รับออเดอร์รถปรับอากาศไป ส่วนรถร้อนจะเป็นของค่ายรถญี่ปุ่นที่จะได้แบบเหมาเข่งจัดสรรกันไว้ตั้งแต่ แรก และที่สำคัญสเปกรถร้อนที่ล็อกเพื่อเอื้อค่ายรถญี่ปุ่นรายนั้น ในวงการอู่ต่อรถรู้กันแล้วว่าจะใช้แชสซีส์รถบรรทุกมาดัดแปลงทำเพื่อให้เหลือ ส่วนต่างเป็นเงินทอนมากที่สุด เพื่อจ่ายให้กลุ่มอำนาจที่อนุมัติโครงการนี้นั่นเอง
[b] “เพราะบริษัทรถค่ายญี่ปุ่นได้เข้าติดต่ออู่ต่อรถในไทยให้ทำการดัดแปลงแชสซีส์รถบรรทุก ใช้ CNG เป็นรถโดยสาร[/b] ในแวดวงรู้กันหมด ปิดบังไม่ได้หรอก และที่อู่รถส่วนใหญ่ไม่รับงานทั้งๆ ที่กำไรก้อนใหญ่กองตรงหน้า เพราะรู้ดีว่าถ้าใช้แชสซีส์รถบรรทุกมาดัดแปลงอาจจะมีปัญหาความปลอดภัย [b]แม้หลายคนจะมองข้ามเรื่องนี้โดยอ้างว่ารถเมล์วิ่งในกทม.ไม่เร็วมากอุบัติเหตุไม่รุนแรง...แต่นี่คือชีวิตคนกว่า 5 ล้านคนที่ใช้บริการ” [/b]
ด้านอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดศึกษาเฝ้าระวังโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน ที่มีนายไพโรจน์ วงศ์วิภานันท์ เป็นประธาน [b]ได้เปิดเผยข้อมูลหลังตรวจสอบพบความไม่ถูกต้องในการประมูลหลายเรื่อง[/b] เช่น ราคากลางรถร้อน 3.8 ล้านบาท/คัน และรถปรับอากาศ 4.5 ล้านบาท/คัน สูงเกินจริง ซึ่ง ขสมก.ยืนยันว่าได้ราคามาจากบริษัทรถซึ่งเป็นราคาขายในแค็ตตาล็อกรวมภาษีและ กำไรไปแล้ว จะใช้อ้างอิงเป็นราคากลางไม่ได้ เพราะ ขสมก.กำหนดนำเข้ามาประกอบ ต้องคิดราคากลางแยกชิ้น เสียภาษีอัตราต่ำกว่านำเข้าทั้งคัน
[b] “เรื่องนี้อีกไม่นานอนุฯ ป.ป.ช.คงเปิดเผยราคารถ อัตราภาษี ที่เกี่ยวข้องแบบละเอียดยิบแน่นอน[/b] โดยแหล่งข่าวจากอู่ต่อรถรายหนึ่งยืนยันว่า อู่ต่อรถที่แพงที่สุดในประเทศไทยระบุว่า ค่าต่อตัวถังรถร้อนรวมภาษีแล้วจะอยู่ที่ 1 ล้านบาท/คัน รถปรับอากาศรวมแอร์ รวมภาษีแล้วไม่เกิน 1.7 ล้านบาท/คัน ที่เหลือเป็นค่าแชสซีส์ คิดดูว่าแชสซีส์แพงเกินไปหรือไม่”
ภาพวาดการ์ตูน รถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนต้องขึ้นได้]([/p
อี-ออกชัน
[b
ป.ป.ช.
[b
/images/upload/2013-10-09-278-0-56-10-09-12.JPG)
เปิดโปงล็อกสเปกประมูลรถเมล์ NGV 3,183 คัน ทำแก๊งงาบเงินทอนอารมณ์ค้าง[/p] หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” มีมติอนุมัติโครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาท รวมค่าซ่อมบำรุง 10 ปี วงเงินประมาณ 13,858.408 ล้านบาท มูลค่าทั้งโครงการ 27,020.608 ล้านบาท [b]ได้มีความพยายามเร่งรัดการประมูลด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชัน) หวังจะรวบรัดตัดตอน[/b] แต่ทันทีที่เปิดร่างTOR ลงเว็บไซต์ ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่า กระบวนการล็อกสเปกถูกวางไว้นานแล้วนั้น...เป็นจริง [b]ซึ่งในแวดวงผู้ประกอบการอู่ต่อรถโดยสารภายในประเทศยืนยันว่าเงื่อนไข TOR ที่ ขสมก.ประกาศ โดยแบ่งประมูลรถโดยสารธรรมดาจํานวน 1,659 คัน ราคากลางที่กำหนดรถร้อน 3.8 ล้านบาท/คัน รถโดยสารปรับอากาศจํานวน 1,524 คัน ราคากลาง 4.5 ล้านบาท/คัน นั้นมีการล็อกเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ค่ายรถจากจีน[/b]รับออเดอร์รถปรับอากาศไป ส่วนรถร้อนจะเป็นของค่ายรถญี่ปุ่นที่จะได้แบบเหมาเข่งจัดสรรกันไว้ตั้งแต่ แรก และที่สำคัญสเปกรถร้อนที่ล็อกเพื่อเอื้อค่ายรถญี่ปุ่นรายนั้น ในวงการอู่ต่อรถรู้กันแล้วว่าจะใช้แชสซีส์รถบรรทุกมาดัดแปลงทำเพื่อให้เหลือ ส่วนต่างเป็นเงินทอนมากที่สุด เพื่อจ่ายให้กลุ่มอำนาจที่อนุมัติโครงการนี้นั่นเอง [b] “เพราะบริษัทรถค่ายญี่ปุ่นได้เข้าติดต่ออู่ต่อรถในไทยให้ทำการดัดแปลงแชสซีส์รถบรรทุก ใช้ CNG เป็นรถโดยสาร[/b] ในแวดวงรู้กันหมด ปิดบังไม่ได้หรอก และที่อู่รถส่วนใหญ่ไม่รับงานทั้งๆ ที่กำไรก้อนใหญ่กองตรงหน้า เพราะรู้ดีว่าถ้าใช้แชสซีส์รถบรรทุกมาดัดแปลงอาจจะมีปัญหาความปลอดภัย [b]แม้หลายคนจะมองข้ามเรื่องนี้โดยอ้างว่ารถเมล์วิ่งในกทม.ไม่เร็วมากอุบัติเหตุไม่รุนแรง...แต่นี่คือชีวิตคนกว่า 5 ล้านคนที่ใช้บริการ” [/b] ด้านอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดศึกษาเฝ้าระวังโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คัน ที่มีนายไพโรจน์ วงศ์วิภานันท์ เป็นประธาน [b]ได้เปิดเผยข้อมูลหลังตรวจสอบพบความไม่ถูกต้องในการประมูลหลายเรื่อง[/b] เช่น ราคากลางรถร้อน 3.8 ล้านบาท/คัน และรถปรับอากาศ 4.5 ล้านบาท/คัน สูงเกินจริง ซึ่ง ขสมก.ยืนยันว่าได้ราคามาจากบริษัทรถซึ่งเป็นราคาขายในแค็ตตาล็อกรวมภาษีและ กำไรไปแล้ว จะใช้อ้างอิงเป็นราคากลางไม่ได้ เพราะ ขสมก.กำหนดนำเข้ามาประกอบ ต้องคิดราคากลางแยกชิ้น เสียภาษีอัตราต่ำกว่านำเข้าทั้งคัน [b] “เรื่องนี้อีกไม่นานอนุฯ ป.ป.ช.คงเปิดเผยราคารถ อัตราภาษี ที่เกี่ยวข้องแบบละเอียดยิบแน่นอน[/b] โดยแหล่งข่าวจากอู่ต่อรถรายหนึ่งยืนยันว่า อู่ต่อรถที่แพงที่สุดในประเทศไทยระบุว่า ค่าต่อตัวถังรถร้อนรวมภาษีแล้วจะอยู่ที่ 1 ล้านบาท/คัน รถปรับอากาศรวมแอร์ รวมภาษีแล้วไม่เกิน 1.7 ล้านบาท/คัน ที่เหลือเป็นค่าแชสซีส์ คิดดูว่าแชสซีส์แพงเกินไปหรือไม่” ภาพวาดการ์ตูน รถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนต้องขึ้นได้