กมธ.การพัฒนาสังคมฯ วุฒิสภา จัดเสวนา “รถเมล์ชานต่ำ : อนาคตระบบขนส่งสาธารณะสำหรับทุกคน”
สืบเนื่องจากคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา ได้ติดตามกรณีที่ทุกคนต้องเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้จากบริการ อาคาร/สถานที่สาธารณะต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการออกแบบที่เป็นธรรมสำหรับทุกคน จึงมอบให้คณะอนุกรรมาธิการด้านคนพิการ พิจารณาศึกษาโครงการจัดซื้อรถเมล์ ๓,๑๘๓ คัน ของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ( ขสมก.) ซึ่งพบว่าหลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้จัดซื้อรถโดยสารประจำทางใช้เชื้อเพลิงเอ็นจีวีขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) [b]คณะกรรมาธิการและเครือข่ายองค์กรด้านคนพิการจำนวนมากก็ได้เสนอแนะกับทางขสมก. ให้แก้ไขคุณลักษณะเฉพาะของรถเมล์ที่จะจัดซื้อครั้งใหม่ว่าควรอยู่ภายใต้แนวคิด“การออกแบบที่เป็นสากลและเป็นธรรม[/b] (Universal Design หรือ UD)” กล่าวคือ เป็นรถเมล์ชานต่ำ (Low Floor Bus) หรือรถเมล์ไร้บันได (Non-step Bus) ที่มีพื้นรถภายในห้องโดยสารเรียบไม่มีขั้นบันไดบริเวณประตูกลางรถ และมีทางลาดพาดเชื่อมระหว่างพื้นรถกับขอบทางเท้า เพื่อให้บุคคลทุกเพศทุกวัย และทุกสภาพร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ที่มีรถเข็นเด็กอ่อน ผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ และบุคคลทั่วไปสามารถขึ้น-ลงรถได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
[b]ตลอดระยะเวลา ๓-๔ เดือน ที่ผ่านมา มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในสังคมไทยเกี่ยวกับโครงการจัดซื้อรถเมล์ใหม่ของ ขสมก.[/b] ซึ่งคำถาม/ข้อสงสัยที่ถามกันมาก ได้แก่ รถเมล์โลว์ฟลอร์ หรือรถเมล์ชานต่ำ คืออะไร ? มีลักษณะหน้าตาเป็นอย่างไร ? เหมือนหรือแตกต่างจากรถเมล์ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันอย่างไร ? รถเมล์โลว์ฟลอร์สามารถนำมาวิ่งในประเทศไทยได้หรือไม่? คนพิการ และ/หรือผู้สูงอายุที่ใช้วีลแชร์สามารถขึ้นรถเมล์ดังกล่าวได้จริงหรือ? เหตุใด ขสมก. จึงเลือกจัดระบบอำนวยความสะดวกแก่คนพิการเฉพาะในรถปรับอากาศ ทำไมรถโดยสารธรรมดา (รถร้อน) ถึงไม่ให้ และ[b]ที่สำคัญ คือ ถ้ารถเมล์ชานต่ำ ดีจริง ทำไม ขสมก.จึงไม่ยอมกำหนดสเปครถให้เป็น “รถเมล์ชานต่ำ” ทั้งหมดตามข้อเสนอแนะของเครือข่ายองค์กรด้านคนพิการ[/b] ซึ่งปัจจุบันได้ขยายเป็น ภาคีเครือข่ายประชาชน ทุกคนขึ้นรถเมล์ได้ทุกคัน ที่กำลังเฝ้าระวังและรอคำตอบที่ชัดเจนจากผู้เกี่ยวข้องอยู่
บรรยากาศภายในห้องประชุม ขสมก.แถลงข่าว TOR รถโดยสาร NGV 3,183 คัน