ชาวบ้านร้องดีเอสไอถูกนายกสมาคมพัฒนาผู้พิการฯตุ๋นแชร์ล็อตเตอรี่กว่า1,440 ล้านบาท
นายยอดชาย ชโลปถัมภ์ ตัวแทนผู้เสียหายแชร์ล็อตเตอร์รี่ กล่าวว่า [b]ผู้ที่หลอกลวงนั้นได้ใช้สถานภาพของเขาที่เป็นผู้พิการโดยมีตำแหน่งเป็นนายก สมาคมพัฒนาคนพิการ จ.หวัดลำพูน[/b] ซึ่งได้แพร่ข่าวด้วยวาจาและปกปิดข้อเท็จจริงแก่ต่างๆ ที่ควรเปิดเผยให้ทราบโดยบอกว่า[b]มีโคว้ต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ชักจูงหลอกลวงผู้เสียหายให้เข้าลงทุนซื้อหุ้นสลากรัฐบาล โดยมีข้อกำหนดว่า[/b] สมาชิกต้องนำเงินมาลงทุนซื้อหุ้นล็อตเตอร์รี่ จำนวน 5 เล่ม ราคา 38,000บาท ต่อ 1 หุ้น เพื่อแลกกับเงินปันผลหุ้นละ 1,000 บาท ต่องวด โดยทุกเดือนจะมีการจ่ายเงินปันผล 2 งวด งวดละ 1,000 บาท ในวันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือคิดเป็น 5.2 เปอร์เซ็นต่อเดือน [b]ซึ่งตั้งแต่สมาชิกได้นำเงินลงทุนซื้อหุ้นล็อตเตอร์รี่ได้ผลตอบแทนมาโดยตลอด กระทั่งเมื่องวดวันที่ 1และ 16 ของเดือน ก.ย.และ ต.ค.56 ปรากฎว่าไม่มีการจ่ายเงินปันผลให้กับสมาชิกแต่อย่างใดจนถึงปัจจุบัน[/b]
ตัวแทนผู้เสียหายแชร์ล็อตเตอร์รี่ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากลุ่มสมาชิกได้ขอเข้าพบนายกสมาคมพัฒนาคนพิการจังหวัดลำพูนที่บ้านพัก ใน อ.เมืองลำพูน เพื่อขอทราบหรือทวงถามถึงสาเหตุที่ไม่มีการจ่ายเงินปันผล แต่กลับอ้างว่าตอนนี้มีสมาชิกถอนหุ้นบ้าง กำลังหาโควตาสลากเพิ่มบ้าง หรือกำลังกู้เงินเพื่อมาสำรองจ่าย เมื่อสมาชิกจะขอถอนเงินลงทุนก็บอกว่าไม่มี [b]สมาชิกจึงรวมตัวเข้าร้องทุกข์ต่อดีเอสไอให้ดำเนินคดีฉ้อโกงประชาชนกับนายก สมาคมพัฒนาคนพิการจังหวัดลำพูน เพื่อแจ้งประชาสัมพันธ์ป้องกันความเสียหายเพิ่มเพราะทราบว่ามีการขยายการชักชวนการลงทุนไปในจังหวัดใกล้เคียง[/b] พร้อมให้ติดตามเงินคืนผู้เสียหายเพราะผู้เสียหายหลายคนเดือดร้อนมากเนื่อง จากได้นำทรัพย์สินไปจำนอง หรือกู้เงินจากธนาคาร บางรายเป็นข้าราชการเกรีษณได้นำเงินบำเหน็จก้อนสุดท้ายในชีวิตมาลงทุน โดยผู้เสียหายที่ลงทุนซื้อหุ้นสลากวงเงินสูงสุดถึง25ล้านบาทรองลงมา18ล้านต่ำสุดลงทุน380,000บาท
[b] ด้านผู้เสียหายรายหนึ่ง(ขอปกปิดนาม) เป็นอดีตผู้ช่วยปฏิบัติงานศูนย์ กกท.กล่าวว่า[/b] ตนได้รู้จักกับ นายกสมาคมพัฒนาคนพิการจังหวัดลำพูน ค่อนข้างที่จะสนิท เนื่องจากเคยนำนักกีฬาผู้พิการไปแข่งขันกีฬา และเคยชักชวนตนซื้อหุ้นสลากกินแบ่งรัฐบาลเมื่อปี 2543 ซึ่งตนใช้เวลาในการตัดสินใจที่จะลงทุนซื้อหุ้นสลากกินแบ่งรัฐบาลนานถึง 5-6 ปี เพราะตอนนั้นยังไม่มีเงินทุนและกลัวถูกหลอก ต่อมาเมื่อปี 2552 ตนว่างงานจึงได้ตัดสินใจขายรถยนต์นำเงินไปลงทุนซื้อหุ้นสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 76,000บาท ได้ 2 หุ้น โดยได้เงินปันผลงวดละ 2,000บาท รวมเดือนละ 4,000บาท เพราะเห็นว่ามีการจ่ายเงินปันผลจริงต่อเนื่อง ตั้งแต่ที่เริ่มลงทุนตนได้รับเงินปันผลทุกงวดไม่เคยขาดโดยมีการโอนเงินปันผล เข้าบัญชีธนาคาร ตนจึงลงทุนเพิ่ม 3.6 ล้านบาท ส่วนภรรยาลงทุน 7 ล้านบาท น้องสาว 1 ล้านบาท โดยครอบครัวตนรวมลงทุนไป กว่า 11 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินกู้รวมทั้งได้นำบ้านที่อาศัยปัจจุบันไปจำนองนำเงินมาลงทุน ที่ผ่านมามีบางครั้งที่โอนเงินไม่ครบตนจึงเดินทางเข้าพบนายกสมาคมพัฒนาคน พิการจังหวัดลำพูน ที่บ้านเพื่อขอรับเป็นเงินสด หลังจากนั้นตนเริ่มเห็นถึงผลตอบแทนที่มีอัตรามากขึ้น ตนจึงไปกู้เงินเพื่อมาลงทุนเพิ่มด้วยความที่อยากได้ผลตอบแทนเยอะ หรือเก็บเงินปันผลได้ 5 งวด ก็นำไปลงทุนเพิ่มเรื่อยๆ [b]และเชื่อว่าผู้เสียหายส่วนใหญ่ที่ลงทุนซื้อหุ้นสลากกินแบ่งรัฐบาลจะคล้ายกับ ตนคืออยากได้เงินปันผลเยอะๆเมื่อได้รับเงินปันผลจะนำไปลงทุนเพิ่มโดยไม่มีการเก็บเงินไว้กับตัวเองเลย[/b]
นาย ยอดชาย ชโลปถัมภ์ อายุ 61 ปี เดินทางเข้าพบนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ และร.อ.กลวัตร บุนนาค ผอ.ประจำสำนักปฏิบัติการพิเศษ