การพิจารณาเรื่องขัดรัฐธรรมนูญ โดย วีรพงษ์ รามางกูร
หมู่นี้มีเรื่องที่ฝ่ายค้านทั้งในสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภายื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างกฎหมายต่างๆ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ข่าวที่ผู้คนคอยติดตามด้วยความระทึกใจก็เห็นจะเป็นเรื่องที่จะวินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2557 ซึ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ กับอีกเรื่องหนึ่งก็คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนองค์ประกอบของวุฒิสภาและให้วุฒิสภาสิ้นสุดลงเมื่อมีการเลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภาใหม่ ว่าเป็นการกระทำที่จะล้มล้างระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุขหรือไม่ ที่แปลกศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับไว้พิจารณาแล้ว
ที่คนตื่นเต้นและคอยติดตามเรื่อง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี ก็คงด้วยเหตุผลว่าเป็นเรื่องใหม่ เพราะการจัดสรรงบประมาณเมื่อผ่านรัฐสภาแล้วก็เป็นอันจบกัน นำขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ ไม่มีหน่วยงานใดนำไปฟ้องร้องต่อศาลหรือองค์กรอิสระว่าขัดรัฐธรรมนูญ
ประเด็น ที่ว่าขัดรัฐธรรมนูญเพราะรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 มีบทบัญญัติในมาตรา 168 วรรค 8 ว่า "รัฐต้องจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอกับการบริหารงานโดยอิสระของรัฐสภา ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม และองค์กรตามรัฐธรรมนูญ" และวรรค 9 บัญญัติไว้ว่า "ในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายของรัฐสภา ศาล และองค์กรตามวรรคแปด หากหน่วยงานนั้นเห็นว่างบประมาณ รายจ่ายที่ได้รับจัดสรรนั้นได้ไม่เพียงพอ ให้สามารถเสนอคำขอแปรญัตติต่อคณะกรรมาธิการได้โดยตรง"
สำหรับงบ ประมาณของรัฐสภาและงบประมาณของศาลยุติธรรมก็จะมีสำนักงานเลขาธิการรัฐสภา และกระทรวงยุติธรรม ซึ่งทำงานทางธุรการให้ศาล จึงไม่มีปัญหา เพราะหน่วยงานทั้งสองทำงานใกล้ชิดกับรัฐบาลอยู่แล้ว ผ่านทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและประธานรัฐสภา
แต่ศาลรัฐ ธรรมนูญก็ดี ศาลปกครองก็ดี ป.ป.ช.ก็ดี ก.ล.ต.ก็ดี ไม่มีรัฐมนตรีคอยดูแล แต่ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร เพราะก็เห็นทำงานราบรื่นกันมาตลอด
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย