บ้านสบายเพื่อ ‘ยาย-ตา’
ธิดารัตน์ บอกว่า [b]การเคหะฯ ได้ดำเนินโครงการปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยและผู้ยากไร้ ในปี 2556-2557 จำนวน 40 หลัง ในพื้นที่เป้าหมาย 5 ภูมิภาค ทั่วประเทศ ประกอบด้วย[/b] เชียงใหม่ เพชรบุรี อำนาจเจริญ ระยอง และสงขลา [b]กลุ่มเป้าหมายคือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่เป็นผู้มีรายได้น้อย ผู้ยากไร้ หรือผู้ด้อยโอกาสทางสังคมที่อาศัยอยู่ในสถานที่ที่ไม่เอื้อต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี[/b] โดยมีเกณฑ์พิจารณา เช่น เป็นครัวเรือนผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวหรืออยู่กับเด็กและครัวเรือนผู้ยากไร้ ซึ่งผู้สูงอายุเหล่านี้มีรายได้หลังจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากรัฐคนละ 500-600 บาทต่อเดือนเท่านั้น
ธิดารัตน์บอกอีกว่า การที่ผู้สูงอายุไม่ได้ทำงาน มีรายได้น้อย และไม่มีหลักประกันยามชราภาพ ทำให้ตกอยู่ในสภาพยากจน และยังต้องประสบปัญหาสุขภาพ การเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ “ผู้สูงอายุโดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย ไม่สามารถดำรงชีวิตอย่างปลอดภัยได้แม้กระทั่งในบ้านของตนเอง โดยมักจะหกล้มหรือตกบันได ทั้งหกล้มในบ้าน หรือหกล้มแม้ในเวลากลางวัน และ[b]อุบัติเหตุนี้มักนำไปสู่ภาวะการทุพพลภาพในที่สุด ดังนั้นการสร้างบ้านหรือการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกในบ้านต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้สูงอายุ[/b] เช่น ห้องน้ำต้องใช้ส้วมแบบชักโครก มีราวจับสำหรับไว้ยึดพยุงตัวหากผู้สูงอายุอาศัยอยู่ชั้นบนควรมีราวจับบันได เป็นต้น” ธิดารัตน์กล่าว สำหรับโครงการบ้านสบายเพื่อยายตานี้ใช้งบประมาณในการปรับปรุงไม่เกินหลังละ 80,000 บาท แต่ถ้ามีการใช้วัสดุส่วนหนึ่งของตัวบ้านเดิม ใช้งบไม่เกินหลังละ 100,000 บาท และสำหรับบ้านที่สร้างใหม่ไม่เกินหลังละ 120,000 บาท และมีจิตอาสามาช่วยทาสีบ้าน ปลูกผัก ทำแปลงดอกไม้ ฯลฯ แต่ถ้าเป็นขั้นตอนในการก่อสร้างบ้านจะจ้างผู้รับเหมาในพื้นที่ดำเนินการ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 เดือน และนอกจากสร้างบ้านให้แล้ว เพื่อเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตการเคหะฯได้จัดสรรอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุไว้ให้ด้วย
บ้านจากการปรับปรุงให้ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยและผู้ยากไร้ ในปี 2556-2557 จำนวน 40 หลัง