สไลด์โชว์ Paul Dirac นักฟิสิกส์รางวัลโนเบล ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นออทิสติก

Paul Dirac

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ.1995 ที่มหาวิหาร Westminster ในกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นที่ฝังศพของบุคคลสำคัญของอังกฤษ Sir Michael Atiyah ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกของสมาคม Royal Society ได้ทำพิธีติดตั้งแผ่นศิลาที่มีชื่อของ Paul Dirac และสมการ Dirac ในมหาวิหาร ในพิธีระลึกเดียวกันนี้ Stephen Hawking ได้กล่าวสรรเสริญ Dirac ว่า ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ที่ผ่านมานี้ [b]ถ้าไม่นับ Einstein เราอาจถือได้ว่า Dirac ได้ปฏิรูปฟิสิกส์ยิ่งกว่าทุกคน[/b] เมื่ออายุ 16 ปี [b]Dirac ได้เข้าเรียนวิศวกรรมไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัย Bristol จนสำเร็จปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง[/b] แต่พบว่าไม่ต้องการมีอาชีพเป็นวิศวกร เพราะตามปกติเวลาวิศวกรแก้โจทย์ จะต้องการเพียงคำตอบ โดยไม่สนใจวิธีการพิสูจน์ที่มาของสูตรที่ใช้ [b]Dirac จึงหันไปเรียนฟิสิกส์ระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัย Cambridge[/b] เป็นเวลาหนึ่งปีหลังจากที่ได้ครองตำแหน่ง Lucasian Professor แห่งมหาวิทยาลัย Cambridge (ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ Isaac Newton เคยครอง) [b]Dirac ในวัย 31 ปี ก็ได้รับการประกาศชื่อให้เป็นผู้พิชิตรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ร่วมกับ Erwin Schroedinger[/b] ซึ่งทำให้ Dirac เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ (จนกระทั่งปี 1957 สถิตินี้ได้ถูกทำลายโดย T.D. Lee) ในเดือนมีนาคม 1936 เมื่อบิดาเสียชีวิต Dirac บอกเพื่อนทุกคนว่าเขาหมดความกดดันแล้ว และต่อแต่นี้ เขามีเสรีภาพเต็มตัว [b]อีก 6 เดือนต่อมา Dirac ได้เข้าพิธีสมรสกับน้องสาวของ Eugene Wigner[/b] (รางวัลโนเบลฟิสิกส์ปี 1963) ชื่อ Margit Balazs [b]คนทั้งสองมีบุคลิกตรงกันข้าม เช่น Margit ชอบสังคม แต่ Dirac ชอบเก็บตัว Margit พูดมาก แต่ Dirac พูดน้อย (บางครั้งก็ไม่พูดเลย) ทั้งสองจึงเป็นเสมือน antiparticle ของกันและกัน[/b] อย่างไรก็ตามครอบครัวนี้มีลูกสาว 2 คน Paul Dirac และภรรยา