หนุ่มโรงงานวอนช่วยภรรยาพิการเดินไม่ได้
อย่างไรก็ตามในส่วนของหนุ่มสู้ชีวิต ได้เดินทางกลับจากทำงานโรงงานมาถึงบ้านในภายหลัง ทราบชื่อ คือ นายอุดม หลี่วงศ์ อายุ 38 ปี เป็นพนักงานโรงงานพลาสติกแห่งหนึ่งในเขตอำเภอเมืองฯ ผู้สื่อข่าวจึงได้ขอให้นายอุดมอุ้มนางพรลภัส ออกมานั่งพูดคุย เพื่อสอบถามถึงความเดือดร้อนที่กำลังประสบอยู่ โดยนายอุดม เปิดเผยว่า แต่งงานอยู่กินกับภรรยามานานกว่า 15 ปี จนมีลูกด้วยกัน 2 คน ซึ่งเมื่อก่อนก็มีชีวิตความเป็นอยู่ตามปกติ ตนและภรรยาช่วยกันทำมาหากิน ตนทำงานโรงงาน ส่วนนางพรลภัส ทำขนมกล้วยฉาบส่งขายตามท้องตลาด หาเลี้ยงลูก พ่อ-แม่ ป้าและน้า กระทั่งเมื่อ 3 ปีก่อน [b]ภรรยาประสบอุบัติเหตุขับขี่รถจักรยายนต์เสียหลัก พุ่งชนต้นไม้ข้างทางถึง 4 ต้น ขณะนำกล้วยฉาบออกไปขาย ส่งผลให้ต้องกลายเป็นหญิงพิการครึ่งท่อนเดินไม่ได้[/b]อย่างที่เห็น โดยตั้งแต่เอวลงมาจนถึงขา จะไม่มีความรู้สึก และปัสสาวะขับถ่ายไม่รู้ตัว
นายอุดม เล่าต่อว่า ภายหลังภรรยาประสบอุบัติเหตุ ชีวิตความเป็นอยู่จึงลำบากขึ้น ตนคนเดียวต้องเป็นเสาหลักใหญ่ในการหาเลี้ยงครอบครัว ถึงแม้ตอนนี้ ภรรยาจะกลับมาทำขนมกล้วยฉาบขายได้แล้ว แต่ก็ทำได้เพียงแค่เดือนละครั้งๆ ละ 400 ถุง เนื่องจากสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย อีกทั้ง ในส่วนของตนมีรายได้ประจำจากการทำงานโรงงานต่อเดือนเพียง 9,000 บาทเท่านั้น จึงทำให้มีรายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าอาหาร รวมถึงค่าดูแลและรักษาภรรยาและป้า โดยเฉพาะ[b]ค่าแพมเพิส ที่นางพรลภัส ต้องใช้ถึงวันละ 8 ชิ้น[/b]
เมื่อถามถึงการดูแลภรรยา นายอุดม กล่าวว่า [b]ตนต้องตื่นนอนตอนตี 4 ทุกวัน เพื่อลุกขึ้นมาความสะอาดร่างกายให้ภรรยา พร้อมกับเปลี่ยนแพมเพิสให้[/b] จากนั้น จะเข้าครัวทำอาหารและรับประทานร่วมกันก่อนที่ตนจะเดินทางไปทำงานในเวลา 07.00 น. กระทั่งช่วงพักเที่ยง ก็ต้องรีบกลับมาบ้าน เพื่อมาเปลี่ยนแพมเพิสให้ภรรยาอีกครั้ง แล้วจึงกลับไปทำงานต่อ ซึ่งในช่วงของหลังเลิกงาน นอกจากจะคอยดูแลภรรยาและบุตรไปพร้อมกันแล้ว ยังต้องคอยเปลี่ยนแพมเพิสให้นางพรลภัส ทุกๆ 3 ชั่วโมงด้วย เนื่องจากต้องให้อยู่ในสภาพสะอาดเสมอ หากไม่เปลี่ยนหรือเปลี่ยนช้าไป จะทำให้เกิดความชื้นจนติดเชื้อ และอาจลุกลามทำให้เกิดอาการช็อคจนเสียชีวิตได้
[b] “ทุกวันนี้ ผมต้องหารายได้เสริม ด้วยการทำงานรับจ้างทั่วไปในช่วงวันหยุด[/b] ไม่เช่นนั้น รายได้จะไม่พอเลี้ยงครอบครัวอย่างแน่นอน ซึ่งก็เคยรู้สึกท้อบ้าง แต่เพื่อภรรยาที่รัก รวมถึงลูก และครอบครัว ผมต้องบากบั่นทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ครอบครัวเดินหน้าต่อไป และหวังว่าจะมีบุญได้เห็นภรรยากลับมาเดินได้อีกครั้ง แต่ก็อยากจะวิงวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผู้มีจิตศรัทธา โปรดให้ความช่วยเหลือครอบครัวผมด้วย โดยเฉพาะแพมเพิส และรถเข็นผู้พิการ” นายอุดม กล่าวอย่างไม่สิ้นหวัง
นางพรลภัส หลี่วงศ์ นั่งอยู่ที่เก้าอี้กำลังทำกล้วยแขก