ห่วง 'ไวรัสตับอักเสบซี' ภัยเงียบคุกคามคนไทย

แสดงความคิดเห็น

ภาพเอ็กซเรย์ ไวรัสตับอักเสบซี

นักวิจัย คณะแพทย์ฯ จุฬาฯ เผยผลวิจัยเชื้อไวรัสตับอักเสบซี เป็นภัยเงียบไม่แสดงอาการ หากป่วยแล้วตรวจพบทันรักษาหายได้ด้วยวัคซีนและกินยาร่วมกัน...

ศาสตราจารย์ นายแพทย์พิสิฐ ตั้งกิจวานิชย์ ภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวรัสตับอักเสบ กล่าวถึงโรคไวรัสตับอักเสบว่า เป็นกลุ่มเชื้อไวรัสที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะอาศัยอยู่ที่ตับ มีทั้งไวรัสตับอักเสบเอ บี ซี ดี และอี ไวรัสตับอักเสบซีเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคตับอักเสบ ตับแข็ง และมะเร็งตับในคนไทยและประชากรทั่วโลก ส่วนใหญ่ผู้ป่วยเป็นโรคนี้จะมี ประวัติการติดเชื้อจากทางเลือด ไม่ว่าจะเป็นการได้รับเลือดจากการเสียเลือดหรือตกเลือดจากการคลอดบุตร เป็น โรคโลหิตจาง เนื่องจากสมัยก่อนยังไม่มีการตรวจกรองไวรัสตับอักเสบซีใน เลือด ส่วนสาเหตุอื่นๆ เช่น จากการเสพยาเสพติดด้วยการใช้เข็มฉีดยาที่ไม่สะอาดร่วมกัน นอกจากนี้ผู้ที่มี เพศสัมพันธ์ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV จะมีโอกาสในการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีได้ง่ายขึ้น ส่วนการติดเชื้อไวรัส ชนิดนี้โดยการถ่ายทอดจากแม่ที่ตั้งครรภ์สู่ลูกมีโอกาสเป็นไปได้แต่น้อย

จากการศึกษาวิจัยพบว่า ไวรัสตับอักเสบซีมีสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีความหลากหลาย ในทั่วโลกมีทั้งหมด 7 สายพันธุ์ ในประเทศไทยมี 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ 1, 3, 6 ซึ่งในการรักษานั้นจะยากง่ายต่างกัน ในงานวิจัยพบว่าในประเทศไทยมีจำนวน ผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ประมาณ 2% ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่าป่วยเป็นโรคนี้เนื่องจากไม่มีการแสดงอาการออกมาชัดเจน ส่วนใหญ่จะพบเมื่อมีการตรวจสุขภาพหรือบริจาคเลือดแล้วพบว่าการทำงาน ของตับผิดปกติ ผู้ป่วยมักจะรู้ตัวว่าป่วยเป็นโรคนี้เมื่อมีอาการเรื้อรังของโรคตับ เช่น ตับแข็ง ตาเหลือง ตัวเหลือง ขาบวม ผู้ป่วยบางคนอาจทราบเมื่อป่วยเป็นมะเร็งที่ลุกลามแล้ว ปัจจุบันโรงพยาบาลต่างๆ สามารถตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคนี้ได้ในเบื้องต้นโดยการตรวจเลือดเพื่อหาสารบาง ชนิดที่เกี่ยวข้องกับไวรัส และทำการตรวจยืนยันอีกครั้งว่าเป็นโรคนี้จริงหรือไม่

วิธีการรักษา ไวรัสตับอักเสบซีสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยา โดยการฉีดยาร่วมกับการรับประทานยา ต้องทำการรักษาต่อเนื่องจนครบกำหนด ซึ่งใช้เวลานานครึ่งปี-1 ปี การรักษาจะได้ผลแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของไวรัส ปริมาณเชื้อ ไวรัสในร่างกาย ระยะเวลาในการตรวจพบอาการป่วยของโรคนี้ และลักษณะทางพันธุกรรมของผู้ป่วย สำหรับแนวทางการศึกษาวิจัยเรื่องไวรัสตับอักเสบซี ในอนาคตจะมุ่งศึกษาเพื่อตอบโจทย์ข้อมูลในต่างประเทศที่ยังมีการศึกษาน้อย รวมถึงการทำนายการเกิดตับแข็ง มะเร็งตับและความรุนแรงของโรคนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยโรคตับ

ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับ อักเสบซีสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการใช้ยาฉีดและยาทาน ซึ่งมีราคาค่อนข้างแพง และอาจมีผลข้างเคียงในการรักษา สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี สายพันธุ์ 3 และมีความรุนแรงของอาการที่ตับตามเกณฑ์ที่กำหนด สามารถเข้ารับการรักษาได้ในระบบประกันสุขภาพโดยใช้สิทธิ์บัตร 30 บาท และบัตรประกันสังคม ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเป็นโอกาสที่ดีมาก ดังนั้นผู้ป่วยและผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคนี้ควรเข้ารับการตรวจหาสายพันธุ์ไวรัส เพื่อเป็นประโยชน์ในการหาช่องทางในการรักษาต่อไป ส่วนไวรัสตับอักเสบบีนั้น การรักษามักจะไม่หายขาด เพียงแต่เป็นการคุมไวรัสให้อยู่ในระดับต่ำที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายเท่านั้น ซึ่งในอนาคตจะต้องทำการศึกษาค้นคว้าเพื่อหายาที่รักษาไวรัสตับอักเสบบีให้ หายขาด

“ในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ ควรหลีกเลี่ยง ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์ และดูแลสุขภาพจากโรคไขมันสะสมในตับ ซึ่งจะมีผลทำให้ตับแข็งและเป็นมะเร็งตับได้ การที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าป่วยเป็นโรคนี้จนกว่าสภาพตับจะมีอาการรุนแรง ถือเป็นภัยเงียบที่คุกคามประชากรไทยและทั่วโลก ปัจจุบันมีวัคซีน สำหรับป้องกันไวรัสตับอักเสบเอและบีซึ่งราคาไม่แพง ส่วนไวรัสตับอักเสบซียังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค” นายแพทย์พิสิฐกล่าว.

ขอบคุณ http://www.thairath.co.th/content/edu/408278

(thairath ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 7 มี.ค.57 )

ที่มา: thairath ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 7 มี.ค.57
วันที่โพสต์: 8/03/2557 เวลา 04:12:04 ดูภาพสไลด์โชว์ ห่วง 'ไวรัสตับอักเสบซี' ภัยเงียบคุกคามคนไทย

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ภาพเอ็กซเรย์ ไวรัสตับอักเสบซี นักวิจัย คณะแพทย์ฯ จุฬาฯ เผยผลวิจัยเชื้อไวรัสตับอักเสบซี เป็นภัยเงียบไม่แสดงอาการ หากป่วยแล้วตรวจพบทันรักษาหายได้ด้วยวัคซีนและกินยาร่วมกัน... ศาสตราจารย์ นายแพทย์พิสิฐ ตั้งกิจวานิชย์ ภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวรัสตับอักเสบ กล่าวถึงโรคไวรัสตับอักเสบว่า เป็นกลุ่มเชื้อไวรัสที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะอาศัยอยู่ที่ตับ มีทั้งไวรัสตับอักเสบเอ บี ซี ดี และอี ไวรัสตับอักเสบซีเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคตับอักเสบ ตับแข็ง และมะเร็งตับในคนไทยและประชากรทั่วโลก ส่วนใหญ่ผู้ป่วยเป็นโรคนี้จะมี ประวัติการติดเชื้อจากทางเลือด ไม่ว่าจะเป็นการได้รับเลือดจากการเสียเลือดหรือตกเลือดจากการคลอดบุตร เป็น โรคโลหิตจาง เนื่องจากสมัยก่อนยังไม่มีการตรวจกรองไวรัสตับอักเสบซีใน เลือด ส่วนสาเหตุอื่นๆ เช่น จากการเสพยาเสพติดด้วยการใช้เข็มฉีดยาที่ไม่สะอาดร่วมกัน นอกจากนี้ผู้ที่มี เพศสัมพันธ์ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV จะมีโอกาสในการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีได้ง่ายขึ้น ส่วนการติดเชื้อไวรัส ชนิดนี้โดยการถ่ายทอดจากแม่ที่ตั้งครรภ์สู่ลูกมีโอกาสเป็นไปได้แต่น้อย จากการศึกษาวิจัยพบว่า ไวรัสตับอักเสบซีมีสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีความหลากหลาย ในทั่วโลกมีทั้งหมด 7 สายพันธุ์ ในประเทศไทยมี 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ 1, 3, 6 ซึ่งในการรักษานั้นจะยากง่ายต่างกัน ในงานวิจัยพบว่าในประเทศไทยมีจำนวน ผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ประมาณ 2% ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่าป่วยเป็นโรคนี้เนื่องจากไม่มีการแสดงอาการออกมาชัดเจน ส่วนใหญ่จะพบเมื่อมีการตรวจสุขภาพหรือบริจาคเลือดแล้วพบว่าการทำงาน ของตับผิดปกติ ผู้ป่วยมักจะรู้ตัวว่าป่วยเป็นโรคนี้เมื่อมีอาการเรื้อรังของโรคตับ เช่น ตับแข็ง ตาเหลือง ตัวเหลือง ขาบวม ผู้ป่วยบางคนอาจทราบเมื่อป่วยเป็นมะเร็งที่ลุกลามแล้ว ปัจจุบันโรงพยาบาลต่างๆ สามารถตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคนี้ได้ในเบื้องต้นโดยการตรวจเลือดเพื่อหาสารบาง ชนิดที่เกี่ยวข้องกับไวรัส และทำการตรวจยืนยันอีกครั้งว่าเป็นโรคนี้จริงหรือไม่ วิธีการรักษา ไวรัสตับอักเสบซีสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยา โดยการฉีดยาร่วมกับการรับประทานยา ต้องทำการรักษาต่อเนื่องจนครบกำหนด ซึ่งใช้เวลานานครึ่งปี-1 ปี การรักษาจะได้ผลแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของไวรัส ปริมาณเชื้อ ไวรัสในร่างกาย ระยะเวลาในการตรวจพบอาการป่วยของโรคนี้ และลักษณะทางพันธุกรรมของผู้ป่วย สำหรับแนวทางการศึกษาวิจัยเรื่องไวรัสตับอักเสบซี ในอนาคตจะมุ่งศึกษาเพื่อตอบโจทย์ข้อมูลในต่างประเทศที่ยังมีการศึกษาน้อย รวมถึงการทำนายการเกิดตับแข็ง มะเร็งตับและความรุนแรงของโรคนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยโรคตับ ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับ อักเสบซีสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการใช้ยาฉีดและยาทาน ซึ่งมีราคาค่อนข้างแพง และอาจมีผลข้างเคียงในการรักษา สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี สายพันธุ์ 3 และมีความรุนแรงของอาการที่ตับตามเกณฑ์ที่กำหนด สามารถเข้ารับการรักษาได้ในระบบประกันสุขภาพโดยใช้สิทธิ์บัตร 30 บาท และบัตรประกันสังคม ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเป็นโอกาสที่ดีมาก ดังนั้นผู้ป่วยและผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคนี้ควรเข้ารับการตรวจหาสายพันธุ์ไวรัส เพื่อเป็นประโยชน์ในการหาช่องทางในการรักษาต่อไป ส่วนไวรัสตับอักเสบบีนั้น การรักษามักจะไม่หายขาด เพียงแต่เป็นการคุมไวรัสให้อยู่ในระดับต่ำที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายเท่านั้น ซึ่งในอนาคตจะต้องทำการศึกษาค้นคว้าเพื่อหายาที่รักษาไวรัสตับอักเสบบีให้ หายขาด “ในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ ควรหลีกเลี่ยง ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์ และดูแลสุขภาพจากโรคไขมันสะสมในตับ ซึ่งจะมีผลทำให้ตับแข็งและเป็นมะเร็งตับได้ การที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าป่วยเป็นโรคนี้จนกว่าสภาพตับจะมีอาการรุนแรง ถือเป็นภัยเงียบที่คุกคามประชากรไทยและทั่วโลก ปัจจุบันมีวัคซีน สำหรับป้องกันไวรัสตับอักเสบเอและบีซึ่งราคาไม่แพง ส่วนไวรัสตับอักเสบซียังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค” นายแพทย์พิสิฐกล่าว. ขอบคุณ… http://www.thairath.co.th/content/edu/408278 (thairath ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 7 มี.ค.57 )

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...