อดีต อ.จุฬาฯ พิการสู้ชีวิต เลี่ยมกรอบพระหาเงิน เลี้ยงภรรยาป่วย

แสดงความคิดเห็น

นายสดุดี ตั้งปิยกุล อายุ 70 ปี อดีตอาจารย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

วอนผู้มีจิตเมตตา ช่วยเหลืออดีตอาจารย์ จุฬาฯ ชีวิตรันทด ต้องกู้เงินประกอบอาชีพเลี่ยมกรอบพระให้ลูกค้า หาเลี้ยงตนเองและภรรยาที่ป่วย เผย แม้มีผู้ใจบุญช่วยเหลือ-โอนเงินให้ แต่ยังไม่เพียงพอ ยัน ไม่ยอมแพ้ ขอสู้ต่อจนชีวิตจะหาไม่

จากกรณีที่ไทยรัฐได้นำเสนอเรื่องราวของ นายสดุดี ตั้งปิยกุล อายุ 70 ปี อดีตอาจารย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ประสบอุบัติเหตุจนต้องลาออกงานเมื่อประสบอุบัติเหตุจนพิการเมื่อหลายปีก่อน และกลับมาใช้ชีวิตอย่างยากลำบากอยู่ใน อ.หันคา จ.ชัยนาท มากว่า 30 ปี พร้อมกับภรรยาที่มีร่างกายไม่แข็งแรง ไม่สามารถทำมาหากินได้

นายสดุดี ตั้งปิยกุล อายุ 70 ปี อดีตอาจารย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ล่าสุด วันที่ 25 พ.ค.59 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ร้านเลี่ยมกรอบพระภายในตัวอำเภอหันคา จ.ชัยนาท พบ นายสดุดี นั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติก นั่งเลี่ยมกรอบพระให้กับลูกค้า สภาพร่างกายอิดโรย หน้าตาห่อเหี่ยว แต่ก็ยังมีรอยยิ้มให้กับผู้ที่เข้าไปทักทาย พูดคุย ให้กำลังใจ ที่ผ่านมาหลังจากที่ได้นำเสนอเรื่องราวของอาจารย์ออกไป ก็มีผู้มีจิตเมตตาติดต่อเข้ามาให้ความช่วยเหลือทั้งนำรถเข็นมามอบให้ หลายรายก็โอนเงินมาช่วยเหลือ แต่ก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของอาจารย์ได้ ทำให้ยังมีความต้องการที่จะวอนขอความช่วยเหลืออีกครั้งจากผู้ใจบุญทั่วประเทศ

นายสดุดี กล่าวว่า ทุกวันจะต้องเดินทางจากบ้านมาทำงานที่ร้านเลี่ยมกรอบพระในตัวอำเภอที่ห่างจากบ้านพักไปกลับวันละ 7 กม. ทำให้จำเป็นต้องไปกู้ยืมเงินเพิ่มเติมมาเพื่อซื้อรถสามล้อเพื่อใช้ในการเดินทาง ซึ่งทำให้ต้องเป็นหนี้สินอยู่จำนวนหนึ่ง แม้จะมีรายได้จากการเลี่ยมกรอบพระ แต่ก็มีภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวที่ต้องดูแลภรรยาที่สุขภาพไม่ดีเจ็บป่วยออดๆ แอดๆ ทำให้เมื่อหักชำระหนี้และค่าใช้จ่ายในครอบครัวแล้ว แทบไม่เหลือเงินในแต่ละเดือน ทำให้บ่อยครั้งที่อาจารย์เองไม่ยอมรับประทานอาหารกลางวันเพื่อหวังจะประหยัดเงินไว้ให้ครอบครัว

"หากไม่มีเงินบริจาคก้อนที่แล้วมาช่วยยื้อความเป็นอยู่ของครอบครัว คงไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ แต่เงินที่ได้มาก็ต้องหมดไปเพราะเป็นจำนวนที่ไม่มากนักแต่ก็ใช้อย่างประหยัดเรื่อยมา เก็บไว้ใช้ซื้อแต่ของที่จำเป็นเท่านั้น ปัจจุบันก็ต้องรับเลี่ยมกรอบพระ ตื่นเช้ากลับค่ำ พร้อมขอยืนยันว่า จะสู้ชีวิตต่อไป ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ตามสโลแกน "ชายร่างพิการใจขอยิ้มสู้ทำดี" และขอดูแลภรรยาจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ขอภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายบนโลกใบนี้ ขอให้ตนสิ้นลมหายใจหลังภรรยา เพราะหากตนตายไปก่อน ก็จะไม่มีใครดูแลผู้หญิงอันเป็นที่รักต่อไป

สำหรับผู้มีจิตเมตตา ผ่านไปในตัวอำเภอหันคา จ.ชัยนาท สามารถเยี่ยมให้กำลังใจ หรืออุดหนุนใช้บริการเลี่ยมกรอบพระของอาจารย์สดุดีได้ ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอหันคาได้ทุกวัน หรือสามารถโอนเงินช่วยเหลือได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหันคา ชื่อบัญชี นายสดุดี ตั้งปิยกุล เลขที่บัญชี 406-733337-5

ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/625484

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 25 พ.ค.59
วันที่โพสต์: 26/05/2559 เวลา 09:41:12 ดูภาพสไลด์โชว์ อดีต อ.จุฬาฯ พิการสู้ชีวิต เลี่ยมกรอบพระหาเงิน เลี้ยงภรรยาป่วย

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

นายสดุดี ตั้งปิยกุล อายุ 70 ปี อดีตอาจารย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วอนผู้มีจิตเมตตา ช่วยเหลืออดีตอาจารย์ จุฬาฯ ชีวิตรันทด ต้องกู้เงินประกอบอาชีพเลี่ยมกรอบพระให้ลูกค้า หาเลี้ยงตนเองและภรรยาที่ป่วย เผย แม้มีผู้ใจบุญช่วยเหลือ-โอนเงินให้ แต่ยังไม่เพียงพอ ยัน ไม่ยอมแพ้ ขอสู้ต่อจนชีวิตจะหาไม่ จากกรณีที่ไทยรัฐได้นำเสนอเรื่องราวของ นายสดุดี ตั้งปิยกุล อายุ 70 ปี อดีตอาจารย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ประสบอุบัติเหตุจนต้องลาออกงานเมื่อประสบอุบัติเหตุจนพิการเมื่อหลายปีก่อน และกลับมาใช้ชีวิตอย่างยากลำบากอยู่ใน อ.หันคา จ.ชัยนาท มากว่า 30 ปี พร้อมกับภรรยาที่มีร่างกายไม่แข็งแรง ไม่สามารถทำมาหากินได้ นายสดุดี ตั้งปิยกุล อายุ 70 ปี อดีตอาจารย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ล่าสุด วันที่ 25 พ.ค.59 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ร้านเลี่ยมกรอบพระภายในตัวอำเภอหันคา จ.ชัยนาท พบ นายสดุดี นั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติก นั่งเลี่ยมกรอบพระให้กับลูกค้า สภาพร่างกายอิดโรย หน้าตาห่อเหี่ยว แต่ก็ยังมีรอยยิ้มให้กับผู้ที่เข้าไปทักทาย พูดคุย ให้กำลังใจ ที่ผ่านมาหลังจากที่ได้นำเสนอเรื่องราวของอาจารย์ออกไป ก็มีผู้มีจิตเมตตาติดต่อเข้ามาให้ความช่วยเหลือทั้งนำรถเข็นมามอบให้ หลายรายก็โอนเงินมาช่วยเหลือ แต่ก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของอาจารย์ได้ ทำให้ยังมีความต้องการที่จะวอนขอความช่วยเหลืออีกครั้งจากผู้ใจบุญทั่วประเทศ นายสดุดี กล่าวว่า ทุกวันจะต้องเดินทางจากบ้านมาทำงานที่ร้านเลี่ยมกรอบพระในตัวอำเภอที่ห่างจากบ้านพักไปกลับวันละ 7 กม. ทำให้จำเป็นต้องไปกู้ยืมเงินเพิ่มเติมมาเพื่อซื้อรถสามล้อเพื่อใช้ในการเดินทาง ซึ่งทำให้ต้องเป็นหนี้สินอยู่จำนวนหนึ่ง แม้จะมีรายได้จากการเลี่ยมกรอบพระ แต่ก็มีภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวที่ต้องดูแลภรรยาที่สุขภาพไม่ดีเจ็บป่วยออดๆ แอดๆ ทำให้เมื่อหักชำระหนี้และค่าใช้จ่ายในครอบครัวแล้ว แทบไม่เหลือเงินในแต่ละเดือน ทำให้บ่อยครั้งที่อาจารย์เองไม่ยอมรับประทานอาหารกลางวันเพื่อหวังจะประหยัดเงินไว้ให้ครอบครัว "หากไม่มีเงินบริจาคก้อนที่แล้วมาช่วยยื้อความเป็นอยู่ของครอบครัว คงไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ แต่เงินที่ได้มาก็ต้องหมดไปเพราะเป็นจำนวนที่ไม่มากนักแต่ก็ใช้อย่างประหยัดเรื่อยมา เก็บไว้ใช้ซื้อแต่ของที่จำเป็นเท่านั้น ปัจจุบันก็ต้องรับเลี่ยมกรอบพระ ตื่นเช้ากลับค่ำ พร้อมขอยืนยันว่า จะสู้ชีวิตต่อไป ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ตามสโลแกน "ชายร่างพิการใจขอยิ้มสู้ทำดี" และขอดูแลภรรยาจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ขอภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายบนโลกใบนี้ ขอให้ตนสิ้นลมหายใจหลังภรรยา เพราะหากตนตายไปก่อน ก็จะไม่มีใครดูแลผู้หญิงอันเป็นที่รักต่อไป สำหรับผู้มีจิตเมตตา ผ่านไปในตัวอำเภอหันคา จ.ชัยนาท สามารถเยี่ยมให้กำลังใจ หรืออุดหนุนใช้บริการเลี่ยมกรอบพระของอาจารย์สดุดีได้ ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอหันคาได้ทุกวัน หรือสามารถโอนเงินช่วยเหลือได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหันคา ชื่อบัญชี นายสดุดี ตั้งปิยกุล เลขที่บัญชี 406-733337-5 ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/625484

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...