'แม่กิ่งแก้ว'แม่สู้ชีวิตพิการแต่เกิดเลี้ยงลูกจบปริญญา

แสดงความคิดเห็น

คุณแม่กิ่งแก้ว พรชัย อายุ 59 ปี และครอบครัว

ชุลีพร อร่ามเนตรรายงาน : “คำว่า แม่ นั้นมีความหมายที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะต่อให้แม่มีร่างกายพิการมาตั้งแต่กำเนิด แต่ทุกครั้งที่ลูกของแม่ทั้งสองคน เรียกว่าแม่ เป็นเสมือนแรงบันดาลใจ กำลังใจที่ทำให้แม่มีแรงฮึด ต่อสู้ชีวิตในการทำงาน ทำสิ่งต่างๆ เพื่อเลี้ยงลูกของแม่ทั้งสองคนให้เติบโตเป็นคนดี มีการงานทำที่ดี และไม่เป็นภาระแก่สังคม ซึ่งตอนนี้ครอบครัวถึงจะไม่ได้ร่ำรวย แต่ครอบครัวเราก็จับมือกันผ่านช่วงวันเวลาเลวร้าย อุปสรรคมากมายมาด้วยกันจนวันนี้ แม่ได้เห็นลูกชายคนโตของแม่บวชเป็นพระภิกษุ เป็นเจ้าอาวาส ช่วยเหลือผู้อื่น และเห็นลูกสาวคนเล็กเรียนจบปริญญา มีการงานทำที่ดี แค่นี้แม่ก็พอใจแล้ว” เสียงเล่าด้วยความปีติของคุณแม่กิ่งแก้ว พรชัย อายุ 59 ปี อาชีพช่างเย็บผ้าร่างกายพิการตั้งแต่กำเนิด กล่าว

คุณแม่กิ่งแก้ว พรชัย ชาว จ.น่าน หนึ่งในคุณแม่ที่ได้รับรางวัล “แม่สู้ชีวิต” ในงาน “มหิดล-วันแม่” ประจำปี 2558 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และร่วมฉลองในโอกาส 12 สิงหาคม วันแม่แห่งชาติ และเชิดชูบทบาทของแม่ เทิดพระคุณแม่ที่สู้ชีวิต อุทิศแรงกายและแรงใจเลี้ยงดูลูกด้วยความมานะอุตสาหะตลอดมา โดยได้เข้าเฝ้ารับประทานรางวัลจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา

คุณแม่กิ่งแก้ว พิการมาตั้งแต่กำเนิด แต่ด้วยการเลี้ยงดูของครอบครัวก็ไม่ได้ทำให้แม่รู้สึกว่าด้อยกว่าคนอื่น และครอบครัวของแม่ไม่เคยทอดทิ้งแม่ เมื่อแม่แต่งงานมีลูก 2 คน พ่อและแม่ช่วยกันเลี้ยงดูลูกๆ ด้วยความที่เราสองคนความรู้น้อย พ่อของน้องทำอาชีพขายของป่า และรับจ้างทั่วไป ส่วนแม่ทำอาชีพเย็บผ้า รายได้ครอบครัวไม่ได้มาก ต้องอยู่กันอย่างขัดสน พอมีพอกิน ไม่ฟุ่มเฟือย แต่เราสองคนพยายามส่งเสียลูกทั้ง 2 คนให้ได้เรียนหนังสือ เพราะการเรียนหนังสือ ความรู้เป็นสมบัติอย่างเดียวที่พ่อแม่จะให้ลูกได้ เพื่อนำไปใช้เลี้ยงดูตนเอง การศึกษาจะทำให้คุณภาพชีวิตของเขาดีขึ้น

“บางวันแม่ยอมอดเพื่อให้ลูกได้อิ่มท้อง ได้มีเงินไปเรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่น แม่ต้องพยายามเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด สอนให้ลูกเป็นคนดี มีศีลธรรม โอบอ้อมอารี และรู้จักแบ่งปันให้ผู้อื่น เพราะต่อให้เราไม่มีก็ไม่ควรไปเบียดเบียนผู้อื่น และถ้าเรามีควรเติมเต็ม หยิบยื่นให้ผู้อื่น แม่บอกตัวเองทุกวันว่าห้ามย่อท้อ ห้ามเหนื่อยต่ออุปสรรคใดๆ ก็ตามที่เข้ามา แม่ต้องไม่เป็นภาระให้แก่ลูก ซึ่งแม่ต้องต่อสู้ เป็นเสาหลักของครอบครัว”

ช่วงจังหวะชีวิต วิกฤติของแต่ละครอบครัวอาจไม่เหมือนกัน แต่ทุกวิกฤติหากทุกคนในครอบครัวร่วมมือร่วมใจ จับมือไปด้วยกัน ก็จะสามารถก้าวผ่านไปได้ คุณแม่กิ่งแก้ว เล่าต่อว่า ปัญหาครอบครัวของแม่ นอกจากภาวะทางการเงินที่ย่ำแย่แล้ว ตอนนั้นยังมีปัญหาเรื่องลูกชายติดยาเสพติด ทำให้แม่ต้องลำบากมากกว่าเดิม ต้องพยายามดึงลูกกลับมาใช้ชีวิตโดยที่ไม่ต้องพึ่งสิ่งไม่ดี และห่างไกลจากยาเสพติด ต้องใช้ความอดทนอย่างมากเพราะด้วยข้อจำกัดของร่างกาย แต่ต้องทำหน้าที่ของแม่ รัก ให้อภัย และคอยผลักคอยดัน ดึงลูกกลับมาสู่อ้อมอก เป็นคนดีให้ได้ จนตอนนี้เขาหลุดพ้นจากสิ่งไม่ดี และมาใช้ชีวิตในหลักพระพุทธศาสนา คอยช่วยเหลือผู้อื่น เป็นคนละคน เป็นสิ่งที่แม่ภาคภูมิใจในตัวลูกอย่างมาก

“คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะทำสิ่งดี เลือกสิ่งดีให้แก่ตนเองและผู้อื่นได้ หน้าที่ของแม่จึงไม่ใช่เพียงอบรมสั่งสอนลูกให้เป็นคนดี แต่ต้องคอยสนับสนุน ชักจูง และช่วยเหลือเขาให้ก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตให้ได้ ความสำเร็จ รอยยิ้ม ความสุขของลูกเป็นแรงบันดาลใจให้แม่สู้ อดทนและก้าวผ่านเรื่องราวไม่ดีจนมาสู่เรื่องราวดีในชีวิต แม่พอใจชีวิตของแม่ตอนนี้ ชีวิตมีทั้งสุขและทุกข์ ถ้าช่วงไหนทุกข์มากต้องพยายามใช้ใจที่แข็งแกร่งของแม่สร้างลูกเติบโตเป็นคนดีของสังคม”

“แม่สอนลูกเสมอว่าต่อให้ครอบครัว หรือตัวเราเองมีไม่เหมือนคนอื่น แต่ตราบใดที่เรามีแรง มีใจที่เข้มแข็ง มีความรัก ความปรารถนาดี และมีการศึกษาที่ดีจะสามารถทำให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้นได้ แม่เลี้ยงลูกพยายามสอนให้เขาพึ่งพาตนเอง มีน้ำใจ ช่วยเหลือผู้อื่น และหากผิดพลาดต้องรู้จักให้อภัยตัวเองและรู้จักปฏิเสธสิ่งไม่ดี เลือกสิ่งดีให้แก่ตัวเองให้ได้ ตอนนี้ครอบครัวของแม่ดีขึ้นมาก เราไม่เป็นหนี้เป็นสิน ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง และแม่อยากแบ่งปันช่วยเหลือครอบครัวอื่นๆ ให้มีความพร้อม มีอาชีพ มีรายได้เหมือนแม่ โดยเฉพาะผู้พิการที่อาจจะยังขาดแคลนหลายเรื่อง หากได้รับการดูแลช่วยเหลือที่ดี คุณภาพชีวิตของเขาก็จะดีขึ้น”

ความสุขจากการเป็นผู้ให้ เป็นผลตอบแทนที่ดีที่สุดในชีวิต “คุณแม่กิ่งแก้ว” สอนลูกโดยเป็นแบบอย่างทั้งในเรื่องความอดทน ต่อสู้ และแบบอย่างที่ดีในการเป็นผู้ให้จากการลงมือปฏิบัติ สภาพร่างกายไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำดี ทำประโยชน์เพื่อคนอื่น บทบาทของคนเป็นแม่ไม่มีวันหมด และบทบาทของลูกก็ไม่มีวันหมดเช่นเดียวกัน แม่ เป็นผู้ให้ ผู้เสียสละ ผู้ที่มอบความรักและสิ่งดีให้แก่ลูกเสมอ ปัจจุบัน “คุณแม่กิ่งแก้ว” เป็นประธานคนพิการที่อำเภอเวียงสา ช่วยเหลือคนพิการที่ยากลำบาก เป็นแม่ผู้ให้ แม่มีจิตอาสาและพร้อมที่จะทำงานเพื่อสังคมต่อไป

คุณแม่กิ่งแก้ว กล่าวทิ้งท้ายว่า บางครั้งเราอาจไม่พร้อม ไม่อยากเป็นแม่คน แต่หากเรามีโอกาสได้เป็นแม่แล้วควรจะเป็นแม่ที่มีหัวใจเต็มเปี่ยมด้วยความรัก ความห่วงใย การดูแลเอาใจใส่ และเลี้ยงดูลูกของเราให้ดีที่สุด คนเราท้อได้แต่อย่ายอมแพ้ เจออุปสรรคต้องเรียนรู้และลุกขึ้นสู้ แม่ร่างกายพิการยังสู้เลี้ยงลูก 2 คนให้เติบโตได้ แม่ทุกคนสามารถทำได้เหมือนแม่ ขอเพียงไม่ท้อ และใช้ความรักของแม่ ใจที่เข้มแข็งนำพาลูกๆ และครอบครัวไปสู่ทิศทางที่ดี อยากให้คุณแม่ทุกคนที่กำลังเจออุปสรรค หรือเหน็ดเหนื่อยต่อสู้ ให้กำลังใจตนเอง ทำหน้าที่ของแม่ให้ดีที่สุด

ไม่ใช่เพียงเดือนสิงหาคม หรือวันที่ 12 สิงหาคม เท่านั้นที่เป็นวันแม่ ทุกวันล้วนเป็นวันแม่เพราะตั้งแต่เล็กจนโต ผู้หญิงที่อยู่เคียงข้าง ทำหน้าที่คอยอุ้มชู ดูแล ช่วยเหลือลูก ไม่เคยทอดทิ้งไม่ว่าลูกจะเป็นเช่นไร ด้วยสองมือ อ้อมกอดและความรัก ล้วนเติมเต็มจากผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่า “แม่” เสมอ

ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20150812/211454.html

ที่มา: คมชัดลึกออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย12ส.ค.58
วันที่โพสต์: 13/08/2558 เวลา 13:17:34 ดูภาพสไลด์โชว์ 'แม่กิ่งแก้ว'แม่สู้ชีวิตพิการแต่เกิดเลี้ยงลูกจบปริญญา

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

คุณแม่กิ่งแก้ว พรชัย อายุ 59 ปี และครอบครัว ชุลีพร อร่ามเนตรรายงาน : “คำว่า แม่ นั้นมีความหมายที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะต่อให้แม่มีร่างกายพิการมาตั้งแต่กำเนิด แต่ทุกครั้งที่ลูกของแม่ทั้งสองคน เรียกว่าแม่ เป็นเสมือนแรงบันดาลใจ กำลังใจที่ทำให้แม่มีแรงฮึด ต่อสู้ชีวิตในการทำงาน ทำสิ่งต่างๆ เพื่อเลี้ยงลูกของแม่ทั้งสองคนให้เติบโตเป็นคนดี มีการงานทำที่ดี และไม่เป็นภาระแก่สังคม ซึ่งตอนนี้ครอบครัวถึงจะไม่ได้ร่ำรวย แต่ครอบครัวเราก็จับมือกันผ่านช่วงวันเวลาเลวร้าย อุปสรรคมากมายมาด้วยกันจนวันนี้ แม่ได้เห็นลูกชายคนโตของแม่บวชเป็นพระภิกษุ เป็นเจ้าอาวาส ช่วยเหลือผู้อื่น และเห็นลูกสาวคนเล็กเรียนจบปริญญา มีการงานทำที่ดี แค่นี้แม่ก็พอใจแล้ว” เสียงเล่าด้วยความปีติของคุณแม่กิ่งแก้ว พรชัย อายุ 59 ปี อาชีพช่างเย็บผ้าร่างกายพิการตั้งแต่กำเนิด กล่าว คุณแม่กิ่งแก้ว พรชัย ชาว จ.น่าน หนึ่งในคุณแม่ที่ได้รับรางวัล “แม่สู้ชีวิต” ในงาน “มหิดล-วันแม่” ประจำปี 2558 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และร่วมฉลองในโอกาส 12 สิงหาคม วันแม่แห่งชาติ และเชิดชูบทบาทของแม่ เทิดพระคุณแม่ที่สู้ชีวิต อุทิศแรงกายและแรงใจเลี้ยงดูลูกด้วยความมานะอุตสาหะตลอดมา โดยได้เข้าเฝ้ารับประทานรางวัลจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา คุณแม่กิ่งแก้ว พิการมาตั้งแต่กำเนิด แต่ด้วยการเลี้ยงดูของครอบครัวก็ไม่ได้ทำให้แม่รู้สึกว่าด้อยกว่าคนอื่น และครอบครัวของแม่ไม่เคยทอดทิ้งแม่ เมื่อแม่แต่งงานมีลูก 2 คน พ่อและแม่ช่วยกันเลี้ยงดูลูกๆ ด้วยความที่เราสองคนความรู้น้อย พ่อของน้องทำอาชีพขายของป่า และรับจ้างทั่วไป ส่วนแม่ทำอาชีพเย็บผ้า รายได้ครอบครัวไม่ได้มาก ต้องอยู่กันอย่างขัดสน พอมีพอกิน ไม่ฟุ่มเฟือย แต่เราสองคนพยายามส่งเสียลูกทั้ง 2 คนให้ได้เรียนหนังสือ เพราะการเรียนหนังสือ ความรู้เป็นสมบัติอย่างเดียวที่พ่อแม่จะให้ลูกได้ เพื่อนำไปใช้เลี้ยงดูตนเอง การศึกษาจะทำให้คุณภาพชีวิตของเขาดีขึ้น “บางวันแม่ยอมอดเพื่อให้ลูกได้อิ่มท้อง ได้มีเงินไปเรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่น แม่ต้องพยายามเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด สอนให้ลูกเป็นคนดี มีศีลธรรม โอบอ้อมอารี และรู้จักแบ่งปันให้ผู้อื่น เพราะต่อให้เราไม่มีก็ไม่ควรไปเบียดเบียนผู้อื่น และถ้าเรามีควรเติมเต็ม หยิบยื่นให้ผู้อื่น แม่บอกตัวเองทุกวันว่าห้ามย่อท้อ ห้ามเหนื่อยต่ออุปสรรคใดๆ ก็ตามที่เข้ามา แม่ต้องไม่เป็นภาระให้แก่ลูก ซึ่งแม่ต้องต่อสู้ เป็นเสาหลักของครอบครัว” ช่วงจังหวะชีวิต วิกฤติของแต่ละครอบครัวอาจไม่เหมือนกัน แต่ทุกวิกฤติหากทุกคนในครอบครัวร่วมมือร่วมใจ จับมือไปด้วยกัน ก็จะสามารถก้าวผ่านไปได้ คุณแม่กิ่งแก้ว เล่าต่อว่า ปัญหาครอบครัวของแม่ นอกจากภาวะทางการเงินที่ย่ำแย่แล้ว ตอนนั้นยังมีปัญหาเรื่องลูกชายติดยาเสพติด ทำให้แม่ต้องลำบากมากกว่าเดิม ต้องพยายามดึงลูกกลับมาใช้ชีวิตโดยที่ไม่ต้องพึ่งสิ่งไม่ดี และห่างไกลจากยาเสพติด ต้องใช้ความอดทนอย่างมากเพราะด้วยข้อจำกัดของร่างกาย แต่ต้องทำหน้าที่ของแม่ รัก ให้อภัย และคอยผลักคอยดัน ดึงลูกกลับมาสู่อ้อมอก เป็นคนดีให้ได้ จนตอนนี้เขาหลุดพ้นจากสิ่งไม่ดี และมาใช้ชีวิตในหลักพระพุทธศาสนา คอยช่วยเหลือผู้อื่น เป็นคนละคน เป็นสิ่งที่แม่ภาคภูมิใจในตัวลูกอย่างมาก “คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะทำสิ่งดี เลือกสิ่งดีให้แก่ตนเองและผู้อื่นได้ หน้าที่ของแม่จึงไม่ใช่เพียงอบรมสั่งสอนลูกให้เป็นคนดี แต่ต้องคอยสนับสนุน ชักจูง และช่วยเหลือเขาให้ก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตให้ได้ ความสำเร็จ รอยยิ้ม ความสุขของลูกเป็นแรงบันดาลใจให้แม่สู้ อดทนและก้าวผ่านเรื่องราวไม่ดีจนมาสู่เรื่องราวดีในชีวิต แม่พอใจชีวิตของแม่ตอนนี้ ชีวิตมีทั้งสุขและทุกข์ ถ้าช่วงไหนทุกข์มากต้องพยายามใช้ใจที่แข็งแกร่งของแม่สร้างลูกเติบโตเป็นคนดีของสังคม” “แม่สอนลูกเสมอว่าต่อให้ครอบครัว หรือตัวเราเองมีไม่เหมือนคนอื่น แต่ตราบใดที่เรามีแรง มีใจที่เข้มแข็ง มีความรัก ความปรารถนาดี และมีการศึกษาที่ดีจะสามารถทำให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้นได้ แม่เลี้ยงลูกพยายามสอนให้เขาพึ่งพาตนเอง มีน้ำใจ ช่วยเหลือผู้อื่น และหากผิดพลาดต้องรู้จักให้อภัยตัวเองและรู้จักปฏิเสธสิ่งไม่ดี เลือกสิ่งดีให้แก่ตัวเองให้ได้ ตอนนี้ครอบครัวของแม่ดีขึ้นมาก เราไม่เป็นหนี้เป็นสิน ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง และแม่อยากแบ่งปันช่วยเหลือครอบครัวอื่นๆ ให้มีความพร้อม มีอาชีพ มีรายได้เหมือนแม่ โดยเฉพาะผู้พิการที่อาจจะยังขาดแคลนหลายเรื่อง หากได้รับการดูแลช่วยเหลือที่ดี คุณภาพชีวิตของเขาก็จะดีขึ้น” ความสุขจากการเป็นผู้ให้ เป็นผลตอบแทนที่ดีที่สุดในชีวิต “คุณแม่กิ่งแก้ว” สอนลูกโดยเป็นแบบอย่างทั้งในเรื่องความอดทน ต่อสู้ และแบบอย่างที่ดีในการเป็นผู้ให้จากการลงมือปฏิบัติ สภาพร่างกายไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำดี ทำประโยชน์เพื่อคนอื่น บทบาทของคนเป็นแม่ไม่มีวันหมด และบทบาทของลูกก็ไม่มีวันหมดเช่นเดียวกัน แม่ เป็นผู้ให้ ผู้เสียสละ ผู้ที่มอบความรักและสิ่งดีให้แก่ลูกเสมอ ปัจจุบัน “คุณแม่กิ่งแก้ว” เป็นประธานคนพิการที่อำเภอเวียงสา ช่วยเหลือคนพิการที่ยากลำบาก เป็นแม่ผู้ให้ แม่มีจิตอาสาและพร้อมที่จะทำงานเพื่อสังคมต่อไป คุณแม่กิ่งแก้ว กล่าวทิ้งท้ายว่า บางครั้งเราอาจไม่พร้อม ไม่อยากเป็นแม่คน แต่หากเรามีโอกาสได้เป็นแม่แล้วควรจะเป็นแม่ที่มีหัวใจเต็มเปี่ยมด้วยความรัก ความห่วงใย การดูแลเอาใจใส่ และเลี้ยงดูลูกของเราให้ดีที่สุด คนเราท้อได้แต่อย่ายอมแพ้ เจออุปสรรคต้องเรียนรู้และลุกขึ้นสู้ แม่ร่างกายพิการยังสู้เลี้ยงลูก 2 คนให้เติบโตได้ แม่ทุกคนสามารถทำได้เหมือนแม่ ขอเพียงไม่ท้อ และใช้ความรักของแม่ ใจที่เข้มแข็งนำพาลูกๆ และครอบครัวไปสู่ทิศทางที่ดี อยากให้คุณแม่ทุกคนที่กำลังเจออุปสรรค หรือเหน็ดเหนื่อยต่อสู้ ให้กำลังใจตนเอง ทำหน้าที่ของแม่ให้ดีที่สุด ไม่ใช่เพียงเดือนสิงหาคม หรือวันที่ 12 สิงหาคม เท่านั้นที่เป็นวันแม่ ทุกวันล้วนเป็นวันแม่เพราะตั้งแต่เล็กจนโต ผู้หญิงที่อยู่เคียงข้าง ทำหน้าที่คอยอุ้มชู ดูแล ช่วยเหลือลูก ไม่เคยทอดทิ้งไม่ว่าลูกจะเป็นเช่นไร ด้วยสองมือ อ้อมกอดและความรัก ล้วนเติมเต็มจากผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่า “แม่” เสมอ ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20150812/211454.html

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...