“U Drink I Drive” ต้นแบบนวัตกรรมธุรกิจเพื่อสังคม

แสดงความคิดเห็น

โครงการ “U Drink I Drive” ต้นแบบนวัตกรรมธุรกิจเพื่อสังคม

“ธุรกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise” เป็นหนึ่งในเทรนด์ที่ได้รับความนิยมและพูดถึงกันมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่และกลุ่มธุรกิจ SMEs ที่ต่างเริ่มให้ความสำคัญกับผลสะท้อนทางสังคม ทั้งด้านภาพลักษณ์และการปรับตัวเข้าหากลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่ใส่ใจต่อสภาพสังคมชุมชนที่ตนอยู่ ค่านิยมที่เปลี่ยนไปดังกล่าวได้วางกรอบสำหรับธุรกิจที่เกิดใหม่ว่า แค่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าหรือแค่สร้างกำไรได้ดียังไม่พอ แต่ต้องมี Story หรือเรื่องราวน่าประทับใจที่ดีต่อส่วนรวมด้วย

แม้ว่าธุรกิจเพื่อสังคมที่เกิดใหม่ในบ้านเราจะมีผลตอบรับดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แต่ธุรกิจเหล่านี้มักประสบปัญหาเรื่องการสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการใน ระยะยาว การค้นหาจุดสมดุลระหว่างผลตอบแทนของธุรกิจ ความคุ้มค่าของสินค้าและบริการ และการสร้างผลสะท้อนเชิงบวกคืนสู่สังคม ยังเป็นสิ่งท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในทุกอุตสาหกรรม

สัปดาห์นี้เข็มทิศ SME จึงขอนำเสนอกรณีศึกษาของ “U Drink I Drive (ยูดริงค์ไอไดร์ฟ)” หนึ่งในธุรกิจ SME ไทยสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถสร้างธุรกิจต้นแบบที่ตอบโจทย์ได้ทั้งในด้านผลตอบ แทน และประสบความสำเร็จด้านการสร้างประโยชน์คืนสู่สังคมด้วย

“U Drink I Drive - ดื่มไม่ต้องขับ กลับบ้านสบาย” U Drink I Drive เป็นธุรกิจบริการส่งพนักงานไปขับรถพาคุณกลับบ้านในยามที่คุณไม่สามารถขับเอง ได้อย่างปลอดภัย เช่นเวลาดื่มของมึนเมา เมื่อลูกค้าติดต่อศูนย์บริการพร้อมแจ้งจุดนัดพบและเวลา ทางศูนย์จะส่งเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกอบรมเรื่องการขับรถและมารยาทมาเป็น อย่างดีไปรับและใช้รถของลูกค้าขับไปส่งถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย ด้วยแนวคิดไม่เหมือนใครและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจที่ถูกทางทำให้วันนี้บริการ ของ U Drink I Drive เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย กล้าทำสิ่งใหม่บนพื้นฐานของข้อมูลและการไตร่ตรองที่รอบคอบ

เจ้าหน้าที่ในครงการ U Drink I Drive สิ่งที่น่าสนใจคือจุดเริ่มต้นการสร้างธุรกิจของ คุณสิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ และคุณณิชมน วิริยะลัมภะ สองผู้ก่อตั้งบริษัทและดูแลกำกับการดำเนินงาน และเรื่องราวของ U Drink I Drive ไม่ได้เริ่มต้นด้วยการผจญภัยอันน่าตื่นเต้น ไม่ได้มีที่มาจากเรื่องราวการเสี่ยงโชคเดิมพันสู้ชีวิตอันใดอย่างที่เห็นกัน ในภาพยนตร์ แต่เป็นผลจากการตกผลึกทางความคิดและข้อมูลจากการวิจัยค้นคว้าอันหนักหน่วง เพื่อแสวงหาความเป็นไปได้ทางธุรกิจก่อนลงสนามจริง ซึ่งการวางตรรกะความคิดด้วยข้อเท็จจริงก่อนเริ่มต้นนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ ประกอบการรุ่นใหม่จำนวนมากต้องเรียนรู้

คุณสิรโสมย์ เล่าว่าจากผลการศึกษา ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนของประเทศไทยนั้นสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ซึ่งมากกว่าร้อยละ 40 มีสาเหตุจากการเมาแล้วขับ เมื่อศึกษาลึกลงไปจึงพบว่าคนไทยส่วนใหญ่ทราบดีถึงอันตรายแต่เลือกไม่ใช้ บริการแท็กซี่เพราะต้องเอารถกลับและรู้สึกไม่ปลอดภัย ทั้งสองจึงมองเห็นช่องว่างที่บริการของ U Drink I Drive จะสามารถเติมเต็มได้ หลังจากนั้นทั้งสองจึงดำเนินการสำรวจตลาดอย่างจริงจังเพื่อวางแผนธุรกิจจนมีความมั่นใจจึงเปิดตัว

ความแตกต่างของธุรกิจเพื่อสังคมกับธุรกิจที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคม - คุณ ณิชมน ให้นิยามความแตกต่างระหว่างการเป็นธุรกิจเพื่อสังคมแบบเต็มตัวกับธุรกิจที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR – Corporate Social Responsibility) ว่า U Drink I Drive มี “ความห่วงใยผู้ใช้บริการและปรารถนาจะแก้ไขปัญหาในสังคม” เป็นจุดเริ่มต้นและเป็นค่านิยมองค์กร (Core Value) เพื่อดำเนินธุรกิจ อันเป็นแนวคิดที่สวนทางกับธุรกิจที่ทำ CSR ทั่วไป ที่เริ่มต้นด้วยการยึดเอาธุรกิจหรือ “Corporate” เป็นตัวตั้ง แล้วค่อยตามด้วย “Social” เพื่อคืนประโยชน์ให้แก่สังคม สร้างจิตสำนึกใหม่ให้กับสังคม

แม้การเดินทางของ U Drink I Drive และทีมงานจะอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ผู้ก่อตั้งได้วางเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ไว้แต่แรก คือ “สร้างจิตสำนึกและมุมมองใหม่เกี่ยวกับความปลอดภัยในสังคม” ทั้งสองคนเชื่อมั่นว่าหากกลุ่มคนจำนวนมากสามารถเข้าถึงบริการ เริ่มให้ความไว้วางใจกับบริการนี้ รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ และมีการควบคุมพัฒนาคุณภาพอย่างไม่หยุดยั้ง ภายในระยะเวลา 5 ปี U Drink I Drive จะกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและขับเคลื่อนสังคมไปในทาง ที่ดีขึ้น

แนวคิดของ U Drink I Drive อาจไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ทั้งหมด แต่บ่อยครั้งที่นวัตกรรมก็ไม่ได้มาในรูปแบบของสินค้าแต่เป็น Business Model ที่ไม่เหมือนใคร สิ่งหนึ่งที่ U Drink I Drive ทำได้ดีเช่นเดียวกับนวัตกรรมอื่นๆ ที่ประสบความสำเร็จคือ “สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว” พร้อมกับพัฒนาสังคมให้น่าอยู่ควบคู่กันไป…โดย: ธีระ กนกกาญจนรัตน์

ขอบคุณ... http://m.thairath.co.th/content/eco/394634

ขอขอบคุณข้อมูลจากบริษัท ยู ดริงค์ ไอ ไดร์ฟ จำกัด

(ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 8 ม.ค.57)

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 8 ม.ค.57
วันที่โพสต์: 9/01/2557 เวลา 04:40:45 ดูภาพสไลด์โชว์ “U Drink I Drive” ต้นแบบนวัตกรรมธุรกิจเพื่อสังคม

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

โครงการ “U Drink I Drive” ต้นแบบนวัตกรรมธุรกิจเพื่อสังคม “ธุรกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise” เป็นหนึ่งในเทรนด์ที่ได้รับความนิยมและพูดถึงกันมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่และกลุ่มธุรกิจ SMEs ที่ต่างเริ่มให้ความสำคัญกับผลสะท้อนทางสังคม ทั้งด้านภาพลักษณ์และการปรับตัวเข้าหากลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่ใส่ใจต่อสภาพสังคมชุมชนที่ตนอยู่ ค่านิยมที่เปลี่ยนไปดังกล่าวได้วางกรอบสำหรับธุรกิจที่เกิดใหม่ว่า แค่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าหรือแค่สร้างกำไรได้ดียังไม่พอ แต่ต้องมี Story หรือเรื่องราวน่าประทับใจที่ดีต่อส่วนรวมด้วย แม้ว่าธุรกิจเพื่อสังคมที่เกิดใหม่ในบ้านเราจะมีผลตอบรับดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แต่ธุรกิจเหล่านี้มักประสบปัญหาเรื่องการสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการใน ระยะยาว การค้นหาจุดสมดุลระหว่างผลตอบแทนของธุรกิจ ความคุ้มค่าของสินค้าและบริการ และการสร้างผลสะท้อนเชิงบวกคืนสู่สังคม ยังเป็นสิ่งท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในทุกอุตสาหกรรม สัปดาห์นี้เข็มทิศ SME จึงขอนำเสนอกรณีศึกษาของ “U Drink I Drive (ยูดริงค์ไอไดร์ฟ)” หนึ่งในธุรกิจ SME ไทยสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถสร้างธุรกิจต้นแบบที่ตอบโจทย์ได้ทั้งในด้านผลตอบ แทน และประสบความสำเร็จด้านการสร้างประโยชน์คืนสู่สังคมด้วย “U Drink I Drive - ดื่มไม่ต้องขับ กลับบ้านสบาย” U Drink I Drive เป็นธุรกิจบริการส่งพนักงานไปขับรถพาคุณกลับบ้านในยามที่คุณไม่สามารถขับเอง ได้อย่างปลอดภัย เช่นเวลาดื่มของมึนเมา เมื่อลูกค้าติดต่อศูนย์บริการพร้อมแจ้งจุดนัดพบและเวลา ทางศูนย์จะส่งเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกอบรมเรื่องการขับรถและมารยาทมาเป็น อย่างดีไปรับและใช้รถของลูกค้าขับไปส่งถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย ด้วยแนวคิดไม่เหมือนใครและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจที่ถูกทางทำให้วันนี้บริการ ของ U Drink I Drive เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย กล้าทำสิ่งใหม่บนพื้นฐานของข้อมูลและการไตร่ตรองที่รอบคอบ เจ้าหน้าที่ในครงการ U Drink I Drive สิ่งที่น่าสนใจคือจุดเริ่มต้นการสร้างธุรกิจของ คุณสิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ และคุณณิชมน วิริยะลัมภะ สองผู้ก่อตั้งบริษัทและดูแลกำกับการดำเนินงาน และเรื่องราวของ U Drink I Drive ไม่ได้เริ่มต้นด้วยการผจญภัยอันน่าตื่นเต้น ไม่ได้มีที่มาจากเรื่องราวการเสี่ยงโชคเดิมพันสู้ชีวิตอันใดอย่างที่เห็นกัน ในภาพยนตร์ แต่เป็นผลจากการตกผลึกทางความคิดและข้อมูลจากการวิจัยค้นคว้าอันหนักหน่วง เพื่อแสวงหาความเป็นไปได้ทางธุรกิจก่อนลงสนามจริง ซึ่งการวางตรรกะความคิดด้วยข้อเท็จจริงก่อนเริ่มต้นนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ ประกอบการรุ่นใหม่จำนวนมากต้องเรียนรู้ คุณสิรโสมย์ เล่าว่าจากผลการศึกษา ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนของประเทศไทยนั้นสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ซึ่งมากกว่าร้อยละ 40 มีสาเหตุจากการเมาแล้วขับ เมื่อศึกษาลึกลงไปจึงพบว่าคนไทยส่วนใหญ่ทราบดีถึงอันตรายแต่เลือกไม่ใช้ บริการแท็กซี่เพราะต้องเอารถกลับและรู้สึกไม่ปลอดภัย ทั้งสองจึงมองเห็นช่องว่างที่บริการของ U Drink I Drive จะสามารถเติมเต็มได้ หลังจากนั้นทั้งสองจึงดำเนินการสำรวจตลาดอย่างจริงจังเพื่อวางแผนธุรกิจจนมีความมั่นใจจึงเปิดตัว ความแตกต่างของธุรกิจเพื่อสังคมกับธุรกิจที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคม - คุณ ณิชมน ให้นิยามความแตกต่างระหว่างการเป็นธุรกิจเพื่อสังคมแบบเต็มตัวกับธุรกิจที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR – Corporate Social Responsibility) ว่า U Drink I Drive มี “ความห่วงใยผู้ใช้บริการและปรารถนาจะแก้ไขปัญหาในสังคม” เป็นจุดเริ่มต้นและเป็นค่านิยมองค์กร (Core Value) เพื่อดำเนินธุรกิจ อันเป็นแนวคิดที่สวนทางกับธุรกิจที่ทำ CSR ทั่วไป ที่เริ่มต้นด้วยการยึดเอาธุรกิจหรือ “Corporate” เป็นตัวตั้ง แล้วค่อยตามด้วย “Social” เพื่อคืนประโยชน์ให้แก่สังคม สร้างจิตสำนึกใหม่ให้กับสังคม แม้การเดินทางของ U Drink I Drive และทีมงานจะอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ผู้ก่อตั้งได้วางเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ไว้แต่แรก คือ “สร้างจิตสำนึกและมุมมองใหม่เกี่ยวกับความปลอดภัยในสังคม” ทั้งสองคนเชื่อมั่นว่าหากกลุ่มคนจำนวนมากสามารถเข้าถึงบริการ เริ่มให้ความไว้วางใจกับบริการนี้ รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ และมีการควบคุมพัฒนาคุณภาพอย่างไม่หยุดยั้ง ภายในระยะเวลา 5 ปี U Drink I Drive จะกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและขับเคลื่อนสังคมไปในทาง ที่ดีขึ้น แนวคิดของ U Drink I Drive อาจไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ทั้งหมด แต่บ่อยครั้งที่นวัตกรรมก็ไม่ได้มาในรูปแบบของสินค้าแต่เป็น Business Model ที่ไม่เหมือนใคร สิ่งหนึ่งที่ U Drink I Drive ทำได้ดีเช่นเดียวกับนวัตกรรมอื่นๆ ที่ประสบความสำเร็จคือ “สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว” พร้อมกับพัฒนาสังคมให้น่าอยู่ควบคู่กันไป…โดย: ธีระ กนกกาญจนรัตน์ ขอบคุณ... http://m.thairath.co.th/content/eco/394634 ขอขอบคุณข้อมูลจากบริษัท ยู ดริงค์ ไอ ไดร์ฟ จำกัด (ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 8 ม.ค.57)

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...