สสจ.เลย เตือนประชาชนห้ามรับประทานคางคก มิเช่นนั้นอาจตาบอดหรือเสียชีวิตได้

แสดงความคิดเห็น

นายสุวิทย์ โรจน์ศักดิ์โสธร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย กล่าวว่า จากข้อมูลของงานระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย มีผู้ที่รับประทานคางคกแล้วเสียชีวิต เมื่อปี 2551 จำนวน 1 ราย ดังนั้นจึงขอเตือนประชาชนห้ามนำคางคกมารับประทานเป็นอันขาด เนื่องจาก คางคกจะมีพิษที่สร้างจากร่างกายของมันเอง แล้วหลั่งมาสู่ผิวหนัง เมื่อสุนัข แมว หรือสัตว์ชนิดอื่นสัมผัสหรือเลีย พิษของคางคกจะทำให้ประสาทหลอน พิษในตัวคางคก ไม่สามารถทำลายด้วยความร้อนได้ แม้ว่าจะนำมาย่าง ปิ้ง ผัด ทอด

เมื่อได้รับพิษ ผู้ป่วยจะแสดงอาการมึนงง สับสน วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน หายใจขัด มีน้ำลายและเสมหะมาก แขนขาอ่อนแรง ปวดท้อง ท้องเดิน ชีพจรเต้นช้าลง และอาจเสียชีวิตได้ เพราะหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวาย หากสารพิษสัมผัสที่ตา จะทำให้เกิดอาการอักเสบของเยื่อบุตาและแก้วตา ทำให้ตาพร่ามัว ถึงกับตาบอดชั่วคราวได้

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เลย ยังกล่าวย้ำอีกว่า ประชาชนไม่ควรนำคางคกมารับประทานเป็น อันขาด ถ้าจะนำคางคกมารับประทานจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญเท่านั้น และจะต้องเตรียมเนื้อคางคกอย่างถูกวิธี เครื่องในและไข่คางคกห้ามนำมาปรุงอาหารอย่างเด็ดขาดเนื่องจากสารพิษจาก เครื่องใน และไข่คางคกไม่สามารถถูกทำลายด้วยความร้อน หากเกิดพิษจากการรับประทาน ต้องรีบทำให้ผู้ป่วยอาเจียนโดยเร็ว ด้วยการป้อนไข่ขาว และรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที

ขอบคุณ http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE9EZzVNakk0Tnc9PQ==&subcatid= (ขนาดไฟล์: 167)

(ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 5 ม.ค.57)

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 5 ม.ค.57
วันที่โพสต์: 6/01/2557 เวลา 03:19:17

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

นายสุวิทย์ โรจน์ศักดิ์โสธร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย กล่าวว่า จากข้อมูลของงานระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย มีผู้ที่รับประทานคางคกแล้วเสียชีวิต เมื่อปี 2551 จำนวน 1 ราย ดังนั้นจึงขอเตือนประชาชนห้ามนำคางคกมารับประทานเป็นอันขาด เนื่องจาก คางคกจะมีพิษที่สร้างจากร่างกายของมันเอง แล้วหลั่งมาสู่ผิวหนัง เมื่อสุนัข แมว หรือสัตว์ชนิดอื่นสัมผัสหรือเลีย พิษของคางคกจะทำให้ประสาทหลอน พิษในตัวคางคก ไม่สามารถทำลายด้วยความร้อนได้ แม้ว่าจะนำมาย่าง ปิ้ง ผัด ทอด เมื่อได้รับพิษ ผู้ป่วยจะแสดงอาการมึนงง สับสน วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน หายใจขัด มีน้ำลายและเสมหะมาก แขนขาอ่อนแรง ปวดท้อง ท้องเดิน ชีพจรเต้นช้าลง และอาจเสียชีวิตได้ เพราะหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวาย หากสารพิษสัมผัสที่ตา จะทำให้เกิดอาการอักเสบของเยื่อบุตาและแก้วตา ทำให้ตาพร่ามัว ถึงกับตาบอดชั่วคราวได้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เลย ยังกล่าวย้ำอีกว่า ประชาชนไม่ควรนำคางคกมารับประทานเป็น อันขาด ถ้าจะนำคางคกมารับประทานจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญเท่านั้น และจะต้องเตรียมเนื้อคางคกอย่างถูกวิธี เครื่องในและไข่คางคกห้ามนำมาปรุงอาหารอย่างเด็ดขาดเนื่องจากสารพิษจาก เครื่องใน และไข่คางคกไม่สามารถถูกทำลายด้วยความร้อน หากเกิดพิษจากการรับประทาน ต้องรีบทำให้ผู้ป่วยอาเจียนโดยเร็ว ด้วยการป้อนไข่ขาว และรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที ขอบคุณ … http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE9EZzVNakk0Tnc9PQ==&subcatid= (ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 5 ม.ค.57)

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...