“เต้น” ชี้ การเมืองกลุ่มเดิมชักใยล้มรัฐบาล

แสดงความคิดเห็น

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง

“เต้น” ชี้ การเคลื่อนไหวกลุ่มการเมืองต่อต้านรัฐขณะนี้ เป็นฝีมือคนชักใยกลุ่มเดิม เพียงแค่เปลี่ยนตัวแสดงนำ จี้ ปชป.แสดงจุดยืนให้ชัดเกี่ยวข้องหรือไม่ อัด “ไชยวัฒน์” เรียกร้องนายกฯม.7 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาว ว่า ถือเป็นความเคลื่อนไหวของคนกลุ่มเดิมที่พยายามที่จะฉายหนังเรื่องเดิมให้คน ทั้งประเทศดูอีกครั้ง ขบวนการที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ ถ้ามองย้อนไปในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ช่วงที่มีก่อตัวของกลุ่มมวลชนออกมากดดันขับไล่ ก็จะมีภาพที่คล้ายกัน กลุ่มคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังยังเป็นคนกลุ่มเดิม เช่นเดียวกับมวลชนที่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นคนกลุ่มเดิม เพียงแต่แตกต่างที่ตัวนักแสดงนำที่เดิมใช้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย (พธม.) เป็นตัวขับเคลื่อน ทั้งนายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง โดยมีพรรคประชาธิปัตย์แตะมืออยู่เบื้องหลังทั้งเรื่องการประสานมวลชน การจัดการอำนวยความสะดวกของการชุมนุม แต่ในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล รำมวยใส่กับแกนนำ พธม. จึงมองหน้ากันไม่สนิทในเวลานี้ ตัวแสดงนำจึงเปลี่ยนหน้าใหม่ เช่น พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ นายแก้วสรร อติโพธิ ส่วนนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นั้นถือเป็นกลุ่มพิเศษที่คอยเคลื่อนไหวในอีกรูปแบบหนึง

“ถือเป็นการแตะมือกันอีกครั้งของทุกขบวนการอย่างครบถ้วน แต่ยังเป็นเกม เป็นแนวคิดและหนังเรื่องเดิม ซึ่งถ้าเคลื่อนไหวภายใต้กรอบของกฎหมายก็สามารถทำได้ แต่ประเด็นที่เรียกร้องเคลื่อนไหวในขณะนี้นับวันยิ่งห่างไกลความเป็น ประชาธิปไตย โดยเฉพาะกลุ่มนายไชยวัฒน์ที่เรียกร้องนายกฯพระราชทาน ก็เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ต่างกันแค่ตอนนั้นนายอภิสิทธิ์ขึ้นเวทีปราศรัยขานรับ นายกฯ ม.7 แต่ครั้งนี้คงเข็ด เพราะสิ่งที่นายไชยวัฒน์เรียกร้องถือว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ มุ่งหมายที่จะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ถ้าเป็นกลุ่มพวกผมทำ ก็จะมีการไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 68 ว่าเป็นการกระทำที่ล้มล้างระบอบประชาธิปไตย และศาลก็จะรับเรื่องไว้ดำเนินการ แต่กรณีของนายไชยวัฒน์ ผมคงไม่ยื่นเพราะกลัวใจศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมาว่าเรื่องราวเหตุการณ์ ยังไม่เกิดขึ้น จึงไม่ถือว่าเป็นความผิด” นายณัฐวุฒิ กล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขอให้พรรคประชาธิปัตย์ แสดงตัวให้ชัดว่าเกี่ยวข้องหรือไม่กับการเคลื่อนไหวของคนเหล่านี้ ทั้งประเด็นนายกฯพระราชทานหรือการ เรียกร้องให้กองทัพออกมารัฐประหาร ซึ่งถ้าเกิดการรัฐประหารจริง พรรคเพื่อไทยจะร่วมกับประชาชนผู้รักประชาธิปไตยออกมาต่อสู้ แต่ตนยังเชื่อคำพูดของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง และมั่นใจว่าการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นของกลุ่มต่าง ๆ จะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาล เพราะถ้ารัฐบาลยังยืนอยู่บนหลักการประชาธิปไตย คนส่วนใหญ่ก็ยังให้การสนับสนุน ส่วนกรณีที่มีการารปะทะระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงกับกลุ่มหน้ากากขาวที่ จ.เชียงใหม่นั้น ตนยังเชื่อมั่นในวิจารณญาณของคนเสื้อแดงที่จะเข้าใจเกมที่เกิดขึ้นอย่างดี เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาบานปลาย อย่างไรก็ตามการเผชิญหน้าของมวลชน 2 ฝ่าย ถ้าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริงก็ยากที่จะเข้าใจว่าใครลงมือก่อนเพราะมีการต่อ ว่าท้าทายกันไปมา โอกาสกระทบกระทั่งกันจึงสูง อย่างการเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก็มีการถือเหล็กแป๊บ ไล่ตีคนเสื้อแดงที่ขี่จักรยานยนต์ การจะชี้ว่าใครผิดหรือถูกทันทีคงยาก.

ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/politics/212850 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 18 มิ.ย.56
วันที่โพสต์: 19/06/2556 เวลา 04:05:15 ดูภาพสไลด์โชว์ “เต้น” ชี้ การเมืองกลุ่มเดิมชักใยล้มรัฐบาล

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง “เต้น” ชี้ การเคลื่อนไหวกลุ่มการเมืองต่อต้านรัฐขณะนี้ เป็นฝีมือคนชักใยกลุ่มเดิม เพียงแค่เปลี่ยนตัวแสดงนำ จี้ ปชป.แสดงจุดยืนให้ชัดเกี่ยวข้องหรือไม่ อัด “ไชยวัฒน์” เรียกร้องนายกฯม.7 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาว ว่า ถือเป็นความเคลื่อนไหวของคนกลุ่มเดิมที่พยายามที่จะฉายหนังเรื่องเดิมให้คน ทั้งประเทศดูอีกครั้ง ขบวนการที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ ถ้ามองย้อนไปในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ช่วงที่มีก่อตัวของกลุ่มมวลชนออกมากดดันขับไล่ ก็จะมีภาพที่คล้ายกัน กลุ่มคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังยังเป็นคนกลุ่มเดิม เช่นเดียวกับมวลชนที่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นคนกลุ่มเดิม เพียงแต่แตกต่างที่ตัวนักแสดงนำที่เดิมใช้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย (พธม.) เป็นตัวขับเคลื่อน ทั้งนายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง โดยมีพรรคประชาธิปัตย์แตะมืออยู่เบื้องหลังทั้งเรื่องการประสานมวลชน การจัดการอำนวยความสะดวกของการชุมนุม แต่ในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล รำมวยใส่กับแกนนำ พธม. จึงมองหน้ากันไม่สนิทในเวลานี้ ตัวแสดงนำจึงเปลี่ยนหน้าใหม่ เช่น พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ นายแก้วสรร อติโพธิ ส่วนนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นั้นถือเป็นกลุ่มพิเศษที่คอยเคลื่อนไหวในอีกรูปแบบหนึง “ถือเป็นการแตะมือกันอีกครั้งของทุกขบวนการอย่างครบถ้วน แต่ยังเป็นเกม เป็นแนวคิดและหนังเรื่องเดิม ซึ่งถ้าเคลื่อนไหวภายใต้กรอบของกฎหมายก็สามารถทำได้ แต่ประเด็นที่เรียกร้องเคลื่อนไหวในขณะนี้นับวันยิ่งห่างไกลความเป็น ประชาธิปไตย โดยเฉพาะกลุ่มนายไชยวัฒน์ที่เรียกร้องนายกฯพระราชทาน ก็เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ต่างกันแค่ตอนนั้นนายอภิสิทธิ์ขึ้นเวทีปราศรัยขานรับ นายกฯ ม.7 แต่ครั้งนี้คงเข็ด เพราะสิ่งที่นายไชยวัฒน์เรียกร้องถือว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ มุ่งหมายที่จะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ถ้าเป็นกลุ่มพวกผมทำ ก็จะมีการไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 68 ว่าเป็นการกระทำที่ล้มล้างระบอบประชาธิปไตย และศาลก็จะรับเรื่องไว้ดำเนินการ แต่กรณีของนายไชยวัฒน์ ผมคงไม่ยื่นเพราะกลัวใจศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมาว่าเรื่องราวเหตุการณ์ ยังไม่เกิดขึ้น จึงไม่ถือว่าเป็นความผิด” นายณัฐวุฒิ กล่าว นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขอให้พรรคประชาธิปัตย์ แสดงตัวให้ชัดว่าเกี่ยวข้องหรือไม่กับการเคลื่อนไหวของคนเหล่านี้ ทั้งประเด็นนายกฯพระราชทานหรือการ เรียกร้องให้กองทัพออกมารัฐประหาร ซึ่งถ้าเกิดการรัฐประหารจริง พรรคเพื่อไทยจะร่วมกับประชาชนผู้รักประชาธิปไตยออกมาต่อสู้ แต่ตนยังเชื่อคำพูดของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง และมั่นใจว่าการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นของกลุ่มต่าง ๆ จะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาล เพราะถ้ารัฐบาลยังยืนอยู่บนหลักการประชาธิปไตย คนส่วนใหญ่ก็ยังให้การสนับสนุน ส่วนกรณีที่มีการารปะทะระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงกับกลุ่มหน้ากากขาวที่ จ.เชียงใหม่นั้น ตนยังเชื่อมั่นในวิจารณญาณของคนเสื้อแดงที่จะเข้าใจเกมที่เกิดขึ้นอย่างดี เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาบานปลาย อย่างไรก็ตามการเผชิญหน้าของมวลชน 2 ฝ่าย ถ้าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริงก็ยากที่จะเข้าใจว่าใครลงมือก่อนเพราะมีการต่อ ว่าท้าทายกันไปมา โอกาสกระทบกระทั่งกันจึงสูง อย่างการเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก็มีการถือเหล็กแป๊บ ไล่ตีคนเสื้อแดงที่ขี่จักรยานยนต์ การจะชี้ว่าใครผิดหรือถูกทันทีคงยาก. ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/politics/212850

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...

ห้องการเมือง