โรคจิต การเมือง ถวิลหา รัฐประหาร แพร่ลาม ระบาด

แสดงความคิดเห็น

ถามว่าเหตุใดเมื่อเริ่มก่อรูปและเคลื่อนไหวในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป้าของการยื่นหนังสือจึงพุ่งไปยัง 2 จุด

จุด 1 คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

จุด 1 คือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน

เพราะ ว่าคนที่เข้าร่วมในการเคลื่อนไหว ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า และในกาลต่อมาไม่เพียงแต่มี พล.อ.ปฐมพงศ์ เกษรศุกร์ และรวมถึง พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป

หากยังมี น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ

คนเหล่านี้ล้วนได้รับการเรียกขานว่าเป็น "เด็กป๋า" ทำงานใกล้ชิดและรับใช้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มาอย่างยาวนาน

ขณะเดียวกัน ความพยายามเคลื่อนขบวนไปบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพบกกระทั่ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ยอมให้เข้าพบ

นับว่ามี "นัยยะ" สำคัญ

เพราะจากการเคลื่อนไหวนัดแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ กระทั่งในที่สุดในเดือนกันยายน 2549 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ก็ก่อการรัฐประหาร

โค่นรัฐบาล "ทักษิณ"

ปัจจัยที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต้องทำหนังสือยื่นผ่าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และขอเข้าพบ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน จึงสำคัญ

สำคัญต่อการเมืองไทย

หากใครติดตามการปราศรัยของนักพูดบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในแต่ละคืนก็จะจับทางได้

จับทางในการร้องหา "ทหาร"

เหมือนกับที่ครั้งหนึ่งได้เกิดบรรยากาศและเสียงกู่ร้องทางการเมืองในลักษณะที่กลายเป็นกระแสในทำนองว่า

"คิดถึงสฤษดิ์จริงโว้ย"

คำว่า "สฤษดิ์" ในที่นี้หมายถึง จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อันเป็นปฏิมาของทหารที่ปกครองประเทศด้วยปากกระบอกปืน

ใช้อำนาจเผด็จการอย่างเฉียบขาด

ใน ที่สุด การเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่เริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ ที่สามารถระดมคนได้เรือนแสนก็เท่ากับเป็นการปูทางและสร้างเงื่อนไขนำไปสู่ สภาพทางการเมืองในแบบ

"คิดถึงสฤษดิ์จริงโว้ย"

อย่าแปลกใจที่เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปแสดงปาฐกถาพิเศษในประชาคมประชาธิปไตยโลก ณ กรุงอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย

จึงนำไปสู่ "ปฏิกิริยา" เป็นอย่างสูง

เพราะว่าปาฐกถาพิเศษนั้นเสนอ "เส้นแบ่ง" อย่างสำคัญต่อประวัติศาสตร์การเมืองยุคใหม่ของไทยว่าเนื่องแต่

รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549

บทบาทของรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 จึงเหมือนกับหินลองทองอันคมแหลมและเหมือนกับสันปันน้ำในทางความคิด

ใครเห็นด้วย ใครไม่เห็นด้วย

ที่ ทะเลาะเบาะแว้งอยู่ในขณะนี้ก็ล้วนแต่มีรากที่มาจากการรัฐประหารเมื่อเดือน กันยายน 2549 ทั้งสิ้น ที่คร่ำครวญหวนไห้และสำแดงอาการเหมือนกับเป็นการกวักมือเรียกทหารให้ออกมา อีกครั้ง

ก็เนื่องแต่อาการถวิลหารัฐประหารทั้งสิ้น

การทำความเข้าใจต่อเงื่อนไข มูลเชื้อและผลสะเทือนอันเนื่องแต่รัฐประหารเดือนกันยายน 2549 จึงมีความจำเป็น

ไม่ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย

การเคลื่อนไหวทางการเมือง ทุกก้าวย่างจึงเริ่มจากจุดนั้นและทำท่าจะหวนกลับไปสู่จุดนั้นอีก

เพราะ ว่าฝ่ายที่เคยคิดว่ากำชัยเริ่มตระหนักแล้วว่ามิได้กำชัยอย่างแท้จริง จึงหวังอีกครั้งว่าจะพลิกเวลาให้หวนกลับเพื่อที่จะได้เรียกชัยได้คืนมา

1 ประเทศ 2 อำนาจรัฐ

ขอบคุณ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1368511231&grpid=&catid=12&subcatid=1200 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 14 พ.ค.56
วันที่โพสต์: 15/05/2556 เวลา 03:29:04

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ถามว่าเหตุใดเมื่อเริ่มก่อรูปและเคลื่อนไหวในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป้าของการยื่นหนังสือจึงพุ่งไปยัง 2 จุด จุด 1 คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จุด 1 คือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เพราะ ว่าคนที่เข้าร่วมในการเคลื่อนไหว ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า และในกาลต่อมาไม่เพียงแต่มี พล.อ.ปฐมพงศ์ เกษรศุกร์ และรวมถึง พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป หากยังมี น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ คนเหล่านี้ล้วนได้รับการเรียกขานว่าเป็น "เด็กป๋า" ทำงานใกล้ชิดและรับใช้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มาอย่างยาวนาน ขณะเดียวกัน ความพยายามเคลื่อนขบวนไปบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพบกกระทั่ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ยอมให้เข้าพบ นับว่ามี "นัยยะ" สำคัญ เพราะจากการเคลื่อนไหวนัดแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ กระทั่งในที่สุดในเดือนกันยายน 2549 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ก็ก่อการรัฐประหาร โค่นรัฐบาล "ทักษิณ" ปัจจัยที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต้องทำหนังสือยื่นผ่าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และขอเข้าพบ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน จึงสำคัญ สำคัญต่อการเมืองไทย หากใครติดตามการปราศรัยของนักพูดบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในแต่ละคืนก็จะจับทางได้ จับทางในการร้องหา "ทหาร" เหมือนกับที่ครั้งหนึ่งได้เกิดบรรยากาศและเสียงกู่ร้องทางการเมืองในลักษณะที่กลายเป็นกระแสในทำนองว่า "คิดถึงสฤษดิ์จริงโว้ย" คำว่า "สฤษดิ์" ในที่นี้หมายถึง จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อันเป็นปฏิมาของทหารที่ปกครองประเทศด้วยปากกระบอกปืน ใช้อำนาจเผด็จการอย่างเฉียบขาด ใน ที่สุด การเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่เริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ ที่สามารถระดมคนได้เรือนแสนก็เท่ากับเป็นการปูทางและสร้างเงื่อนไขนำไปสู่ สภาพทางการเมืองในแบบ "คิดถึงสฤษดิ์จริงโว้ย" อย่าแปลกใจที่เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปแสดงปาฐกถาพิเศษในประชาคมประชาธิปไตยโลก ณ กรุงอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย จึงนำไปสู่ "ปฏิกิริยา" เป็นอย่างสูง เพราะว่าปาฐกถาพิเศษนั้นเสนอ "เส้นแบ่ง" อย่างสำคัญต่อประวัติศาสตร์การเมืองยุคใหม่ของไทยว่าเนื่องแต่ รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 บทบาทของรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 จึงเหมือนกับหินลองทองอันคมแหลมและเหมือนกับสันปันน้ำในทางความคิด ใครเห็นด้วย ใครไม่เห็นด้วย ที่ ทะเลาะเบาะแว้งอยู่ในขณะนี้ก็ล้วนแต่มีรากที่มาจากการรัฐประหารเมื่อเดือน กันยายน 2549 ทั้งสิ้น ที่คร่ำครวญหวนไห้และสำแดงอาการเหมือนกับเป็นการกวักมือเรียกทหารให้ออกมา อีกครั้ง ก็เนื่องแต่อาการถวิลหารัฐประหารทั้งสิ้น การทำความเข้าใจต่อเงื่อนไข มูลเชื้อและผลสะเทือนอันเนื่องแต่รัฐประหารเดือนกันยายน 2549 จึงมีความจำเป็น ไม่ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย การเคลื่อนไหวทางการเมือง ทุกก้าวย่างจึงเริ่มจากจุดนั้นและทำท่าจะหวนกลับไปสู่จุดนั้นอีก เพราะ ว่าฝ่ายที่เคยคิดว่ากำชัยเริ่มตระหนักแล้วว่ามิได้กำชัยอย่างแท้จริง จึงหวังอีกครั้งว่าจะพลิกเวลาให้หวนกลับเพื่อที่จะได้เรียกชัยได้คืนมา 1 ประเทศ 2 อำนาจรัฐ ขอบคุณ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1368511231&grpid=&catid=12&subcatid=1200

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...

ห้องการเมือง