อนาคต การเมือง การเมือง ไทย กัมพูชา กรณี เขาพระวิหาร

แสดงความคิดเห็น

กรณีคดีความระหว่างไทย-กัมพูชาอันเกี่ยวกับปราสาทเขาพระวิหาร เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเปราะบางอย่างยิ่งในทางการเมือง

รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงมากด้วยความระมัดระวัง

ไม่ว่าสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไม่ว่าสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ไม่ว่ากองบัญชาการตำรวจสันติบาล ต่างแสดงความห่วงใย

เตือนให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่าประมาทหรือผลีผลาม

พื้น ฐานในทางความห่วงใยเพราะตระหนักว่าปมแห่งความคิดรักชาติ ความคิดชาตินิยมอาจถูกปลุกระดมให้กลายเป็นความหลงชาติ คลั่งชาติ จากบางฝ่ายบางกลุ่ม

เพราะมี "เชื้อ" แห่งความไม่พอใจดำรงอยู่ตั้งแต่เมื่อปี 2551 เป็นต้นมา

จาก เดือนสิงหาคม 2554 ที่เข้ามาเป็นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงตั้งการ์ดในเรื่องนี้อย่างรอบด้านกระทั่งสามารถผ่านพ้นยกที่ 1 มาได้ในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

แต่มิได้หมายความว่าจะรอดปลอดภัย

น่าสนใจก็ตรงที่ท่าทีอันพลิกเปลี่ยน แปรผันอย่างชวนให้งงงวยของกลุ่มขวาจัด กลุ่มคลั่งชาติต่อการดำเนินคดีที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

ทั้งๆ ที่คนกลุ่มนี้ปฏิเสธอำนาจของ "ศาลโลก"

ทั้งๆ ที่คนกลุ่มนี้ปฏิเสธแม้กระทั่งการจัดทำคำถาม คำตอบ 50 ประเด็นของกระทรวงการต่างประเทศ

แต่เมื่อเห็นการต่อสู้คดีในขั้นศาลพวกเขากลับเปลี่ยนไป

แม้ การเปลี่ยนไปจะเสมอเป็นเพียงยุทธวิธี 1 โดยการชูบทบาท นายวีรชัย พลาศรัย สูงเด่นจนผิดปกติเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล แต่ก็ต้องยอมรับว่าบทบาทเป็นจริงของ นายวีรชัย พลาศรัย ก็ยังอยู่ในสถานะอันเป็นกลไกของรัฐบาล กลไกของประเทศ

มิได้ "เป็นอื่น" มิได้ "แปลกปลอม"

ความหมายสำคัญยิ่งของคณะทนายความซึ่งมี นายวีรชัย พลาศรัย เป็นหัวหน้าเป็นความหมายที่สร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลเป็นอย่างสูง

และจะสูงมากยิ่งขึ้นหากรัฐบาล "เป็นมวย"

เพราะ ว่าการยืนยันของคณะทนายความประเทศไทย เป็นการยืนยันตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเมื่อปี 2505 และมติครม.ไทยเมื่อปี 2505 อย่างเคร่งครัด

1 รับรองว่าปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา

ขณะเดียวกัน 1 ยอมรับว่าพื้นที่รอบตัวปราสาทยังเป็นปัญหาในเรื่องอธิปไตยและเป็นเรื่องที่ไทยกับกัมพูชาจะปรึกษาหารือกันในแบบทวิภาคี

นี่คือหลักการที่จะอยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตร

ไม่ว่าในที่สุดคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศจะดำเนินไปอย่างไร

คำยืนยันจากประเทศกัมพูชาและประเทศไทยตรงกันก็คือ ทั้ง 2 ประเทศจะเคารพและปฏิบัติตาม เพื่อยังความสงบระหว่าง 2 ประเทศให้ดำเนินต่อไป

หลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติเช่นนี้เป็นคุณ

ขอบคุณ http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dOVEkxTURRMU5nPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE15MHdOQzB5TlE9PQ== (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 25 เม.ย.56
วันที่โพสต์: 26/04/2556 เวลา 02:33:01

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

กรณีคดีความระหว่างไทย-กัมพูชาอันเกี่ยวกับปราสาทเขาพระวิหาร เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเปราะบางอย่างยิ่งในทางการเมือง รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงมากด้วยความระมัดระวัง ไม่ว่าสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไม่ว่าสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ไม่ว่ากองบัญชาการตำรวจสันติบาล ต่างแสดงความห่วงใย เตือนให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่าประมาทหรือผลีผลาม พื้น ฐานในทางความห่วงใยเพราะตระหนักว่าปมแห่งความคิดรักชาติ ความคิดชาตินิยมอาจถูกปลุกระดมให้กลายเป็นความหลงชาติ คลั่งชาติ จากบางฝ่ายบางกลุ่ม เพราะมี "เชื้อ" แห่งความไม่พอใจดำรงอยู่ตั้งแต่เมื่อปี 2551 เป็นต้นมา จาก เดือนสิงหาคม 2554 ที่เข้ามาเป็นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงตั้งการ์ดในเรื่องนี้อย่างรอบด้านกระทั่งสามารถผ่านพ้นยกที่ 1 มาได้ในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ แต่มิได้หมายความว่าจะรอดปลอดภัย น่าสนใจก็ตรงที่ท่าทีอันพลิกเปลี่ยน แปรผันอย่างชวนให้งงงวยของกลุ่มขวาจัด กลุ่มคลั่งชาติต่อการดำเนินคดีที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ทั้งๆ ที่คนกลุ่มนี้ปฏิเสธอำนาจของ "ศาลโลก" ทั้งๆ ที่คนกลุ่มนี้ปฏิเสธแม้กระทั่งการจัดทำคำถาม คำตอบ 50 ประเด็นของกระทรวงการต่างประเทศ แต่เมื่อเห็นการต่อสู้คดีในขั้นศาลพวกเขากลับเปลี่ยนไป แม้ การเปลี่ยนไปจะเสมอเป็นเพียงยุทธวิธี 1 โดยการชูบทบาท นายวีรชัย พลาศรัย สูงเด่นจนผิดปกติเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล แต่ก็ต้องยอมรับว่าบทบาทเป็นจริงของ นายวีรชัย พลาศรัย ก็ยังอยู่ในสถานะอันเป็นกลไกของรัฐบาล กลไกของประเทศ มิได้ "เป็นอื่น" มิได้ "แปลกปลอม" ความหมายสำคัญยิ่งของคณะทนายความซึ่งมี นายวีรชัย พลาศรัย เป็นหัวหน้าเป็นความหมายที่สร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลเป็นอย่างสูง และจะสูงมากยิ่งขึ้นหากรัฐบาล "เป็นมวย" เพราะ ว่าการยืนยันของคณะทนายความประเทศไทย เป็นการยืนยันตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเมื่อปี 2505 และมติครม.ไทยเมื่อปี 2505 อย่างเคร่งครัด 1 รับรองว่าปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา ขณะเดียวกัน 1 ยอมรับว่าพื้นที่รอบตัวปราสาทยังเป็นปัญหาในเรื่องอธิปไตยและเป็นเรื่องที่ไทยกับกัมพูชาจะปรึกษาหารือกันในแบบทวิภาคี นี่คือหลักการที่จะอยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตร ไม่ว่าในที่สุดคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศจะดำเนินไปอย่างไร คำยืนยันจากประเทศกัมพูชาและประเทศไทยตรงกันก็คือ ทั้ง 2 ประเทศจะเคารพและปฏิบัติตาม เพื่อยังความสงบระหว่าง 2 ประเทศให้ดำเนินต่อไป หลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติเช่นนี้เป็นคุณ ขอบคุณ http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dOVEkxTURRMU5nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE15MHdOQzB5TlE9PQ==

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...

ห้องการเมือง