รายละเอียดกระทู้

ทักษิณ แค่รุมๆ ไม่ถึงขั้นร้อนฉ่า! การ เมืองหลังหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ที่คาดว่าจะฮอตทะลุปรอทกับ 2 ปมร้อน ทั้งคดีปราสาทพระวิหาร ที่ตัวแทนประเทศไทยไปต่อสู้คดีในศาลโลกกับคู่กรณีประเทศกัมพูชาช่วงวันหยุด ยาวที่ผ่านมา รวมทั้งประเด็นการเสนอเลื่อนวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่จะขอ “ลัดคิว” กันทันทีหลังสงกรานต์ สุดท้ายไม่มีอะไรหวาดเสียว บรรยากาศยังชิลชิล ทั้งคดีปราสาทพระวิหาร ทีมกฎหมายต่อสู้คดีของไทย นำโดยนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ขึ้นให้การด้วยวาจาต่อศาลโลก ตอบโต้แก้ข้อกล่าวหาในถ้อยแถลงของตัวแทนรัฐบาลกัมพูชาในวันแรก ได้ทุกเม็ด รอปิดแถลงด้วยวาจานัดสุดท้าย 19 เม.ย.นี้ หลังจากนั้นค่อยมาลุ้นคำพิพากษาอีกครั้งในราว 6 เดือนข้างหน้า นอก จากข้อกฎหมายแล้ว เรื่องอิทธิพลชี้นำของประเทศมหาอำนาจก็เป็นเรื่องที่ต้องจับตา โดยเฉพาะที่เกี่ยวโยงกับผลประโยชน์ระดับชาติ รวมทั้งการถ่วงดุลอำนาจของประเทศบิ๊กเบิ้มในอาเซียน วันนี้ถือว่า “ทีมไทยแลนด์” ทำหน้าที่อย่างเต็มภาคภูมิแล้ว ทั้ง ท่านทูตวีรชัย และทีมทนายต่างชาติ โดยเฉพาะ “ท่านทูตวีรชัย” หรือ “ท่านทูตแสบ” ได้รับคำยกย่องไปเต็มๆ กับการปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนของประเทศไทยในครั้งนี้ สมกับการเป็นข้า ราชการ “ครุฑทองคำ” ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้บริหารข้าราชการพลเรือนดีเด่น ซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม เป็นกลางทางการเมือง ยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ แม้ครั้งหนึ่งท่านทูต ต้องโดนมรสุมการเมือง ถูกโยกย้ายจากอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯในการต่อสู้เรื่องพื้นที่เขาพระวิหาร ที่ว่าเพราะไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง “ผู้มีอำนาจ” ขณะนั้น และปฏิเสธสนองคำขอในปม “เอกสารลับ” บางอย่างก่อนจะกลับมาเป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ และเอกอัครราชทูตประจำราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (กรุงเฮก) ทำหน้าที่แม่ทัพต่อสู้คดีพระวิหาร ณ ศาลโลก ในวันนี้ กลับ มาดูเรื่องที่ว่าจะร้อนหลังสงกรานต์ การเสนอลัดคิวร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่แม้จะมีลูกขึงขังจากคนพรรคเพื่อไทย รวมทั้งการประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้ ส.ส.และ ส.ว.ส่งคำชี้แจงกรณีที่ถูกร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 จนมีการออกแถลงการณ์ในนาม วิปรัฐสภา ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ประกาศเดินหน้ากระบวนการตามอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติในการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญ โดยไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ล่าสุดในการเสนอเลื่อน ระเบียบวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่เสนอโดย 42 ส.ส. นำโดยนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ขึ้นมาเป็นวาระด่วน ปมนี้ดูเหมือนจะร้อนแต่ยังไม่พีกตอนนี้ เพราะแม้เลื่อนวาระ แต่ก็ไม่ได้เร่งรัดเสนอให้ที่ประชุมถกวาระแรกกันทันที หรือเร่งพิจารณาช่วงเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ชะลอเกม เลื่อนดันกฎหมายนิรโทษไปช่วงเดือน ส.ค.ซะงั้น ทั้ง ที่นายวรชัย และคนเสื้อแดง ที่บินไปพบนายใหญ่ก็ออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นด้วย “นายกฯปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่แม้เล่นบท “หนูไม่รู้” ก็ไม่ขัดข้อง ถึงขั้นที่ว่า “นายใหญ่” ตีธงส่งสัญญาณแรง ให้เร่งดันกฎหมาย ช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่ติดคุกติดตะราง แต่สุดท้ายคนเสื้อแดงที่เป็น “เหยื่อการเมือง” เหมือนถูกกระทำอีกครั้ง เป็น “เหยื่อการเมือง” ซ้ำซาก ที่ ตีสองหน้า “สับขาหลอก” เพราะนายใหญ่มีเป้าหมายจริงๆ ดูได้จากการจัดลำดับความสำคัญ ทั้งเร่งปั๊มร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ดันงบฯ 2557 เร่งงบฯน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ควบคู่ไปกับแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทกับเมกะโปรเจกต์โครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่ง พลิกโฉมประเทศไทย หว่านฝันหวานๆให้คนไทย รอกวาดคะแนนได้อื้ออยู่แล้ว ส่วนเรื่องนิรโทษกรรม ตามร่างที่ ส.ส.เสนอ หาก “นายใหญ่” ไม่ได้อะไรด้วย ก็ไม่รู้จะเร่งทำไม หนำ ซ้ำหากเดินหน้าเต็มพิกัด อีกทางหนึ่งก็สุ่มเสี่ยงกับ “ดาบที่เงื้อ” ชนักคดีความต่างๆในองค์กรตรวจสอบ ทั้ง ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ ก็พร้อมจะเข้าสู่โหมด “เกมไว” เช่นกัน เสี่ยงอำนาจในมือ “น้องสาว” หลุดลอย “ทักษิณ” ต้องประคองไว้ แต่ที่ทำแข็งขันแอ็กชั่นเอาจริงเกมนิรโทษ ก็แค่การบริหารจัดการคะแนนนิยม “เลี้ยงกระแส” มวลชน เป็นลีลาสับขาหลอกของ “จอมสับเขียงสะเทือน” อย่าง “ทักษิณ” ที่เชื่อว่าใครก็ตามไม่ทัน หรือตามทันก็ “เอาอยู่” เพราะ “อำนาจ” และ “เสบียง” 2 เรื่องหลักต้องมาก่อนเรื่องอื่นใด. ทีมข่าวการเมือง ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/339620