การเมืองร้อนแน่

แสดงความคิดเห็น

สภาพอากาศบนโลกใบนี้รวมทั้ง ประเทศไทย ดูเหมือนจะแปลก ๆ ไปทุกวัน ๆ

นี่ขนาดยังไม่พ้นเดือน มี.ค. ความร้อนยังแผดเผาประเทศไทยขนาดนี้ แล้วถ้าย่างเข้าเดือน เม.ย. ที่จัดว่าเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของไทย ผมยังนึกสภาพไม่ออกว่าเราจะอยู่ในสภาพอย่างไร

สภาพอากาศที่ร้อนจัด เมื่อหันไปดูสถานการณ์ทางการเมือง หลายคนยิ่งมองว่าจะร้อนแรงยิ่งกว่าสภาพอากาศเสียอีก

เมื่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผลักดันร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท จนผ่านวาระแรกใน 1-2 วันนี้เรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็จะเป็นเรื่องของการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณา และเรื่องจะเงียบไปพักหนึ่งอย่างน้อยจนกว่าจะกลับเข้ามาพิจารณาวาระสองและสามในสภาอีกครั้ง

ทว่าคิวต่อไปในสัปดาห์หน้าหากไม่มีอะไรพลิกผันก็จะเป็นเรื่องของ การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา รวม 3 ฉบับ เชื่อขนมกินได้เลยว่า ฝ่ายค้านอย่าง พรรคประชาธิปัตย์ และพลพรรค ส.ว.ลากตั้ง จะต้องลุกขึ้นมาคัดค้านอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูเช่นเดียวกับคราวที่มีการแก้ไขทั้งฉบับจนค้างเติ่งอยู่ในสภา

ถัดไปกลางเดือน เม.ย. ศาลโลก มีนัดให้ ไทยและกัมพูชา ไปชี้แจงปิดคดีพื้นที่พิพาทรอบปราสาทพระวิหาร ถึงช่วงนั้นบรรดาธรรมยาตราและแนวร่วม คงจะปลุกระดมให้เกิดกระแส ความคลั่งชาติ และถือโอกาสนี้ล้ม รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ให้จงได้

เป็นการไล่เรียงความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ทางการเมืองที่จะทำให้เกิดบรรยากาศเร่าร้อนอย่างที่คอการเมืองคาดการณ์

ยังดีที่ผู้กุมอำนาจใน พรรคเพื่อไทย พยายามยื้อการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองต่าง ๆ ให้ชะลอออกไปไม่ให้มาเป็นชนวนเพิ่มความร้อนแรงจากสถานการณ์ที่เห็นและเป็นอยู่

หากพินิจพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราทั้ง 3 ฉบับครานี้ เป็นการย้อนเกล็ด ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ชี้ช่องให้แก้ไขเป็นรายมาตราจะสะดวกโยธินมากกว่าการแก้ไขทั้งฉบับ

ทั้งยังเป็นเรื่องที่ทั้งสานประโยชน์และสมประโยชน์กันระหว่าง พรรครัฐบาล และ ส.ว.เลือกตั้งพวกหนึ่งลงชื่อสนับสนุนให้แก้ไขที่มา ส.ว. ให้มาจากการเลือกตั้ง 200 คนอีกกลุ่มหนึ่งลงชื่อสนับสนุนให้แก้ไขมาตรา 190 เรื่องการทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศ

อีกชุดหนึ่งลงชื่อแก้ไขมาตรา 68 เพื่อไม่ให้ ศาลรัฐธรรมนูญ มีอำนาจจัดการทุกสรรพสิ่ง และพ่วงด้วยมาตรา 237 เพื่อไม่ให้มีการยุบพรรคการเมือง เป็นอาวุธนิวเคลียร์ทำลายล้างทางการเมืองได้เช่นที่แล้ว ๆ มา

ลำพังยังไม่ทันจะพิจารณาเรื่องนี้ก็มี ส.ว.ไพบูลย์ นิติตะวัน เตรียมจะหารือกับ ส.ว.คนอื่น ๆ เพื่อใช้ สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 68 วรรคสอง ส่งเรื่องให้ ศาลรัฐธรรมนูญ จัดการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่สไกป์เข้ามาสั่งการในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยในเรื่องต่าง ๆ

ด้วยข้อหาอันหนักหน่วงว่า ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญปี 50…???

แน่นอนว่าหาก ศาลรัฐธรรมนูญ รับเรื่องนี้เอาไว้พิจารณา ย่อมเป็นระเบิดเวลาอีกลูกหนึ่งที่อาจผูกโยงไปถึง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยังไม่นับรวมกรณีที่ ป.ป.ช. กำลังตรวจสอบการปล่อยกู้ 30 ล้านจนถึงขนาดต้องลนลานเปิดทาง นายกฯ สำรอง อย่างเร็วรี่

การเมืองจะร้อนก็ร้อนไป ขออย่างเดียวอย่าให้มือที่สามมาเหยียบเบรกประชาธิปไตยไทยก็แล้วกัน...!!!.

ขอบคุณ http://www.dailynews.co.th/article/632/193630

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 29 มี.ค.56
วันที่โพสต์: 29/03/2556 เวลา 04:30:42

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

สภาพอากาศบนโลกใบนี้รวมทั้ง ประเทศไทย ดูเหมือนจะแปลก ๆ ไปทุกวัน ๆ นี่ขนาดยังไม่พ้นเดือน มี.ค. ความร้อนยังแผดเผาประเทศไทยขนาดนี้ แล้วถ้าย่างเข้าเดือน เม.ย. ที่จัดว่าเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของไทย ผมยังนึกสภาพไม่ออกว่าเราจะอยู่ในสภาพอย่างไร สภาพอากาศที่ร้อนจัด เมื่อหันไปดูสถานการณ์ทางการเมือง หลายคนยิ่งมองว่าจะร้อนแรงยิ่งกว่าสภาพอากาศเสียอีก เมื่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผลักดันร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท จนผ่านวาระแรกใน 1-2 วันนี้เรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็จะเป็นเรื่องของการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณา และเรื่องจะเงียบไปพักหนึ่งอย่างน้อยจนกว่าจะกลับเข้ามาพิจารณาวาระสองและสามในสภาอีกครั้ง ทว่าคิวต่อไปในสัปดาห์หน้าหากไม่มีอะไรพลิกผันก็จะเป็นเรื่องของ การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา รวม 3 ฉบับ เชื่อขนมกินได้เลยว่า ฝ่ายค้านอย่าง พรรคประชาธิปัตย์ และพลพรรค ส.ว.ลากตั้ง จะต้องลุกขึ้นมาคัดค้านอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูเช่นเดียวกับคราวที่มีการแก้ไขทั้งฉบับจนค้างเติ่งอยู่ในสภา ถัดไปกลางเดือน เม.ย. ศาลโลก มีนัดให้ ไทยและกัมพูชา ไปชี้แจงปิดคดีพื้นที่พิพาทรอบปราสาทพระวิหาร ถึงช่วงนั้นบรรดาธรรมยาตราและแนวร่วม คงจะปลุกระดมให้เกิดกระแส ความคลั่งชาติ และถือโอกาสนี้ล้ม รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ให้จงได้ เป็นการไล่เรียงความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ทางการเมืองที่จะทำให้เกิดบรรยากาศเร่าร้อนอย่างที่คอการเมืองคาดการณ์ ยังดีที่ผู้กุมอำนาจใน พรรคเพื่อไทย พยายามยื้อการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองต่าง ๆ ให้ชะลอออกไปไม่ให้มาเป็นชนวนเพิ่มความร้อนแรงจากสถานการณ์ที่เห็นและเป็นอยู่ หากพินิจพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราทั้ง 3 ฉบับครานี้ เป็นการย้อนเกล็ด ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ชี้ช่องให้แก้ไขเป็นรายมาตราจะสะดวกโยธินมากกว่าการแก้ไขทั้งฉบับ ทั้งยังเป็นเรื่องที่ทั้งสานประโยชน์และสมประโยชน์กันระหว่าง พรรครัฐบาล และ ส.ว.เลือกตั้งพวกหนึ่งลงชื่อสนับสนุนให้แก้ไขที่มา ส.ว. ให้มาจากการเลือกตั้ง 200 คนอีกกลุ่มหนึ่งลงชื่อสนับสนุนให้แก้ไขมาตรา 190 เรื่องการทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศ อีกชุดหนึ่งลงชื่อแก้ไขมาตรา 68 เพื่อไม่ให้ ศาลรัฐธรรมนูญ มีอำนาจจัดการทุกสรรพสิ่ง และพ่วงด้วยมาตรา 237 เพื่อไม่ให้มีการยุบพรรคการเมือง เป็นอาวุธนิวเคลียร์ทำลายล้างทางการเมืองได้เช่นที่แล้ว ๆ มา ลำพังยังไม่ทันจะพิจารณาเรื่องนี้ก็มี ส.ว.ไพบูลย์ นิติตะวัน เตรียมจะหารือกับ ส.ว.คนอื่น ๆ เพื่อใช้ สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 68 วรรคสอง ส่งเรื่องให้ ศาลรัฐธรรมนูญ จัดการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่สไกป์เข้ามาสั่งการในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยในเรื่องต่าง ๆ ด้วยข้อหาอันหนักหน่วงว่า ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญปี 50…??? แน่นอนว่าหาก ศาลรัฐธรรมนูญ รับเรื่องนี้เอาไว้พิจารณา ย่อมเป็นระเบิดเวลาอีกลูกหนึ่งที่อาจผูกโยงไปถึง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยังไม่นับรวมกรณีที่ ป.ป.ช. กำลังตรวจสอบการปล่อยกู้ 30 ล้านจนถึงขนาดต้องลนลานเปิดทาง นายกฯ สำรอง อย่างเร็วรี่ การเมืองจะร้อนก็ร้อนไป ขออย่างเดียวอย่าให้มือที่สามมาเหยียบเบรกประชาธิปไตยไทยก็แล้วกัน...!!!. ขอบคุณ http://www.dailynews.co.th/article/632/193630

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...

ห้องการเมือง