'ผบ.ทบ.'แนะใช้สติดับการเมืองร้อน 'ประยุทธ์' แนะใช้สติดับการเมืองร้อน อย่าให้เครดิตโจรใต้บึ้มแสดงศักยภาพ ส่งทหารช่วยไฟไหม้ศูนย์อพยพ ช่วยคนไทยในพม่า บินสิงคโปร์ร่วมพิธีปิด 'ฝึกคชสีห์ 2013'
เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 56 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงการวางตัวของกองทัพในช่วงเดือนเมษายนที่มีการวิเคราะห์ว่า สถานการณ์ทางการเมืองจะมีความรุนแรง เพราะเป็นช่วงที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการพิจารณาคดีประสาทพระวิหารว่า เราทำตัวเป็นทหารปกติ ใจเย็นและมีสติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งไว้เสมอ คนเราต้องมีสติ รับรู้ เรียนรู้ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา อย่างไรก็ตามเดือนเมษายน เป็นเดือนที่ร้อนอยู่แล้วจึงกำหนดให้เป็นเทศกาลสงกรานต์ ถ้าร้อนมากก็เอาน้ำมารดกันจะได้เย็นลง และหวังว่าคงจะไม่มีเรื่องอะไร
เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐบาลจะออก พ.ร.บ.กู้เงินจำนวน 2 ล้านล้านบาท พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงตอบไม่ได้ว่า เห็นด้วยหรือไม่ หากมีความจำเป็น ถ้าทำได้ก็ทำ ส่วนกรณีที่จะมีการแก้รัฐธรรมนูญตามรายมาตราและอาจจะมีการแก้มาตรา112ด้วย นั้น เขาบอกว่าจะไม่แตะ และไม่ใช่เรื่องและเวลาที่จะมาวุ่นวายไปเสียทุกเรื่อง ทหารเป็นประชาชนคนหนึ่ง แต่การแสดงความคิดเห็นต้องระมัดระวังในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ เพราะจะกลายเป็นว่าเอากองทัพไปกดดัน การที่ตนสามารถพูดได้จนถึงวันนี้เพราะมีหน้าที่ตามยุทธศาสตร์ของกองทัพ คือ การสร้างความรักความสามัคคีของคนไทย สนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมถึงการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบต้องทำ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ อะไรก็ตามที่ทำให้เกิดความแตกแยก ความไม่สามัคคี เราไม่ต้องการให้เกิด และอย่าเอากองทัพไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่แตกแยก เพราะเจ้าหน้าที่จะทำงานลำบาก ที่ผ่านมามีบทเรียนอยู่แล้วจึงต้องระมัดระวัง
เมื่อถามถึงการดำเนินการถอดยศ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องรอให้กระบวนการทางศาลสิ้นสุดลงก่อน เพราะขณะนี้มีการฟ้องร้องกันอยู่ ทั้งนี้กองทัพพร้อมดำเนินการตามคำตัดสินของศาล
เมื่อถามว่า ถ้าศาลโลกตัดสินให้เราเสียดินแดน กองทัพจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปถ้า เอาให้เป็นเรื่องก่อนค่อยว่ากัน ตอนนี้รอคำตัดสิน การต่อสู้ในศาลโลกอย่าพึ่งไปพูดถึงเพราะยังไม่ได้เริ่มต้น เดือนเมษายนเป็นเพียงการรับฟังจากทั้ง 2 ฝ่ายอีกครั้ง ส่วนผลจะออกมาอย่างไรต้องรอผลตัดสินตอนปลายปี ทั้งนี้ฝ่ายความมั่นคง รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องนำผลตัดสินนั้นมาวิเคราะห์ว่า จะทำอย่างไร จะเลือกวิธีไหน และในฐานะที่เราเป็นเจ้าหน้าที่และเป็นกลไกของรัฐจะต้องนำไปสู่การแก้ปัญหา ด้วยวิธีที่ถูกต้อง ไม่ว่า อะไรจะเกิดขึ้น จะทำหรือไม่ทำ ทั้งหมดเป็นมติ ไม่ใช่ใครจะมาสั่งการ เพราะต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) รัฐสภา เพื่อใคร่ครวญว่า ประเทศไทยจะได้หรือเสียอะไร
เชื่อโจรบึ้มใต้หวังแสดงศักยภาพอย่าให้เครดิต
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนใต้ว่า เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น เขาต้องการแสดงศักยภาพ เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักมากขึ้น เพราะในพื้นที่มีปัญหาทับซ้อนกันหลายปัญหา อย่าเพิ่งไปวิตกว่า การพูดคุยจะได้ผลหรือไม่ ขอให้ทำไปก่อน ทั้งนี้ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วย เพราะเขาต้องทำงานภายใต้สภาวะแวดล้อมที่กดดัน และไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากมีเรื่องศาสนา เราใช้ความรุนแรงมากเกินไปก็ไม่ได้ เพราะจะมีผลกระทบในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม อย่าให้เครดิตกับพวกเหล่านี้มากนัก ต้องให้เครดิตกับเจ้าหน้าที่ของเราที่สามารถทำให้สถานการณ์ไม่ลุกลามบานปลาย ไปสู่สากลได้
"อย่ามาพูดว่า การพูดคุยตอนเช้า แล้วตอนเย็นจะยุติ หรือทำแค่ 1-2 วันจะจบ อย่าคิดอย่างนั้น ต้องให้เวลาเขาบ้าง ในการปรับเปลี่ยนความคิดและทัศนคติ ทุกคนต้องพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานหลายสิบปี ทั้งนี้ผมยังไม่เห็นกรอบการพูดคุยของเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ แต่ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมพูดคุยอยู่แล้ว ทั้งนี้ในครั้งแรกที่ไปพูดคุยแค่ให้รู้จักกันก่อนว่า ใครเป็นใคร พวกไหนอย่างไร มีอำนาจจริงหรือไม่ ครั้งที่ 2 เป็นการแสดงความเชื่อมันซึ่งกันและกันว่า สามารถจะลดความรุนแรงตรงไหนได้บ้าง ซึ่งบางครั้ง บางกลุ่มอาจจะไม่เชื่อและก่อความรุนแรง ทั้งนี้ต้องรอดูต่อไป"
ส่งทหารช่วยไฟไหม้ศูนย์อพยพชี้แค่อุบัติเหตุ
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ไฟไหม้ศูนย์อพยพแม่สุรินทร์ จ. แม่ฮ่องสอนว่า ตนได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 3 ให้จัดกำลังลงไปช่วยเหลือโดยด่วนและได้ลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ โดยปัจจุบันได้มีการตั้งหน่วยบรรเทาภัยพิบัติ มีการแจกจ่ายอาหาร เครื่องดื่ม พร้อมทั้งจัดกำลังพลไปช่วยทำความสะอาด การจัดระเบียบ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องน่าเสียใจเพราะมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และถือเป็นบทเรียนในอนาคตว่า จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า เป็นเรื่องของอุบัติเหตุที่เกิดจากการหุงต้มอาหาร และก่อนหน้านั้นเคยเกิดเหตุการณ์มาแล้วจึงอยากให้ระวัง
"เรื่องนี้ถือเป็นความหนักใจของฝ่ายความมั่นคง ควรจะส่งคนเหล่านี้ไปยังประเทศต้นทาง เพราะอยู่มานานมากแล้ว และเหตุการณ์ในหลายประเทศค่อนข้างสงบแล้ว แต่ต้องดูกติกาสากลด้วย หากเขาไม่สมัครใจก็ส่งกลับไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ถือเป็นกติกา หากผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสู้รบลี้ภัยเข้ามาในประเทศเรา ตามหลักมนุษยชนเราต้องดูแลเขา แต่ปัญหาติดอยู่ที่ว่า หากดูแลจนสบายเกินไปคงไม่ได้ เพราะคนไทยยังลำบากอยู่ ดังนั้นต้องคำนึงถึงเจ้าของประเทศด้วย เพราะประชาชนบางส่วนยังเดือดร้อน ต้องมีขอบเขตให้พออยู่ได้"
สั่งผช.ทูตทหารจับตาช่วยคนไทยในพม่า
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการสู้รบระหว่างคนไทยพุทธและมุสลิมในประเทศพม่าจน ต้องประกาศกฎอัยการศึกว่า ตนได้สั่งการให้ผู้ช่วยทูตทหารติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลคนไทยที่อาศัยอยู่ใน ประเทศพม่า รวมถึงสถานที่ราชการ ธุรกิจ ที่เป็นของคนไทย อย่างไรก็ตามมั่นใจว่า ประเทศพม่าจะดูแลความปลอดภัยให้กับคนไทยอย่างเต็มที่
บิน 'สิงคโปร์' ร่วมพิธีปิด 'ฝึกคชสีห์ 2013'
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ เพื่อร่วมพิธีปิดการฝึกคชสีห์2013 ครั้งที่15ว่า การฝึกคชสีห์ 2013 ถือเป็นการฝึกระดับกองพันผสม โดยประเทศสิงคโปร์จัด 2 กองร้อยในส่วนของกองบังคับการและกองบังคับบัญชา ในส่วนของเราจัดเป็นกองร้อย 120 นาย ห้วงระยะการฝึกตั้งแต่วันที่ 8-19 มี.ค.ที่ผ่านมา สำหรับการฝึกจะมีการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้การปฎิบัติประจำของกองทัพเพื่อปฎิ บัติงานร่วมกันในอนาคต นอกจากนี้ยังเป็นการแลกเปลี่ยนเชิงวัฒนธรรม ประเพณี การฝึกยิงปืน การฝึกในเวลากลางคืน การปฎิบัติการในพื้นที่ปลูกสร้าง เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยซึ่งกันและกันรวมถึงสร้างประสบการณ์ โดยวัตถุประสงค์หลักไม่ได้เน้นในการสู้รบแต่เน้นเรื่องการช่วยเหลือประชาชน เพื่อบรรเทาภัยพิบัติ ซึ่งเท่าที่รับรายงานทุกคนมีความตั้งใจและฝึกร่วมกันเป็นอย่าง
ที่มา: คมชัดลึกออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 25 มี.ค.2556
วันที่โพสต์: 26/03/2556 เวลา 03:14:03 
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 56 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงการวางตัวของกองทัพในช่วงเดือนเมษายนที่มีการวิเคราะห์ว่า สถานการณ์ทางการเมืองจะมีความรุนแรง เพราะเป็นช่วงที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการพิจารณาคดีประสาทพระวิหารว่า เราทำตัวเป็นทหารปกติ ใจเย็นและมีสติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งไว้เสมอ คนเราต้องมีสติ รับรู้ เรียนรู้ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา อย่างไรก็ตามเดือนเมษายน เป็นเดือนที่ร้อนอยู่แล้วจึงกำหนดให้เป็นเทศกาลสงกรานต์ ถ้าร้อนมากก็เอาน้ำมารดกันจะได้เย็นลง และหวังว่าคงจะไม่มีเรื่องอะไร เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐบาลจะออก พ.ร.บ.กู้เงินจำนวน 2 ล้านล้านบาท พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงตอบไม่ได้ว่า เห็นด้วยหรือไม่ หากมีความจำเป็น ถ้าทำได้ก็ทำ ส่วนกรณีที่จะมีการแก้รัฐธรรมนูญตามรายมาตราและอาจจะมีการแก้มาตรา112ด้วย นั้น เขาบอกว่าจะไม่แตะ และไม่ใช่เรื่องและเวลาที่จะมาวุ่นวายไปเสียทุกเรื่อง ทหารเป็นประชาชนคนหนึ่ง แต่การแสดงความคิดเห็นต้องระมัดระวังในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ เพราะจะกลายเป็นว่าเอากองทัพไปกดดัน การที่ตนสามารถพูดได้จนถึงวันนี้เพราะมีหน้าที่ตามยุทธศาสตร์ของกองทัพ คือ การสร้างความรักความสามัคคีของคนไทย สนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมถึงการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบต้องทำ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ อะไรก็ตามที่ทำให้เกิดความแตกแยก ความไม่สามัคคี เราไม่ต้องการให้เกิด และอย่าเอากองทัพไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่แตกแยก เพราะเจ้าหน้าที่จะทำงานลำบาก ที่ผ่านมามีบทเรียนอยู่แล้วจึงต้องระมัดระวัง เมื่อถามถึงการดำเนินการถอดยศ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องรอให้กระบวนการทางศาลสิ้นสุดลงก่อน เพราะขณะนี้มีการฟ้องร้องกันอยู่ ทั้งนี้กองทัพพร้อมดำเนินการตามคำตัดสินของศาล เมื่อถามว่า ถ้าศาลโลกตัดสินให้เราเสียดินแดน กองทัพจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปถ้า เอาให้เป็นเรื่องก่อนค่อยว่ากัน ตอนนี้รอคำตัดสิน การต่อสู้ในศาลโลกอย่าพึ่งไปพูดถึงเพราะยังไม่ได้เริ่มต้น เดือนเมษายนเป็นเพียงการรับฟังจากทั้ง 2 ฝ่ายอีกครั้ง ส่วนผลจะออกมาอย่างไรต้องรอผลตัดสินตอนปลายปี ทั้งนี้ฝ่ายความมั่นคง รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องนำผลตัดสินนั้นมาวิเคราะห์ว่า จะทำอย่างไร จะเลือกวิธีไหน และในฐานะที่เราเป็นเจ้าหน้าที่และเป็นกลไกของรัฐจะต้องนำไปสู่การแก้ปัญหา ด้วยวิธีที่ถูกต้อง ไม่ว่า อะไรจะเกิดขึ้น จะทำหรือไม่ทำ ทั้งหมดเป็นมติ ไม่ใช่ใครจะมาสั่งการ เพราะต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) รัฐสภา เพื่อใคร่ครวญว่า ประเทศไทยจะได้หรือเสียอะไร เชื่อโจรบึ้มใต้หวังแสดงศักยภาพอย่าให้เครดิต พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนใต้ว่า เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น เขาต้องการแสดงศักยภาพ เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักมากขึ้น เพราะในพื้นที่มีปัญหาทับซ้อนกันหลายปัญหา อย่าเพิ่งไปวิตกว่า การพูดคุยจะได้ผลหรือไม่ ขอให้ทำไปก่อน ทั้งนี้ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วย เพราะเขาต้องทำงานภายใต้สภาวะแวดล้อมที่กดดัน และไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากมีเรื่องศาสนา เราใช้ความรุนแรงมากเกินไปก็ไม่ได้ เพราะจะมีผลกระทบในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม อย่าให้เครดิตกับพวกเหล่านี้มากนัก ต้องให้เครดิตกับเจ้าหน้าที่ของเราที่สามารถทำให้สถานการณ์ไม่ลุกลามบานปลาย ไปสู่สากลได้ "อย่ามาพูดว่า การพูดคุยตอนเช้า แล้วตอนเย็นจะยุติ หรือทำแค่ 1-2 วันจะจบ อย่าคิดอย่างนั้น ต้องให้เวลาเขาบ้าง ในการปรับเปลี่ยนความคิดและทัศนคติ ทุกคนต้องพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานหลายสิบปี ทั้งนี้ผมยังไม่เห็นกรอบการพูดคุยของเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ แต่ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมพูดคุยอยู่แล้ว ทั้งนี้ในครั้งแรกที่ไปพูดคุยแค่ให้รู้จักกันก่อนว่า ใครเป็นใคร พวกไหนอย่างไร มีอำนาจจริงหรือไม่ ครั้งที่ 2 เป็นการแสดงความเชื่อมันซึ่งกันและกันว่า สามารถจะลดความรุนแรงตรงไหนได้บ้าง ซึ่งบางครั้ง บางกลุ่มอาจจะไม่เชื่อและก่อความรุนแรง ทั้งนี้ต้องรอดูต่อไป" ส่งทหารช่วยไฟไหม้ศูนย์อพยพชี้แค่อุบัติเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ไฟไหม้ศูนย์อพยพแม่สุรินทร์ จ. แม่ฮ่องสอนว่า ตนได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 3 ให้จัดกำลังลงไปช่วยเหลือโดยด่วนและได้ลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ โดยปัจจุบันได้มีการตั้งหน่วยบรรเทาภัยพิบัติ มีการแจกจ่ายอาหาร เครื่องดื่ม พร้อมทั้งจัดกำลังพลไปช่วยทำความสะอาด การจัดระเบียบ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องน่าเสียใจเพราะมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และถือเป็นบทเรียนในอนาคตว่า จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า เป็นเรื่องของอุบัติเหตุที่เกิดจากการหุงต้มอาหาร และก่อนหน้านั้นเคยเกิดเหตุการณ์มาแล้วจึงอยากให้ระวัง "เรื่องนี้ถือเป็นความหนักใจของฝ่ายความมั่นคง ควรจะส่งคนเหล่านี้ไปยังประเทศต้นทาง เพราะอยู่มานานมากแล้ว และเหตุการณ์ในหลายประเทศค่อนข้างสงบแล้ว แต่ต้องดูกติกาสากลด้วย หากเขาไม่สมัครใจก็ส่งกลับไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ถือเป็นกติกา หากผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสู้รบลี้ภัยเข้ามาในประเทศเรา ตามหลักมนุษยชนเราต้องดูแลเขา แต่ปัญหาติดอยู่ที่ว่า หากดูแลจนสบายเกินไปคงไม่ได้ เพราะคนไทยยังลำบากอยู่ ดังนั้นต้องคำนึงถึงเจ้าของประเทศด้วย เพราะประชาชนบางส่วนยังเดือดร้อน ต้องมีขอบเขตให้พออยู่ได้" สั่งผช.ทูตทหารจับตาช่วยคนไทยในพม่า พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการสู้รบระหว่างคนไทยพุทธและมุสลิมในประเทศพม่าจน ต้องประกาศกฎอัยการศึกว่า ตนได้สั่งการให้ผู้ช่วยทูตทหารติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลคนไทยที่อาศัยอยู่ใน ประเทศพม่า รวมถึงสถานที่ราชการ ธุรกิจ ที่เป็นของคนไทย อย่างไรก็ตามมั่นใจว่า ประเทศพม่าจะดูแลความปลอดภัยให้กับคนไทยอย่างเต็มที่ บิน 'สิงคโปร์' ร่วมพิธีปิด 'ฝึกคชสีห์ 2013' พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ เพื่อร่วมพิธีปิดการฝึกคชสีห์2013 ครั้งที่15ว่า การฝึกคชสีห์ 2013 ถือเป็นการฝึกระดับกองพันผสม โดยประเทศสิงคโปร์จัด 2 กองร้อยในส่วนของกองบังคับการและกองบังคับบัญชา ในส่วนของเราจัดเป็นกองร้อย 120 นาย ห้วงระยะการฝึกตั้งแต่วันที่ 8-19 มี.ค.ที่ผ่านมา สำหรับการฝึกจะมีการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้การปฎิบัติประจำของกองทัพเพื่อปฎิ บัติงานร่วมกันในอนาคต นอกจากนี้ยังเป็นการแลกเปลี่ยนเชิงวัฒนธรรม ประเพณี การฝึกยิงปืน การฝึกในเวลากลางคืน การปฎิบัติการในพื้นที่ปลูกสร้าง เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยซึ่งกันและกันรวมถึงสร้างประสบการณ์ โดยวัตถุประสงค์หลักไม่ได้เน้นในการสู้รบแต่เน้นเรื่องการช่วยเหลือประชาชน เพื่อบรรเทาภัยพิบัติ ซึ่งเท่าที่รับรายงานทุกคนมีความตั้งใจและฝึกร่วมกันเป็นอย่าง ขอบคุณ http://www.komchadluek.net/detail/20130325/154679/ผบ.ทบ.แนะใช้สติดับการเมืองร้อน.ขอบคุณ html#.UVERwjc7va5
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)
