จับตา'เยาวภา'จัดระเบียบ'สภา-บริหาร'

แสดงความคิดเห็น

จับตา'เยาวภา'จัดระเบียบ'สภา-บริหาร' : ขยายปมร้อน โดยสมถวิล เทพสวัสดิ์

นาทีนี้ต้องบอกว่าการลาออกจากตำแหน่ง "ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่" พรรคเพื่อไทยของ "เกษม นิมมลรัตน์" ไม่มีอะไรซับซ้อน ซ่อนเงื่อน

แม้ว่าข้ออ้างในการยื่นหนังสือลาออกของ "เกษม" ที่แจ้งต่อคณะกรรมการบริหารพรรค และแกนนำพรรคเพื่อไทย จะระบุเหตุผลว่า "สุขภาพไม่ดี และต้องการไปดูแลงานท้องถิ่น เพื่อรับใช้ชาวเชียงใหม่ เพราะมีความเหมาะสมกับงานท้องถิ่นมากกว่าการเมืองระดับชาติ ไม่มีการกดดันหรือถูกบีบจากผู้ใหญ่ในพรรค"

ถามคอการเมืองทั้งหลายต่างรู้ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร เพราะการลาออกของ "เกษม" มาคู่กับกระแสข่าว "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาว "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี ที่พ้นโทษแบนทางการเมืองจะลงมาเสียบบนเก้าอี้ส.ส.ตัวแทนนี้แทน

ดังนั้นหากบอกว่าหมดเวลาของ "นักร้องคั่นเวลา" ก็ไม่น่าจะไกลเกินความจริงมากนัก

เพราะเก้าอี้ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่เคยเป็นของ "ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์" ลูกสาวของ "เจ๊แดง" หลังจาก "ชินณิชา" ถูกศาลพิพากษาตัดสิทธิ์การเมือง 5 ปี กรณียื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเท็จ ทางพรรคเพื่อไทยจึงส่ง "เกษม" ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมเมื่อปี 2555

และในพื้นที่เชียงใหม่ ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งใครลงต้านทานเสียงสนับสนุนยาก

ดังนั้นคำว่า "เสาไฟฟ้า" ที่เคยใช้ในกรุงเทพฯ ระหว่างมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หากมาใช้ใน "เชียงใหม่" ความหมายน่าจะใกล้เคียงมากกว่า!

เพราะพื้นที่ภาคเหนือพรรคเพื่อไทยเป็นพื้นที่ภายใต้การกำกับดูแลของ "ยงยุทธ ติยะไพรัช-เจ๊แดง เยาวภา และวราเทพ รัตนากร"

การยื่นหนังสือลาออกของ "เกษม" ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งซ่อม "ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่" อีกครั้ง โดยรัฐบาลต้องจัดงบประมาณให้กกต. เพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยที่ "เกษม" ไม่ต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งใหม่

เนื่องจากการชดใช้ค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งใหม่จะกระทำได้ เมื่อผู้สมัครถูก "กกต." ให้ใบแดงเท่านั้น

แต่การลาออกของ "เกษม" สิ่งที่น่าจับตาจากนี้ไปต้องดูว่าทำไม "เจ๊แดง" จึงประสงค์เปิดหน้าลงสมัครส.ส.แทนการนั่งเป็น "มือประสาน" อยู่เบื้องหลัง ยอมตกเป็น "เป้า" ทางการเมือง

สมาชิกพรรคเพื่อไทย และนักข่าวประจำพรรค มักเห็น "เจ๊แดง" มาปรากฏตัวที่พรรคเพื่อไทยบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในวันที่มีการประชุมเรื่องสำคัญ หรือแม้กระทั่งการสัมมนาพรรคก็มักจะเห็น "เจ๊แดง" มาร่วมงานไม่ว่าจะเยื้องกรายไปทางไหน "กลุ่มเจ๊แดง" จะโดดเด่น เพราะมีทั้งระดับ "รัฐมนตรี" แกนนำพรรคมาเดินอยู่เคียงข้าง

แม้ว่า "เจ๊แดง" จะมีบทบาทในที่ประชุมพรรคโดดเด่นแค่ไหน แต่เมื่อถึงเวลาประชุมสภาการกำกับดูแลอาจไม่ทั่วถึง แม้จะมาเยี่ยมเยือนที่สภาแวะไปที่ห้องประจำของ "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" แต่เมื่อไม่มีสถานะทางการเมือง หูตาที่ว่าแยะก็อาจมีเล็ดรอดไปได้บ้าง

ประกอบกับล่าสุด "สภาล่ม" มีการเสียบบัตรแทน ยิ่งส่งผลกระทบกับรัฐบาล เพราะแค่ "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" ถูกโจมตีเรื่องหนีสภายังไม่พอ ส.ส.ยังถูกมองว่า "หนีประชุม"

เพราะในสภาขณะนี้ไม่มี "ตระกูลชินวัตร" นั่งอยู่เลย ทำให้การตรวจตรา "ฝ่ายนิติบัญญัติ" ต้องอาศัยคนอื่นเป็นหูเป็นตาแทน และการที่ "เจ๊แดง" มาเป็นส.ส.จะทำให้ความใกล้ชิดกับส.ส.ในพื้นที่มีมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้มี ส.ส.บางส่วนเข้าถึง "ทักษิณ ชินวัตร" จากนั้นไปจะมี "เจ๊แดง" มาเป็นคนกลางเพื่อส่งสารไปยัง "ทักษิณ" อีกทางหนึ่ง

ดังนั้นการมาลงสมัคร "ส.ส." ของ "เจ๊แดง" ในครั้งนี้จะทำให้ทั้ง "ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร" ภายใต้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถูกจัดระเบียบแบบเบ็ดเสร็จ!

"เกษม"เด็กปั้น"วงศ์สวัสดิ์"

"เกษม นิมมลรัตน์" กลายเป็นอดีตส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย หลังจากตัดสินใจลาออกจากส.ส.โดยอ้างว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ และต้องการไปดูงานท้องถิ่นที่มีความถนัดมากกว่า

การลาออกของ "เกษม" ท่ามกลางกระแสข่าวสละเก้าอี้ ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ เพื่อหลีกทางให้ "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาว "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี หลังพ้นโทษทางการเมือง 5 ปี

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ "เกษม" ตัดสินใจสละเก้าอี้ส.ส.ครั้งนี้อย่างง่ายดาย เพราะ "เกษม" ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ เมื่อปี 2555 แทน "ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์" ลูกสาวของ "เจ๊แดง" หลังจาก "ชินณิชา" ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสินให้พ้นสภาพส.ส.เว้นวรรคการเมือง 5 ปี กรณีซุกหนี้ 100 ล้าน

การส่ง "เกษม" ลงสมัครในครั้งนั้นมี "คนเสื้อแดง" บางส่วนแสดงความไม่พอใจ และออกมาคัดค้าน พร้อมเรียกร้องให้ใช้ระบบไพรมารีโหวต คัดเลือกบุคคลลงสมัครแต่สุดท้ายก็ไม่ขัดข้อง

"เกษม" จึงเปรียบเหมือน "มวยแทน" ขึ้นชกระหว่างที่เจ้าของเก้าอี้ตัวจริงติดโทษแบนทางการเมือง!

ผลเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ ครั้งนั้น "เกษม" ได้ 72,383 คะแนน ชนะผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ "กัลยกรณ์ เจียมกิจวัฒนา" ที่ได้ 19,275 คะแนน

"เกษม" เป็นชาว ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จบมัธยมศึกษาตอนปลาย ร.ร.มงฟอร์ตวิทยาลัย ปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปริญญาโท วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์ในสนามการเมืองท้องถิ่นเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (บุญเลิศ บูรณุปกรณ์) เป็นเวลา 3 ปี ก่อนลาออกมาเป็นผู้ช่วยส.ส.เชียงใหม่ "ชินณิชา"

"เกษม" เคยเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัวอดีตส.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ เป็นประธานสาขาพรรคเพื่อไทยลำดับที่ 7 จังหวัดเชียงใหม่ และเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ส.ส.เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ (พ.ศ. 2544-2548)

จึงไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่จะมองว่า "เกษม" เป็นเด็กปั้นของครอบครัววงศ์

ขอบคุณ http://www.komchadluek.net/detail/20130318/154110/จับตาเยาวภาจัดระเบียบสภาบริหาร.html#.UUfc7Tc7va4 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: คมชัดลึกออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 18 มี.ค.56
วันที่โพสต์: 19/03/2556 เวลา 03:41:42

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

จับตา'เยาวภา'จัดระเบียบ'สภา-บริหาร' : ขยายปมร้อน โดยสมถวิล เทพสวัสดิ์ นาทีนี้ต้องบอกว่าการลาออกจากตำแหน่ง "ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่" พรรคเพื่อไทยของ "เกษม นิมมลรัตน์" ไม่มีอะไรซับซ้อน ซ่อนเงื่อน แม้ว่าข้ออ้างในการยื่นหนังสือลาออกของ "เกษม" ที่แจ้งต่อคณะกรรมการบริหารพรรค และแกนนำพรรคเพื่อไทย จะระบุเหตุผลว่า "สุขภาพไม่ดี และต้องการไปดูแลงานท้องถิ่น เพื่อรับใช้ชาวเชียงใหม่ เพราะมีความเหมาะสมกับงานท้องถิ่นมากกว่าการเมืองระดับชาติ ไม่มีการกดดันหรือถูกบีบจากผู้ใหญ่ในพรรค" ถามคอการเมืองทั้งหลายต่างรู้ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร เพราะการลาออกของ "เกษม" มาคู่กับกระแสข่าว "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาว "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี ที่พ้นโทษแบนทางการเมืองจะลงมาเสียบบนเก้าอี้ส.ส.ตัวแทนนี้แทน ดังนั้นหากบอกว่าหมดเวลาของ "นักร้องคั่นเวลา" ก็ไม่น่าจะไกลเกินความจริงมากนัก เพราะเก้าอี้ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่เคยเป็นของ "ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์" ลูกสาวของ "เจ๊แดง" หลังจาก "ชินณิชา" ถูกศาลพิพากษาตัดสิทธิ์การเมือง 5 ปี กรณียื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเท็จ ทางพรรคเพื่อไทยจึงส่ง "เกษม" ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมเมื่อปี 2555 และในพื้นที่เชียงใหม่ ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งใครลงต้านทานเสียงสนับสนุนยาก ดังนั้นคำว่า "เสาไฟฟ้า" ที่เคยใช้ในกรุงเทพฯ ระหว่างมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หากมาใช้ใน "เชียงใหม่" ความหมายน่าจะใกล้เคียงมากกว่า! เพราะพื้นที่ภาคเหนือพรรคเพื่อไทยเป็นพื้นที่ภายใต้การกำกับดูแลของ "ยงยุทธ ติยะไพรัช-เจ๊แดง เยาวภา และวราเทพ รัตนากร" การยื่นหนังสือลาออกของ "เกษม" ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งซ่อม "ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่" อีกครั้ง โดยรัฐบาลต้องจัดงบประมาณให้กกต. เพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยที่ "เกษม" ไม่ต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากการชดใช้ค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งใหม่จะกระทำได้ เมื่อผู้สมัครถูก "กกต." ให้ใบแดงเท่านั้น แต่การลาออกของ "เกษม" สิ่งที่น่าจับตาจากนี้ไปต้องดูว่าทำไม "เจ๊แดง" จึงประสงค์เปิดหน้าลงสมัครส.ส.แทนการนั่งเป็น "มือประสาน" อยู่เบื้องหลัง ยอมตกเป็น "เป้า" ทางการเมือง สมาชิกพรรคเพื่อไทย และนักข่าวประจำพรรค มักเห็น "เจ๊แดง" มาปรากฏตัวที่พรรคเพื่อไทยบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในวันที่มีการประชุมเรื่องสำคัญ หรือแม้กระทั่งการสัมมนาพรรคก็มักจะเห็น "เจ๊แดง" มาร่วมงานไม่ว่าจะเยื้องกรายไปทางไหน "กลุ่มเจ๊แดง" จะโดดเด่น เพราะมีทั้งระดับ "รัฐมนตรี" แกนนำพรรคมาเดินอยู่เคียงข้าง แม้ว่า "เจ๊แดง" จะมีบทบาทในที่ประชุมพรรคโดดเด่นแค่ไหน แต่เมื่อถึงเวลาประชุมสภาการกำกับดูแลอาจไม่ทั่วถึง แม้จะมาเยี่ยมเยือนที่สภาแวะไปที่ห้องประจำของ "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" แต่เมื่อไม่มีสถานะทางการเมือง หูตาที่ว่าแยะก็อาจมีเล็ดรอดไปได้บ้าง ประกอบกับล่าสุด "สภาล่ม" มีการเสียบบัตรแทน ยิ่งส่งผลกระทบกับรัฐบาล เพราะแค่ "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" ถูกโจมตีเรื่องหนีสภายังไม่พอ ส.ส.ยังถูกมองว่า "หนีประชุม" เพราะในสภาขณะนี้ไม่มี "ตระกูลชินวัตร" นั่งอยู่เลย ทำให้การตรวจตรา "ฝ่ายนิติบัญญัติ" ต้องอาศัยคนอื่นเป็นหูเป็นตาแทน และการที่ "เจ๊แดง" มาเป็นส.ส.จะทำให้ความใกล้ชิดกับส.ส.ในพื้นที่มีมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้มี ส.ส.บางส่วนเข้าถึง "ทักษิณ ชินวัตร" จากนั้นไปจะมี "เจ๊แดง" มาเป็นคนกลางเพื่อส่งสารไปยัง "ทักษิณ" อีกทางหนึ่ง ดังนั้นการมาลงสมัคร "ส.ส." ของ "เจ๊แดง" ในครั้งนี้จะทำให้ทั้ง "ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร" ภายใต้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถูกจัดระเบียบแบบเบ็ดเสร็จ! "เกษม"เด็กปั้น"วงศ์สวัสดิ์" "เกษม นิมมลรัตน์" กลายเป็นอดีตส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย หลังจากตัดสินใจลาออกจากส.ส.โดยอ้างว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ และต้องการไปดูงานท้องถิ่นที่มีความถนัดมากกว่า การลาออกของ "เกษม" ท่ามกลางกระแสข่าวสละเก้าอี้ ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ เพื่อหลีกทางให้ "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาว "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี หลังพ้นโทษทางการเมือง 5 ปี ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ "เกษม" ตัดสินใจสละเก้าอี้ส.ส.ครั้งนี้อย่างง่ายดาย เพราะ "เกษม" ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ เมื่อปี 2555 แทน "ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์" ลูกสาวของ "เจ๊แดง" หลังจาก "ชินณิชา" ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสินให้พ้นสภาพส.ส.เว้นวรรคการเมือง 5 ปี กรณีซุกหนี้ 100 ล้าน การส่ง "เกษม" ลงสมัครในครั้งนั้นมี "คนเสื้อแดง" บางส่วนแสดงความไม่พอใจ และออกมาคัดค้าน พร้อมเรียกร้องให้ใช้ระบบไพรมารีโหวต คัดเลือกบุคคลลงสมัครแต่สุดท้ายก็ไม่ขัดข้อง "เกษม" จึงเปรียบเหมือน "มวยแทน" ขึ้นชกระหว่างที่เจ้าของเก้าอี้ตัวจริงติดโทษแบนทางการเมือง! ผลเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ ครั้งนั้น "เกษม" ได้ 72,383 คะแนน ชนะผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ "กัลยกรณ์ เจียมกิจวัฒนา" ที่ได้ 19,275 คะแนน "เกษม" เป็นชาว ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จบมัธยมศึกษาตอนปลาย ร.ร.มงฟอร์ตวิทยาลัย ปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปริญญาโท วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์ในสนามการเมืองท้องถิ่นเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (บุญเลิศ บูรณุปกรณ์) เป็นเวลา 3 ปี ก่อนลาออกมาเป็นผู้ช่วยส.ส.เชียงใหม่ "ชินณิชา" "เกษม" เคยเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัวอดีตส.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ เป็นประธานสาขาพรรคเพื่อไทยลำดับที่ 7 จังหวัดเชียงใหม่ และเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ส.ส.เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ (พ.ศ. 2544-2548) จึงไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่จะมองว่า "เกษม" เป็นเด็กปั้นของครอบครัววงศ์ ขอบคุณ http://www.komchadluek.net/detail/20130318/154110/จับตาเยาวภาจัดระเบียบสภาบริหาร.html#.UUfc7Tc7va4

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...

ห้องการเมือง