สัตว์ร้ายการเมือง ‘เทือก’ถล่มแดงเผาเมืองเดิมพันยึดกทม.ได้ใต้ไม่เหลือ

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณ... http://www.thaipost.net/sunday/240213/70032 (ขนาดไฟล์: 167)

ไทยโพสต์ออนไลน์ 24 February 2556 - 00:00

โค้งสุดท้ายเลือกผู้ว่าฯ กทม. “ยิ่งลักษณ์” ขนรัฐมนตรีลงพื้นที่ทิ้งทวนหาเสียงช่วย “พงศพัศ” ขณะที่ประชาธิปัตย์จัดทัพใหญ่ปลุกกา “สุขุมพันธุ์” สกัดกินรวบแบบไร้รอยต่อ “เทพเทือก” กระตุ้นความทรงจำ ลั่นอย่ายอมให้เมืองหลวงถูกยึด ไม่เช่นนั้นแม้แต่ภาคใต้ก็เอาไม่อยู่ เชื่อคนกรุงเทพฯ จะไม่ลืม “สัตว์ร้ายทางการเมือง” ที่สั่งเผาบ้านเผาเมือง ฆ่าทหาร บุกโรงพยาบาล พาดพิงเบื้องสูง ด้าน “กลุ่มพลังไม่เงียบ” รณรงค์ปลุกพลังเงียบออกมาใช้สิทธิ์ต้านหุ่นเชิดทักษิณ

การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้สมัครจากสองพรรคการเมืองใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการเลือกตั้งในวันที่ 3 มีนาคม ได้ลงพื้นที่หาเสียงในโค้งสุดท้ายกันอย่างคึกคัก

โดยเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมช.คมนาคม, นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค ในฐานะผอ.เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม., นายวัน อยู่บำรุง ที่ปรึกษา รมช.คมนาคม ลงพื้นที่ฝั่งธนบุรี ช่วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 9 จากพรรคเพื่อไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์และ พล.ต.อ.พงศพัศ ได้ขึ้นรถนั่งรถแห่หาเสียงในหมู่บ้านทวีสิน เขตจอมทอง เข้าถนนพระราม 2 ไปพื้นที่เขตราษฎร์บูรณะ ทุ่งครุ บางมด บางขุนเทียน ท่าข้าม บางบอน เอกชัย เพชรเกษม บรมราชชนนี พุทธมณฑล บางแค ภาษีเจริญ ตลิ่งชัน โดยมีประชาชนสองข้างทางโบกมือและมอบดอกไม้ให้กำลังใจ

ระหว่างที่ขบวนรถนายกฯ มาถึงถนนพุทธบูชา เขตทุ่งครุ ได้มีผู้ชายสูงวัยอายุประมาณ 70 ปี ยืนชูป้ายข้อความร้องขอรถ ขสมก. ขอถังขยะ ขอให้มีรถและเรือมาเก็บขยะทุกวัน และขอไฟจราจรทางแยก โดยชายดังกล่าวบอกกับผู้สื่อข่าวว่าเป็นข้าราชการเก่า และรู้จัก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ

ต่อมา เวลา 11.35 น. นายกฯ และคณะได้แวะรับประทานอาหารที่ร้านบางบอนโอชา หน้าวัดบางบอน โดยมี ร.ต.อ.เฉลิมหัวหน้าโซนฝั่งธนบุรีรอต้อนรับพร้อมร่วมรับประทานอาหารกับนายกฯ จากนั้นนายกฯ และคณะพร้อมร.ต.อ.เฉลิมได้ขึ้นรถแห่หาเสียงไปยังร้านโต้ง ซึ่งเป็นศูนย์ประสานงานพรรค พบกับประชาชนที่มารอต้อนรับ และขึ้นรถแห่หาเสียงที่ตลาดธนบุรี (สนามหลวง 2)

น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ถึงการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในช่วงโค้งสุดท้ายว่า ต้องทุ่มเทกับเวลาที่เหลืออยู่ไม่ว่าพื้นที่ไหน เพื่อนำเสนอนโยบาย ขณะนี้พรรคเพื่อไทยถือว่าทำงานกันอย่างเต็มที่ โค้งสุดท้ายคงจะเข้มข้น ส่วนที่ตนต้องเดินทางไปราชการต่างประเทศตลอดทั้งสัปดาห์หน้านั้น ไม่มีความหนักใจ เพราะ พล.ต.อ.พงศพัศได้ลงพื้นที่อยู่แล้ว และมีทีมงานที่เข้มแข็ง หลังจากเสร็จภารกิจก็จะหาโอกาสลงพื้นที่พบพี่น้องประชาชนชาว กทม. ถือโอกาสขออนุญาตลา 1 สัปดาห์ไปทำภารกิจของประเทศก่อน และจะกลับมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ได้พบเรื่องการทุจริตการเลือกตั้งแล้วหรือยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตอนนี้ก็อย่างที่เป็นข่าว อยากจะขอความร่วมมือและอยากจะรณรงค์ให้เป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และยุติธรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. ถ้าเราสนับสนุนให้เกิดการเลือกตั้งตรงกับหลักประชาธิปไตย ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี และเป็นเสน่ห์ของประชาธิปไตย

ปูยอมรับฝั่งธนฯ คือจุดอ่อน

เมื่อถามว่า กรณีผลโพลผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์หายใจรดต้นคอ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี จะได้มีความขยันในการลงพื้นที่มากขึ้น อาศัยเวลาในโค้งสุดท้าย ซึ่งผลโพลถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่จะชี้ให้เห็นในส่วนของความคิดประชาชน วันนี้ยังถือว่ามีเวลา เชื่อว่าทุกวัน ทุกเวลา ทุกนาที มีค่ากับเรา แต่ทั้งนี้การตัดสินใจอยู่ในมือพี่น้องประชาชน

“สำหรับพื้นที่ฝั่งธนบุรีที่เป็นจุดอ่อน พรรคเน้นนโยบายแก้ไขปัญหาเป็นกรณีไป เช่น เรื่องการจราจร อาชญากรรม และเศรษฐกิจต่างๆ ลักษณะความต้องการของฝั่งธนฯ และฝั่งพระนครไม่เหมือนกัน เราถึงต้องลงพื้นที่บอกประชาชน”

เมื่อถามว่า คิดอย่างไรที่พรรคประชาธิปัตย์นำสปอตหาเสียงไปฉายตามโรงภาพยนตร์ โดยเน้นการชุมนุมของคนเสื้อแดง น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เราไม่อยากจะไปวิพากษ์วิจารณ์ เพราะสิ่งที่เราเชื่อมั่นคือเราเสนอข้อเท็จจริง นำเสนอเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นที่อยากจะพัฒนาในส่วนของกรุงเทพฯ การเปลี่ยนแปลงต่างๆ เชื่อว่าพี่น้องประชาชน จะใช้วิจารณญาณในการตัดสินที่จะเลือกใครสักคนมาเป็นตัวแทนคนกรุงเทพฯ มาทำงานร่วมกับรัฐบาล

ขณะที่ พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ช่วงนี้เหลืออีกไม่กี่วันจะรณรงค์เรื่องการหาเสียงอย่างสร้างสรรค์ คิดบวก และจะทำจนถึงวันสุดท้าย ขอขอบคุณผู้สมัครทุกท่านที่ทุกคนได้มีพันธสัญญาสิ่งนี้ด้วยกันตั้งแต่ต้น ขอเป็นกำลังใจให้กันและกัน และจะทำงานอย่างเต็มที่ จะรักษาสัญญา เกิดการเปลี่ยนแปลง ตั้งใจที่ลงพื้นที่พบพี่น้องประชาชนจนถึงวินาทีสุดท้ายตามที่กฎหมายกำหนด คือเวลา 18.00 น. ของวันที่ 2 มี.ค. ตนเรียนนายกฯ ว่าระหว่างที่นายกฯ ปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศนั้น มีอะไรก็จะขอหารือ และคิดว่าท่านจะส่งกำลังใจมาทุกวัน

ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.นั้น พรรคจะยังคงเน้นเสนอนโยบายแบบสร้างสรรค์ ซึ่งได้มอบแนวทางให้ ส.ส., ส.ก., ส.ข. และรัฐมนตรีของพรรค ว่าขอให้เน้นในเรื่องของการพูดจา เพื่ออธิบายกับประชาชนถึงประโยชน์ของนโยบายไร้รอยต่อ ที่เน้นการประสานงานระหว่าง กทม.กับรัฐบาล แต่ไม่ใช่การใช้อำนาจครอบงำ กทม.อย่างที่ฝ่ายตรงข้ามใส่ร้าย และแม้ว่าผู้ว่าฯ กทม.จะมาจากพรรคเดียวกับรัฐบาล ก็ไม่ได้แปลว่าจะทำให้ประชาชนตรวจสอบการทำงานของผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้

“เพราะกลไกในการตรวจสอบนั้นมีอยู่แล้วตามกฎหมายคือ สภาฯ กทม.ที่มีพรรคประชาธิปัตย์ครองเสียงข้างมากอยู่ ตรงกันข้าม หากผู้ว่าฯ กทม.มาจากฝ่ายที่ครองเสียงข้างมากในสภา กทม.นั้น ถือว่าน่ากลัวกว่า เพราะประชาชนจะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าสภา กทม.จะตรวจสอบการทำงานของผู้ว่าฯ กทม.อย่างจริงจัง”

ร.ท.หญิงสุณิสากล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายใหม่ที่จะเปิดตัวในวันพุธที่ 27 ก.พ. ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงนั้น จะเป็นชุดนโยบายที่สร้างความหวังให้กับคน กทม. เป็นนโยบายที่ชี้ให้ประชาชนเห็นว่าเราจะยกระดับคุณภาพชีวิตคน กทม. สร้างช่องทางหารายได้ให้คน กทม.ในทุกหย่อมหญ้าได้อย่างไร เม็ดเงินจะหลั่งไหลเข้ามาใน กทม.ทุกพื้นที่ได้อย่างไร ซึ่งเป็นนโยบายที่จับต้องได้ ไม่ใช่ขายฝัน ขณะที่ยุทธศาสตร์ใหญ่นั้นยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร เพราะขณะนี้ทุกฝ่ายทำได้ตามเป้าหมายจนเป็นที่น่าพอใจ

จัดทัพใหญ่สกัดกินรวบ

ด้านความเคลื่อนไหวของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครหมายเลข 16 จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า พรรคประชาธิปัตย์จัดกิจกรรม "รวมพลคนหัวใจฟ้ารักกรุงเทพฯ" ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อช่วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 3 มี.ค.นี้

โดยมีแกนนำพรรคเข้าร่วมกิจกรรมหาเสียงจำนวนมาก อาทิ นายมารุต บุนนาค อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อและกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค, นายกรณ์ จาติกวณิช, นายถาวร เสนเนียม, นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน, นายอลงกรณ์ พลบุตร, นายอิสสระ สมชัย, นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค รวมทั้ง ส.ส. ส.ก., ส.ข., นายก อบจ., นายกเทศมนตรี, ผู้บริหารท้องถิ่นที่สังกัดพรรคทั่วประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์พร้อมแกนนำพรรคร่วมสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) และในเวลา 08.00 น. ภายหลังจากที่ร้องเพลงชาติเรียบร้อย แกนนำพรรคพร้อมด้วยประชาชนที่มาร่วมงานร่วมกันปล่อยลูกโป่งสีฟ้าสกรีนหมายเลข 16 กว่า 100 ลูก เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นปล่อยรถแห่ตามจุดต่างๆทั่วทุกพื้นที่ของ กทม.

ช่วงเย็น พรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดเวทีปราศรัยที่ลานคนเมือง โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ปราศรัยว่า มีความจริงหลายข้อที่จะนำมาบอก คือ 1.การแข่งขันผู้ว่าฯ กทม.เที่ยวนี้ ไม่ใช่แค่การแข่งขันผู้สมัคร 25 คนเท่านั้น ไม่ใช่แค่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กับ พล.ต.อ.พงศพัศ แต่เป็นการแข่งขันพรรคการเมืองระหว่างประชาธิปัตย์และเพื่อไทย โดยมีอนาคต กทม.เป็นเดิมพัน

“ถ้า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ชนะ แปลว่าประชาธิปัตย์ชนะด้วย แต่ถ้า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์แพ้ ก็แปลว่าประชาธิปัตย์แพ้ด้วย เพราะฉะนั้นถ้าใครที่ไม่ค่อยถูกใจ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ขอให้เห็นแก่ประชาธิปัตย์ ใครที่อาจไม่ถนัด ปชป. ขอให้เห็นแก่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ใครก็ตามที่ตัดสินใจว่ายังไงก็ไม่เลือกพรรคเพื่อไทย ขอความกรุณาอย่าประชดโดยหันไปเลือกผู้สมัครอิสระเป็นอันขาด เพราะเสียของ และทำให้ประชาธิปัตย์แพ้ ซึ่งเท่ากับว่าเสาไฟฟ้าก็จะได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.”

เหน็บอย่าเชื่อโพลแม้ว

นายจุรินทร์กล่าวว่า ความจริงที่สองคือเรื่องโพล กราบเรียนว่ามี 2 ประเภท คือโพลถูกและโพลผิด หรือโพลแม่นและโพลแม้ว เพราะฉะนั้นพี่น้องอย่าหวั่นไหวกับโพล อดีตเคยมีแล้วเมื่อครั้งเลือกตั้งที่สงขลา ระหว่างนายวิรัตน์ กัลยาศิริ กทม. กับเพื่อไทย ซึ่งสุดท้ายผลการเลือกตั้งคือนายวิรัตน์เป็นฝ่ายชนะ

ส่วนความจริงข้อ 3 การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เป็นเรื่องการแข่งขันระหว่างคนทำงานกับคนไม่เคยทำงาน คนไม่เคยทำงานอาจจะได้เปรียบบ้าง เพราะประชาชนยังไม่เห็นข้อเสีย แต่ไม่ได้หมายความว่าขับรถเมล์ได้ พูดเก่ง จะทำงานและเป็นผู้ว่าฯ เก่งด้วย

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์มีจุดแข็ง 5 ข้อ 1.ไม่โกง ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยหยิบมือถือโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.เป็นคนสุภาพ ไม่เคยพูดมึงกู 3. 4 ปีนี้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ได้รับเลือกให้เป็นเมืองที่น่าเที่ยวติดต่อกัน 3 ปีซ้อน อีกทั้ง กทม.ได้เป็นมหานครที่น่าอยู่ที่สุดในโลกในอันดับสาม 4.เป็นนักสู้ 5.ที่สำคัญไม่เล่นการเมือง แต่ยึดประโยชน์ชาว กทม.เป็นที่ตั้ง พี่น้องจำได้หรือไม่ ตอนน้ำท่วมไม่ได้สู้น้ำอย่างเดียว แต่ต้องสู้กับการเล่นการเมืองของรัฐบาลนกแก้ว สุดท้าย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ก็ชนะ เพราะไม่เล่นการเมือง

เขากล่าวว่า ความจริงอีกข้อคือเป็นการแข่งขันระหว่างนโยบายที่ทำได้จริงกับนโยบายประชานิยม เมื่อครั้งเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศจะเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แต่วันนี้เป็นรัฐบาลก็ยังไม่เห็นได้ คน กทม.ถูกตุ๋นเปื่อย ทั้งบอกว่าจะแก้ปัญหาจราจรติดขัดภายใน 6 เดือน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ในทางตรงกันข้าม กลับติดหนักกว่าเดิม เพราะนโยบายรถคันแรก 2.5 แสนคัน แต่ถนนมีเท่าเดิม

ต่อมา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยยืนยันว่า ผู้ใหญ่ภายในพรรครวมทั้งนายพิชัย รัตตกุล ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันในเรื่องนี้แล้ว ยืนยันว่าผู้ใหญ่ในพรรคทุกคนยินดีที่จะช่วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ในการหาเสียง ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ลงพื้นที่มาโดยตลอด เพียงแต่อาจจะกระจายกันไปตามจุดต่างๆ และอาจจะไม่ได้เป็นข่าว

นายชวนกล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีผู้สมัครอิสระบางคนออกมาระบุว่า หากเลือกผู้สมัครที่สังกัดพรรคการเมืองแล้ว จะเกิดปัญหาจากเกมการเมืองนั้น ตนเห็นว่าความเป็นพรรคการเมืองยังมีความสำคัญ เพราะจะเป็นหลักประกันได้ว่าหาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ทุจริต พรรคประชาธิปัตย์จะต้องรับผิดชอบ แต่หากเลือกผู้สมัครที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองได้ แล้วโกงขึ้นมา พี่น้องจะไปตามเอาคืนจากใคร ดังนั้นขอสนับสนุนให้พี่น้องเลือกผู้ว่าฯ กทม.ที่สังกัดพรรคการเมือง

“แม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมีผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการลงสมัครผู้ว่าฯ ในครั้งนี้หลายคน แต่ผมรวมถึงผู้ใหญ่ในพรรคก็ได้มองเห็นแล้วว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์เป็นตัวแทนที่เหมาะสมที่สุด เพราะประสบการณ์ในการทำงาน เชื่อว่าหากให้โอกาส ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์อีก 4 ปี ก็เชื่อว่ากรุงเทพฯ จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น”

เชื่อว่านโยบายการแก้ปัญหาของ กทม.ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์จะดีขึ้นแน่นอน เพราะมีประสบการณ์มาแล้ว 4 ปี ก็จะได้ใช้ความเข้าใจที่ถ่องแท้ถึงปัญหาที่มีในท้องถิ่น และจะไม่เลือกใช้นโยบายผิดพลาดอย่างสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ในนโยบายโจรกระจอกแก้ปัญาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

“ขอร้องข้าราชการและตำรวจที่มีทั้งคนดีและคนไม่ดีว่าอย่าปฏิบัติตามคำสั่งไม่ดี ขอให้เป็นกลาง อย่ากลัวผู้บังคับบัญชาเล่นงาน พรรคประชาธิปัตย์รู้ดีว่ามีการส่งสัญญาณขอให้ข้าราชการและตำรวจรักษาความถูกต้องของบ้านเมือง คนไม่รักษามีอันเป็นไปในไม่นานไม่ช้า”

ชวนเชื่อ กทม.ฉลาดเลือก

นายชวนกล่าวอีกว่า ใครสั่งเผาบ้านเผาเมืองก็ไม่สามารถนิรโทษกรรมได้ หรือมาสั่งลดโทษตัวเองได้ ดังนั้นประชาชนต้องตัดสินใจเองว่าจะเลือกพรรคไหน และบ้านเมืองต้องมีรอยต่อ อย่าให้ใครกินรวบ ซึ่งรอยต่อหมายถึงระบบการตรวจสอบ คานอำนาจ เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้ขอบเขต ไม่ใช้อำนาจข้ามกัน แต่ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ มีการใช้อำนาจรัฐแทรกแซงกัน และการบริหารทั้งท้องถิ่นและระดับชาติ ความเป็นคนต่างพรรคกับรัฐบาล ไม่ใช่อุปสรรค แต่กลัวอย่างเดียวคือทรราช ซึ่งความคิดนี้ไม่ใช่นักประชาธิปไตยที่รักประชาธิปไตย แต่เป็นความคิดของนักประชาธิปไตยที่รักทรราช ดังนั้นขอให้รู้ไปว่าคน กทม.ต้องการคนเผาบ้านเผาเมืองหรือไม่ แต่ตนคิดว่าคน กทม.จะฉลาดพอ

“ผมรู้ว่าหลายคนไม่กล้าแสดงออก เพราะถ้าไม่บอกว่าเชียร์ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคเพื่อไทย เขาก็กลัวอันตราย ส่วนตำรวจมีทั้งดีและไม่ดี ก็ขอให้ตำรวจดีอย่าปฏิบัติในสิ่งที่ไม่ดี และอย่ากลัวว่าหน่วยเลือกตั้งที่ดูแลจะได้คะแนนน้อย แล้วผู้บังคับบัญชาจะเล่นงาน เพราะเขารู้กันหมดแล้วว่าใครสั่งการ แต่ถ้าใครไม่รักษากติกา ก็ขอให้มีอันเป็นไป ดังนั้นผมอยากเชิญชวนให้ประชาชนออกมาเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่สังกัดพรรคการเมือง เพราะถือว่าได้ผ่านการคัดเลือกจากพรรคมาแล้ว เวลาทำอะไรไม่ดี หรือโกง พรรคก็ต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าเลือกผู้ที่ไม่สังกัดพรรค จะเอาอะไรเป็นหลักประกัน” นายชวนกล่าว

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยคนสุดท้ายตอนหนึ่งว่า “พวกคุณเคยฆ่าชาวกรุงเทพฯ ฆ่าชาวบ้านที่นางเลิ้ง เอารถแก๊สไปจอด เอาจรวดอาร์พีจียิงวัดพระแก้ว และฆ่า พล.อ.ร่มเกล้า ฆ่าทหารที่เป็นลูกหลานประชาชน บุกโรงพยาบาล ข่มขู่คนป่วย พวกคุณทำให้คนกรุงเทพฯ ไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ เพราะพวกคุณก่อการร้าย ก่อการจลาจล เผาบ้านเผาเมือง"

“คนกรุงเทพฯ จำคุณได้ วันนี้ไม่ต้องกระแดะเป็นคนดี ไม่มีคนกรุงเทพฯ คนใดที่จะลืมนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่สั่งเผาสั่งปล้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ปราศรัยถึงทหารรักษาพระองค์ ทหารเสือพระราชินี นายก่อแก้ว พิกุลทอง ที่ปราศรัยถึงรูปที่มีอยู่ในทุกบ้าน และนางธิดา ถาวรเศรษฐ แม้เพื่อไทยจะชนะเลือกตั้ง ก็ยังบอกว่าจะต่อสู้อำมาตย์ให้หมดประเทศไทย” นายสุเทพกล่าว และย้ำว่า คนกรุงเทพฯ จำความโหดร้ายของพวกคุณได้

“พวกคุณเป็นสัตว์ร้ายทางการเมือง” นายสุเทพกล่าว และว่า คุณคิดว่าประชาชนลืมสิ่งที่คุณทำไปหมดแล้ว ซึ่งไม่ใช่ ตนขอประกาศแทนได้ว่า คนนางเลิ้ง หมอโรงพยาบาลจุฬาฯ คนราชดำเนิน คนสีลม คนฝั่งธนบุรี ชาตินี้ทั้งชาติไม่มีวันลืมพวกคุณ

นายสุเทพกล่าวว่า พล.ต.อ.พงศพัศเหมือนพระเอกหนังตะลุง จะคอยถูกชักใยจากแดนไกล การเลือกตั้งครั้งนี้เหมือนศึกชิงเมืองหลวง ถ้าเขายึดได้ ปักษ์ใต้บ้านผมก็เอาไม่อยู่

มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดยวันอาทิตย์นี้ เวลา 09.00 น. ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า จะมีนักศึกษาและประชาชนทั่วไป เปิดตัวกลุ่ม “พลังไม่เงียบ” เพื่อรณรงค์ปลุกพลังเงียบให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 3 มีนาคม เพื่อปกป้องมหานครกรุงเทพฯ ไม่ให้ตกเป็นเมืองขึ้นของใคร โดยรณรงค์ไม่เอาผู้ว่าฯ กทม.ที่เป็นหุ่นเชิด.

ที่มา: ไทยโพสต์ออนไลน์
วันที่โพสต์: 24/02/2556 เวลา 03:04:20

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็น*
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

ชื่อ*

อีเมล์

คำถามกันสแปม* แปด คูณ ศูนย์ เท่ากับ

ยกเลิก