ยะใสชี้จูดี้หนีดีเบตสะท้อนการเมืองแบบโฆษณาชวนเชื่อ
ขอบคุณ … http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=671688&lang=T&cat=
เนชั่นแชลแนลออนไลน์ 23 ก.พ.56
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวว่ากรณีที่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เบอร์ 9 ในนามพรรคเพื่อไทย ไม่ยอมเข้าร่วมเวที ดีเบต ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมฯ และถัดมาในตอนเย็นก็เบี้ยวรายการประชันวิสัยทัศน์ทางช่อง 9 อีกรอบ ในตอนเย็นเมื่อวานนั้น ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม นอกจากไม่ให้เกียรติผู้จัดงานแล้ว ยังเป็นการดูถูกประชาชนโดยตรง การดีเบตเป็นวัฒนธรรมอันดีของการเลือกตั้ง ที่ผู้สมัครต้องพร้อมแสดงวิสัยทัศน์ความรู้ความสามารถและแสดงภาวะความเป็นผู้นำเหนือคู่แข่ง เพื่อให้ประชาชนได้เห็นและประกอบการตัดสินใจเลือกอย่างมีคุณภาพว่าใครควรไปใช้อำนาจแทนประชาชน
ทั้งนี้หากคนที่เสนอตัวมาเป็นผู้นำ มาเป็นตัวแทนประชาชน ไม่ให้ความร่วมมือหรือไม่ยอมเข้าร่วมเวทีดีเบต ก็เป็นตัวบ่งชี้คุณลักษณะของคนคนนั้นว่าไม่ให้ความสำคัญกับประชาชนที่อยู่เบื้องหน้าเท่ากับคนบางคนที่ชักใยอยู่ข้างหลัง และการที่ พล.ต.อ.พงศพัศ อ้างว่าพรรคเป็นคนวางโปรแกรมและการตัดสินใจทั้งหมด ก็ยิ่งสะท้อนชัดเจนว่า พล.ต.อ.พงศพัศ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ถูกชักจูงโดยคนอื่นตลอดเวลา ถ้าผู้ว่าฯกทม.ถูกครอบงำจากผู้มีอำนาจเหนือพรรคต่อไป กทม.ก็จะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ขาดความเป็นอิสระ โดยเฉพาะอำนาจในการบริหารงาน บริหารงบประมาณปีละกว่า 7 หมื่นล้านบาท ก็จะถูกแทรกแซงจากคนคนเดียวได้ตลอดเวลา
การหนีการดีเบตครั้งนี้ยิ่งตอกย้ำยุทธศาสตร์การเมืองแบบประชานิยมที่เน้น ยุทธวิธีโฆษณาชวนเชื่อด้านเดียว ของพ.ต.ท.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้ง 2 คนก็ไม่เคยขึ้นเวทีดีเบตแม้แต่ครั้งเดียว ทำให้ผู้นำแบบนี้ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรหากบริหารงานผิดพลาดหรือไม่สำเร็จตามที่โฆษณาไว้ เช่น จะแก้ปัญหาจราจร กทม.ให้ได้ภายใน 6 เดือน. คนจนจะหายไปภายใน 5 ปี จะกระชากค่าครองชีพลง น้ำมันจะถูกลง วาทกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นการเมืองแบบโฆษณาชวนเชื่อหลอกลวงไปวันๆ
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ขอบคุณ …http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=671688&lang=T&cat= เนชั่นแชลแนลออนไลน์ 23 ก.พ.56 นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวว่ากรณีที่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เบอร์ 9 ในนามพรรคเพื่อไทย ไม่ยอมเข้าร่วมเวที ดีเบต ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมฯ และถัดมาในตอนเย็นก็เบี้ยวรายการประชันวิสัยทัศน์ทางช่อง 9 อีกรอบ ในตอนเย็นเมื่อวานนั้น ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม นอกจากไม่ให้เกียรติผู้จัดงานแล้ว ยังเป็นการดูถูกประชาชนโดยตรง การดีเบตเป็นวัฒนธรรมอันดีของการเลือกตั้ง ที่ผู้สมัครต้องพร้อมแสดงวิสัยทัศน์ความรู้ความสามารถและแสดงภาวะความเป็นผู้นำเหนือคู่แข่ง เพื่อให้ประชาชนได้เห็นและประกอบการตัดสินใจเลือกอย่างมีคุณภาพว่าใครควรไปใช้อำนาจแทนประชาชน ทั้งนี้หากคนที่เสนอตัวมาเป็นผู้นำ มาเป็นตัวแทนประชาชน ไม่ให้ความร่วมมือหรือไม่ยอมเข้าร่วมเวทีดีเบต ก็เป็นตัวบ่งชี้คุณลักษณะของคนคนนั้นว่าไม่ให้ความสำคัญกับประชาชนที่อยู่เบื้องหน้าเท่ากับคนบางคนที่ชักใยอยู่ข้างหลัง และการที่ พล.ต.อ.พงศพัศ อ้างว่าพรรคเป็นคนวางโปรแกรมและการตัดสินใจทั้งหมด ก็ยิ่งสะท้อนชัดเจนว่า พล.ต.อ.พงศพัศ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ถูกชักจูงโดยคนอื่นตลอดเวลา ถ้าผู้ว่าฯกทม.ถูกครอบงำจากผู้มีอำนาจเหนือพรรคต่อไป กทม.ก็จะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ขาดความเป็นอิสระ โดยเฉพาะอำนาจในการบริหารงาน บริหารงบประมาณปีละกว่า 7 หมื่นล้านบาท ก็จะถูกแทรกแซงจากคนคนเดียวได้ตลอดเวลา การหนีการดีเบตครั้งนี้ยิ่งตอกย้ำยุทธศาสตร์การเมืองแบบประชานิยมที่เน้น ยุทธวิธีโฆษณาชวนเชื่อด้านเดียว ของพ.ต.ท.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้ง 2 คนก็ไม่เคยขึ้นเวทีดีเบตแม้แต่ครั้งเดียว ทำให้ผู้นำแบบนี้ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรหากบริหารงานผิดพลาดหรือไม่สำเร็จตามที่โฆษณาไว้ เช่น จะแก้ปัญหาจราจร กทม.ให้ได้ภายใน 6 เดือน. คนจนจะหายไปภายใน 5 ปี จะกระชากค่าครองชีพลง น้ำมันจะถูกลง วาทกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นการเมืองแบบโฆษณาชวนเชื่อหลอกลวงไปวันๆ
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)