ผู้สมัครผู้ว่าฯประชันวิสัยทัศน์นโยบาย…ช่วยคนตาบอด

แสดงความคิดเห็น

ผู้สมัครผู้ว่าฯประชันวิสัยทัศน์นโยบาย…ช่วยคนตาบอด

ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ยืนจับมือไขว้กัน สภาธุรกิจตลาดทุนไทยจัดประชันวิสัยทัศน์ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ด้านผู้สมัครเน้นแถลงนโยบายหาเสียง

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย จัดงานแสดงวิสัยทัศน์ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยมีผู้สมัครเข้าร่วม 5 ราย ได้แก่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 16 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พรรคเพื่อไทย หมายเลข 9 นายโฆสิต สุวินิจจิต หมายเลข 10 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หมายเลข 11 และนายสุหฤท สยามวาลา หมายเลข 17

สำหรับการแสดงวิสัยทัศน์ในครั้งนี้ มีการตั้งคำถามปลายเปิดและให้เวลาผู้สมัครตอบคำถามเดียวกันในเวลาที่เท่าๆ กัน โดยคำถามมีทั้งสิ้น 3 ข้อ ได้แก่ 1.จะทำให้กทม.เป็นมหานครศูนย์กลางในด้านใด 2.จะใช้ยุทธศาสตร์อะไรรองรับในการทำ 3.นำงบประมาณมาจากไหนเพื่อดำเนินการ

อย่างไรก็ตามผู้สมัครแต่ละรายล้วนแต่ตอบคำถามในลักษณะแถลงนโยบายเดิมที่ใช้หาเสียงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแทบทั้งสิ้น

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า กทม.มีศักยภาพหลายด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ดังนั้นจะส่งเสริมให้กทม.เป็นมหานครของอาเซียน โดยให้น้ำหนักด้านการท่องเที่ยว การค้า การลุงทุน พร้อมทั้งจัดทำให้กทม.เป็นศูนย์กลางเชื่อมต่ำระหว่างจีนตอนใต้กับอาเซียน และอินโดจีนกลับโลกภายนอก ส่วนแหล่งเงินจะบริหารงบประมาณของกทม.

นายโฆสิต กล่าวว่า จะทำให้กทม.เป็นมหานคร 24 ชั่วโมง ทั้งด้านการทำมาหากิน การคมนาคม ความปลอดภัย นอกจากนี้จะผลักดันให้กทม.เป็นศูนย์กลางในการซื้อขาย 24 ชั่วโมง เชื่อว่าจะมีบริษัทจากหลายประเทศเข้ามาตั้งอยู่ในกทม. ยืนยันว่าหากไม่มีการทุจริตก็จะมีงบประมาณใช้

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า จะทำให้กทม.เป็นมหานครแห่งความสุข โดยบริหารด้วยอำนาจของกทม. หากสิ่งเกินอำนาจก็จะประสานความร่วมมือไปยังรัฐบาลเพื่อขอการสนับสนุน ด้วยนโยบายไร้รอยต่อ

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า จะทำให้กทม.เป็นมหานครแห่งการท่องเที่ยว เนื่องจากขณะนี้มีความพร้อมทั้งสถาบันการเงิน แรงงาน ธนาคาร ยืนยันจะปราบปรามการทุจริต

นายสุหฤท กล่าวว่า เหตุที่คนกรุงเทพ 2 ล้านคนไม่ออกมาใช้สิทธิ์ เนื่องจากเมื่อเลือกผู้ว่าฯ กทม.ไปแล้ว ก็ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิม นั่นเพราะที่ผ่านมาผู้บริหารมีกรอบคิดแบบนักการเมือง ทั้งนี้จะทำให้กทม.มี 50 เขต 50 เสน่ห์ มีอัตลักษณ์ในแต่ละพื้นที่

วันเดียวกัน คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเสวนาวิชาการ “มุมมองผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่กับปัญหาสุนัขจรจัด”

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การฆ่าหรือกำจัดสุนัขและแมวจรจัดทิ้งเป็นหนทางสุดท้ายที่จะเลือกใช้หากได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม.ทั้งนี้เห็นว่าควรมีการตั้งศูนย์ดูแลสุนัขและสัตว์จรจัดแบบครบวงจรที่มีทั้งโรงพยาบาลสัตว์ ศูนย์ฝึก สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และแหล่งให้ความรู้แก่ผู้เลี้ยงสัตว์ รวมเป็นศูนย์ขนาดใหญ่โดยอาจเลือกใช้พื้นที่ของราชพัสดุของ กทม.จัดตั้งศูนย์ดังกล่าว

อย่างไรก็ตามเห็นว่าปัญหาสุนัขจรจัด ไม่ได้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะตัวสัตว์เท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงภาพลักษณ์การจราจรของเมืองหลวงด้วย ดังนั้นควรมีการเพิ่มงบประมาณและบุคลากรในการดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยให้ กทม.มีเจ้าหน้าที่ Animal Cop เหมือนระบบในต่างประเทศเพื่อจัดการสุนัขจรจัดโดยเฉพาะ อีกทั้งเห็นว่าปัญหานี้ต้องเริ่มแก้ตรงพื้นที่ต้นทาง คือ ชุมชน 2,038 ชุมชนใน กทม.ดังนั้นควรกระจายมอบหมายภารกิจการดูแลสุนัขเร่ร่อนให้กับประธานชุมชนโดยให้แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ Animal Cop ในการตรวจจับสุนัขและประสานส่งสุนัขไปยังศูนย์ใหญ่เพื่อทำการฝึกฝนหรือรักษาต่อไป

นายโฆษิต กล่าวว่า การจัดการปัญหาสุนัขจรจัดควรใช้แนวคิดเดียวกับการแก้ปัญหาคนจรจัด คือ“การเปลี่ยนภาระเป็นพลัง” โดยเสนอให้ กทม.แยกสุนัขจรจัดออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่ป่วยหนักต้องเข้าสู่ระบบรักษา ส่วนประเภทไม่ป่วยนั้นสามารถเข้าสู่การฝึกอบรมสุนัขผ่านการจัดตั้งโรงเรียนฝึกอบรมสัตว์ใน กทม.ให้เต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น โดยสุนัขที่ผ่านการฝึกแล้วจะสามารถนำมาใช้ช่วยงานพนักงานรักษาความปลอดภัย ช่วยคนตาบอด ช่วยปราบปรามยาเสพติด หรือฝึกให้เป็นสัตว์ที่มีทาเลนท์ มีพรสรรค์หรือมีความสามารถพิเศษใช้แสดงในงานโชว์ได้ รวมถึงให้เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ เนื่องจากสภาพปัจจุบันที่ กทม.เป็นครอบครัวเชิงเดี่ยวมากขึ้น ครอบครัวใหม่มักแยกตัวออกจากผู้สูงอายุให้อยู่ตามลำพัง

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีสุนัขจรจัดใน กทม.ไม่ต่ำกว่า 3 แสนตัวเกินกว่าการแบกรับของศูนย์ดูแลสุนัขจรจัดที่มีเพียง 2 ศูนย์ ดังนั้นต้องเพิ่มคนเพิ่มงบประมาณให้เพียงพอกับงาน และจัดตั้ง ศูนย์รับดูแลสุนัขจรจัดประจำทุกพื้นที่ 50 เขตของ กทม.โดยรับมาทำหมัน ดูแลรักษาให้สุนัข มีสุขภาพที่ดีขึ้น

นายสุหฤท กล่าวว่า ศูนย์แลสุนัขจรจัดในขณะนี้ที่มีพื้นที่ประมาณ 200-300 ไร่เท่าที่ได้สำรวจพบว่ายังแออัดคับแคบส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของสุนัขจรจัด จึงอยากเสนอให้ปรับสร้างศูนย์เป็นทรงสูงขึ้น เพื่อใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าและลดความแออัด เพราะเท่าที่เห็นมีการใช้พื้นที่ในแนวราบเท่านั้น (โพสต์ทูเดย์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 11 ก.พ.56)

ที่มา: โพสต์ทูเดย์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 11 ก.พ.56
วันที่โพสต์: 12/02/2556 เวลา 03:32:49 ดูภาพสไลด์โชว์ ผู้สมัครผู้ว่าฯประชันวิสัยทัศน์นโยบาย…ช่วยคนตาบอด

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ผู้สมัครผู้ว่าฯประชันวิสัยทัศน์นโยบาย…ช่วยคนตาบอด ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ยืนจับมือไขว้กัน สภาธุรกิจตลาดทุนไทยจัดประชันวิสัยทัศน์ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ด้านผู้สมัครเน้นแถลงนโยบายหาเสียง สภาธุรกิจตลาดทุนไทย จัดงานแสดงวิสัยทัศน์ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยมีผู้สมัครเข้าร่วม 5 ราย ได้แก่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 16 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พรรคเพื่อไทย หมายเลข 9 นายโฆสิต สุวินิจจิต หมายเลข 10 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หมายเลข 11 และนายสุหฤท สยามวาลา หมายเลข 17 สำหรับการแสดงวิสัยทัศน์ในครั้งนี้ มีการตั้งคำถามปลายเปิดและให้เวลาผู้สมัครตอบคำถามเดียวกันในเวลาที่เท่าๆ กัน โดยคำถามมีทั้งสิ้น 3 ข้อ ได้แก่ 1.จะทำให้กทม.เป็นมหานครศูนย์กลางในด้านใด 2.จะใช้ยุทธศาสตร์อะไรรองรับในการทำ 3.นำงบประมาณมาจากไหนเพื่อดำเนินการ อย่างไรก็ตามผู้สมัครแต่ละรายล้วนแต่ตอบคำถามในลักษณะแถลงนโยบายเดิมที่ใช้หาเสียงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแทบทั้งสิ้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า กทม.มีศักยภาพหลายด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ดังนั้นจะส่งเสริมให้กทม.เป็นมหานครของอาเซียน โดยให้น้ำหนักด้านการท่องเที่ยว การค้า การลุงทุน พร้อมทั้งจัดทำให้กทม.เป็นศูนย์กลางเชื่อมต่ำระหว่างจีนตอนใต้กับอาเซียน และอินโดจีนกลับโลกภายนอก ส่วนแหล่งเงินจะบริหารงบประมาณของกทม. นายโฆสิต กล่าวว่า จะทำให้กทม.เป็นมหานคร 24 ชั่วโมง ทั้งด้านการทำมาหากิน การคมนาคม ความปลอดภัย นอกจากนี้จะผลักดันให้กทม.เป็นศูนย์กลางในการซื้อขาย 24 ชั่วโมง เชื่อว่าจะมีบริษัทจากหลายประเทศเข้ามาตั้งอยู่ในกทม. ยืนยันว่าหากไม่มีการทุจริตก็จะมีงบประมาณใช้ พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า จะทำให้กทม.เป็นมหานครแห่งความสุข โดยบริหารด้วยอำนาจของกทม. หากสิ่งเกินอำนาจก็จะประสานความร่วมมือไปยังรัฐบาลเพื่อขอการสนับสนุน ด้วยนโยบายไร้รอยต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า จะทำให้กทม.เป็นมหานครแห่งการท่องเที่ยว เนื่องจากขณะนี้มีความพร้อมทั้งสถาบันการเงิน แรงงาน ธนาคาร ยืนยันจะปราบปรามการทุจริต นายสุหฤท กล่าวว่า เหตุที่คนกรุงเทพ 2 ล้านคนไม่ออกมาใช้สิทธิ์ เนื่องจากเมื่อเลือกผู้ว่าฯ กทม.ไปแล้ว ก็ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิม นั่นเพราะที่ผ่านมาผู้บริหารมีกรอบคิดแบบนักการเมือง ทั้งนี้จะทำให้กทม.มี 50 เขต 50 เสน่ห์ มีอัตลักษณ์ในแต่ละพื้นที่ วันเดียวกัน คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเสวนาวิชาการ “มุมมองผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่กับปัญหาสุนัขจรจัด” พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การฆ่าหรือกำจัดสุนัขและแมวจรจัดทิ้งเป็นหนทางสุดท้ายที่จะเลือกใช้หากได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม.ทั้งนี้เห็นว่าควรมีการตั้งศูนย์ดูแลสุนัขและสัตว์จรจัดแบบครบวงจรที่มีทั้งโรงพยาบาลสัตว์ ศูนย์ฝึก สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และแหล่งให้ความรู้แก่ผู้เลี้ยงสัตว์ รวมเป็นศูนย์ขนาดใหญ่โดยอาจเลือกใช้พื้นที่ของราชพัสดุของ กทม.จัดตั้งศูนย์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามเห็นว่าปัญหาสุนัขจรจัด ไม่ได้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะตัวสัตว์เท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงภาพลักษณ์การจราจรของเมืองหลวงด้วย ดังนั้นควรมีการเพิ่มงบประมาณและบุคลากรในการดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยให้ กทม.มีเจ้าหน้าที่ Animal Cop เหมือนระบบในต่างประเทศเพื่อจัดการสุนัขจรจัดโดยเฉพาะ อีกทั้งเห็นว่าปัญหานี้ต้องเริ่มแก้ตรงพื้นที่ต้นทาง คือ ชุมชน 2,038 ชุมชนใน กทม.ดังนั้นควรกระจายมอบหมายภารกิจการดูแลสุนัขเร่ร่อนให้กับประธานชุมชนโดยให้แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ Animal Cop ในการตรวจจับสุนัขและประสานส่งสุนัขไปยังศูนย์ใหญ่เพื่อทำการฝึกฝนหรือรักษาต่อไป นายโฆษิต กล่าวว่า การจัดการปัญหาสุนัขจรจัดควรใช้แนวคิดเดียวกับการแก้ปัญหาคนจรจัด คือ“การเปลี่ยนภาระเป็นพลัง” โดยเสนอให้ กทม.แยกสุนัขจรจัดออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่ป่วยหนักต้องเข้าสู่ระบบรักษา ส่วนประเภทไม่ป่วยนั้นสามารถเข้าสู่การฝึกอบรมสุนัขผ่านการจัดตั้งโรงเรียนฝึกอบรมสัตว์ใน กทม.ให้เต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น โดยสุนัขที่ผ่านการฝึกแล้วจะสามารถนำมาใช้ช่วยงานพนักงานรักษาความปลอดภัย ช่วยคนตาบอด ช่วยปราบปรามยาเสพติด หรือฝึกให้เป็นสัตว์ที่มีทาเลนท์ มีพรสรรค์หรือมีความสามารถพิเศษใช้แสดงในงานโชว์ได้ รวมถึงให้เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ เนื่องจากสภาพปัจจุบันที่ กทม.เป็นครอบครัวเชิงเดี่ยวมากขึ้น ครอบครัวใหม่มักแยกตัวออกจากผู้สูงอายุให้อยู่ตามลำพัง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีสุนัขจรจัดใน กทม.ไม่ต่ำกว่า 3 แสนตัวเกินกว่าการแบกรับของศูนย์ดูแลสุนัขจรจัดที่มีเพียง 2 ศูนย์ ดังนั้นต้องเพิ่มคนเพิ่มงบประมาณให้เพียงพอกับงาน และจัดตั้ง ศูนย์รับดูแลสุนัขจรจัดประจำทุกพื้นที่ 50 เขตของ กทม.โดยรับมาทำหมัน ดูแลรักษาให้สุนัข มีสุขภาพที่ดีขึ้น นายสุหฤท กล่าวว่า ศูนย์แลสุนัขจรจัดในขณะนี้ที่มีพื้นที่ประมาณ 200-300 ไร่เท่าที่ได้สำรวจพบว่ายังแออัดคับแคบส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของสุนัขจรจัด จึงอยากเสนอให้ปรับสร้างศูนย์เป็นทรงสูงขึ้น เพื่อใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าและลดความแออัด เพราะเท่าที่เห็นมีการใช้พื้นที่ในแนวราบเท่านั้น (โพสต์ทูเดย์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 11 ก.พ.56)

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...

ห้องการเมือง