แนะกิน“โฟเลต”ก่อนมีเซ็กส์ช่วยป้องกันเด็กพิการแต่กำเนิด
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทย ศ.เกียรติคุณ พ.ญ.พรสวรรค์ วสันต์ นายกสมาคมเพื่อเด็กพิการแต่กำเนิด(ประเทศไทย) ที่ปรึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล แถลงว่า จากการทำโครงการร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ที่ได้ลงพื้นที่ในประเทศไทย พบว่าร้อยละ 40 ของหญิงตั้งครรภ์มีปัญหาตัวซีด ส่งผลให้ทารกที่เกิดมามีปัญหาเรื่องเชาวปัญญาต่ำพิการแต่กำเนิด ติดเชื้อง่าย เป็นต้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันตรงนี้ต้องหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่และสารเสพติด ที่สำคัญคือการได้รับโฟเลตอย่างเพียงพอระหว่างที่มีการตั้งครรภ์ เนื่องจากโฟเลตมีผลต่อการสร้างดีเอ็นเอสร้างตัวอ่อน การที่แม่มีโฟเลตต่ำจะทำให้ดีเอ็นเอแบ่งตัวไม่พอต่อการแบ่งเซลล์อวัยวะหลายอย่างตาย เด็กที่เกิดมาไม่แข็งแรง ไม่สมบูรณ์ เป็นปากแหว่งเพดานโหว่ แขนขาพิการ หัวใจพิการ เป็นต้น จึงต้องดูแลตั้งแต่ต้นน้ำ คือการให้โฟเลตในหญิงวัยเจริญพันธุ์อายุ 15-49 ปี ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ และระหว่างตั้งครรภ์ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติก็ให้ความสนใจในเรื่องนี้
ศ.นพ.วรศักดิ์โชติเลอศักดิ์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การป้องกันความพิการตั้งแต่กำเนิดให้ได้ผลควรรับประทานโฟเลตก่อนการตั้งครรภ์โดยหลักการควรรับประทานขนาด 0.4 มิลลิกรัม (400 ไม่โครกรัม) ก่อนมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์ จนถึงการตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก เพื่อป้องกันความพิการรุนแรงแต่กำเนิดสมองไขสันหลัง หัวใจ แขน ขาระบบทางเดินปัสสาวะและระบบทางเดินอาหาร ได้ร้อยละ 50 โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพิการทางด้านสมองและไขสันหลังนั้น สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ถึงร้อยละ 70 ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกได้ประกาศเป็นแนวทางปฏิบัติในการลดความพิการตั้งแต่กำเนิดสำหรับทุกประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดาออกเป็นกฎหมายในการเสริมโฟเลตในหญิงวัยเจริญพันธุ์ทุกคนและให้มีการผสมลงในอาหารด้วย ผลจากมาตรการดังกล่าวทำให้ลดอัตราเด็กพิการแต่กำเนิดได้กว่าร้อยละ 50 อัตราการความพิการน้อยกว่าร้อยละ 2 ในปัจจุบันส่วนประเทศในเอเชียยังไม่มีประเทศใดออกเป็นกฎหมายมีเพียงประกาศแนวทางไว้เท่านั้น ส่วนตัวเห็นด้วยให้มีการประกาศเป็นกฎหมาย แต่ถ้าจะผสมลงในอาหารนั้นอาจทำได้ยาก เพราะอาหารของไทยมีความหลากหลายมาก
ด้าน นพ.วชิระเพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรมอนามัยอยู่ระหว่างการศึกษาการให้โฟเลตแบบสมัครใจคือให้สิทธิประโยชน์ในการรับวิตามินรวม เหล็ก ไอโอดีน และโฟเลต สำหรับกลุ่มหญิงวัยเจริญพันธุ์สัปดาห์ละ 1 เม็ด ตรงนี้อยู่ระหว่างการวางแผนว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ใช้งบประมาณไม่มาก เนื่องจากราคาเม็ดละไม่ถึง 1 บาทในขณะที่หญิงวัยเจริญภัณธุ์อายุ 15-49 ปีของไทยรายงานปี 2557มี 17,789,671 คน และหากยังเข้าไม่ถึงการได้รับโฟเลตอย่างเพียงพอ ก็จะมีมาตรการบังคับด้วยการผสมลงไปในอาหาร โดยไม่ทำให้คุณค่าและรสชาติเสียไป ขณะนี้กำลังดูว่าจะเสริมโฟเลตเข้าไปในอาหารชนิดใดได้บ้าง เช่น การผสมเข้าไปในแป้งสาลี แป้งข้าวโพด หรือใส่ในกลุ่มเครื่องปรุง เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป.
ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/politics/375935 (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ประชุมวิชาการ การป้องกันความพิการแต่กำเนิดด้วยโฟเลต เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทย ศ.เกียรติคุณ พ.ญ.พรสวรรค์ วสันต์ นายกสมาคมเพื่อเด็กพิการแต่กำเนิด(ประเทศไทย) ที่ปรึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล แถลงว่า จากการทำโครงการร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ที่ได้ลงพื้นที่ในประเทศไทย พบว่าร้อยละ 40 ของหญิงตั้งครรภ์มีปัญหาตัวซีด ส่งผลให้ทารกที่เกิดมามีปัญหาเรื่องเชาวปัญญาต่ำพิการแต่กำเนิด ติดเชื้อง่าย เป็นต้น ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันตรงนี้ต้องหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่และสารเสพติด ที่สำคัญคือการได้รับโฟเลตอย่างเพียงพอระหว่างที่มีการตั้งครรภ์ เนื่องจากโฟเลตมีผลต่อการสร้างดีเอ็นเอสร้างตัวอ่อน การที่แม่มีโฟเลตต่ำจะทำให้ดีเอ็นเอแบ่งตัวไม่พอต่อการแบ่งเซลล์อวัยวะหลายอย่างตาย เด็กที่เกิดมาไม่แข็งแรง ไม่สมบูรณ์ เป็นปากแหว่งเพดานโหว่ แขนขาพิการ หัวใจพิการ เป็นต้น จึงต้องดูแลตั้งแต่ต้นน้ำ คือการให้โฟเลตในหญิงวัยเจริญพันธุ์อายุ 15-49 ปี ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ และระหว่างตั้งครรภ์ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติก็ให้ความสนใจในเรื่องนี้ ศ.นพ.วรศักดิ์โชติเลอศักดิ์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การป้องกันความพิการตั้งแต่กำเนิดให้ได้ผลควรรับประทานโฟเลตก่อนการตั้งครรภ์โดยหลักการควรรับประทานขนาด 0.4 มิลลิกรัม (400 ไม่โครกรัม) ก่อนมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์ จนถึงการตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก เพื่อป้องกันความพิการรุนแรงแต่กำเนิดสมองไขสันหลัง หัวใจ แขน ขาระบบทางเดินปัสสาวะและระบบทางเดินอาหาร ได้ร้อยละ 50 โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพิการทางด้านสมองและไขสันหลังนั้น สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ถึงร้อยละ 70 ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกได้ประกาศเป็นแนวทางปฏิบัติในการลดความพิการตั้งแต่กำเนิดสำหรับทุกประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดาออกเป็นกฎหมายในการเสริมโฟเลตในหญิงวัยเจริญพันธุ์ทุกคนและให้มีการผสมลงในอาหารด้วย ผลจากมาตรการดังกล่าวทำให้ลดอัตราเด็กพิการแต่กำเนิดได้กว่าร้อยละ 50 อัตราการความพิการน้อยกว่าร้อยละ 2 ในปัจจุบันส่วนประเทศในเอเชียยังไม่มีประเทศใดออกเป็นกฎหมายมีเพียงประกาศแนวทางไว้เท่านั้น ส่วนตัวเห็นด้วยให้มีการประกาศเป็นกฎหมาย แต่ถ้าจะผสมลงในอาหารนั้นอาจทำได้ยาก เพราะอาหารของไทยมีความหลากหลายมาก ด้าน นพ.วชิระเพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรมอนามัยอยู่ระหว่างการศึกษาการให้โฟเลตแบบสมัครใจคือให้สิทธิประโยชน์ในการรับวิตามินรวม เหล็ก ไอโอดีน และโฟเลต สำหรับกลุ่มหญิงวัยเจริญพันธุ์สัปดาห์ละ 1 เม็ด ตรงนี้อยู่ระหว่างการวางแผนว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ใช้งบประมาณไม่มาก เนื่องจากราคาเม็ดละไม่ถึง 1 บาทในขณะที่หญิงวัยเจริญภัณธุ์อายุ 15-49 ปีของไทยรายงานปี 2557มี 17,789,671 คน และหากยังเข้าไม่ถึงการได้รับโฟเลตอย่างเพียงพอ ก็จะมีมาตรการบังคับด้วยการผสมลงไปในอาหาร โดยไม่ทำให้คุณค่าและรสชาติเสียไป ขณะนี้กำลังดูว่าจะเสริมโฟเลตเข้าไปในอาหารชนิดใดได้บ้าง เช่น การผสมเข้าไปในแป้งสาลี แป้งข้าวโพด หรือใส่ในกลุ่มเครื่องปรุง เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป. ขอบคุณ...http://www.dailynews.co.th/politics/375935
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)