พาราฯไทยตั้งเป้า118ทองครองเจ้าอาเซียน
พล.ต.โอสถ ภาวิไล นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตอนนี้สมาคมกีฬาคนพิการฯ ได้พิจารณาคัดเลือกนักกีฬาคนพิการ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 8 ที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 3-9 ธ.ค.นี้ จำนวนรวมทั้งหมด 269 คน สำหรับเป้าหมายของทัพนักกีฬาไทยในครั้งนี้นั้น หลังจากครั้งที่แล้วต้องเสียตำแหน่งเจ้าเหรียญทองให้กับอินโดนีเซีย ทำให้ทีมไทยกลับมาพัฒนาศักยภาพให้ดีขึ้น มีการเก็บตัวรวมทั้งหมดประมาณ 5 เดือน เชื่อว่าจะต้องทวงตำแหน่งเจ้าเหรียญทองกลับคืนมาได้อย่างแน่นอน ซึ่งตนทราบมาว่าครั้งนี้อินโดนีเซียส่งนักกีฬามาประมาณ 180 คน แม้ว่าจำนวนจะน้อยกว่าไทย ทว่าส่วนใหญ่เป็นนักกีฬาประเภทเดี่ยว ขณะที่ไทยมีประเภททีมด้วย ดังนั้น จำนวนรายการลุ้นเหรียญทองไม่ต่างกันมาก แต่ครั้งนั้นอินโดนีเซียใช้เวลาเก็บตัวเพียงแค่ 3 เดือน เนื่องจากงบประมาณจำกัด ต่างจากครั้งที่แล้วที่เก็บตัวนานถึง 1 ปีเต็ม ทำให้เชื่อว่าครั้งนี้ทัพนักกีฬาไทยมีความพร้อมกว่าแน่นอน
พล.ต.โอสถ กล่าวต่อว่า นอกจากอินโดนีเซียที่เป็นคู่แข่งสำคัญแล้ว ยังมี “เจ้าภาพ” สิงคโปร์ที่จะมองข้ามไม่ได้ เพราะสามารถส่งนักกีฬาได้อย่างเต็มที่ และอาจมีแรงฮึดในการลงเล่นต่อหน้ากองเชียร์ด้วย อย่างไรก็ตาม จากการประเมินโอกาสของทัพไทยน่าจะได้ประมาณ 118 เหรียญทอง จากการชิงชัยทั้งหมด 486 เหรียญทอง ซึ่งตนเชื่อว่าน่าจะเพียงพอต่อการทวงตำแหน่งเจ้าเหรียญทองกลับมาได้
ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/sports/356462 (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
โลโก้ มหกรรมกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 8 ที่ประเทศสิงคโปร์ พล.ต.โอสถ ภาวิไล นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตอนนี้สมาคมกีฬาคนพิการฯ ได้พิจารณาคัดเลือกนักกีฬาคนพิการ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 8 ที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 3-9 ธ.ค.นี้ จำนวนรวมทั้งหมด 269 คน สำหรับเป้าหมายของทัพนักกีฬาไทยในครั้งนี้นั้น หลังจากครั้งที่แล้วต้องเสียตำแหน่งเจ้าเหรียญทองให้กับอินโดนีเซีย ทำให้ทีมไทยกลับมาพัฒนาศักยภาพให้ดีขึ้น มีการเก็บตัวรวมทั้งหมดประมาณ 5 เดือน เชื่อว่าจะต้องทวงตำแหน่งเจ้าเหรียญทองกลับคืนมาได้อย่างแน่นอน ซึ่งตนทราบมาว่าครั้งนี้อินโดนีเซียส่งนักกีฬามาประมาณ 180 คน แม้ว่าจำนวนจะน้อยกว่าไทย ทว่าส่วนใหญ่เป็นนักกีฬาประเภทเดี่ยว ขณะที่ไทยมีประเภททีมด้วย ดังนั้น จำนวนรายการลุ้นเหรียญทองไม่ต่างกันมาก แต่ครั้งนั้นอินโดนีเซียใช้เวลาเก็บตัวเพียงแค่ 3 เดือน เนื่องจากงบประมาณจำกัด ต่างจากครั้งที่แล้วที่เก็บตัวนานถึง 1 ปีเต็ม ทำให้เชื่อว่าครั้งนี้ทัพนักกีฬาไทยมีความพร้อมกว่าแน่นอน พล.ต.โอสถ กล่าวต่อว่า นอกจากอินโดนีเซียที่เป็นคู่แข่งสำคัญแล้ว ยังมี “เจ้าภาพ” สิงคโปร์ที่จะมองข้ามไม่ได้ เพราะสามารถส่งนักกีฬาได้อย่างเต็มที่ และอาจมีแรงฮึดในการลงเล่นต่อหน้ากองเชียร์ด้วย อย่างไรก็ตาม จากการประเมินโอกาสของทัพไทยน่าจะได้ประมาณ 118 เหรียญทอง จากการชิงชัยทั้งหมด 486 เหรียญทอง ซึ่งตนเชื่อว่าน่าจะเพียงพอต่อการทวงตำแหน่งเจ้าเหรียญทองกลับมาได้ ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/sports/356462
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)