หนูเก่งจังเลยลูก"น้องฮับ" คิดเครื่องช่วยฟังคนพิการ

หนูเก่งจังเลยลูก"น้องฮับ" คิดเครื่องช่วยฟังคนพิการ

ฝรั่งยอมยกนิ้ว เด็กไทยอายุ13 ติด 1 ใน 20 คนจากเด็กทั่วโลก เป็นคนไทยคนแรก ที่ผ่านเข้ารอบตัดสิน Google Science Fair ประดิษฐ์เครื่องช่วยฟังสำหรับผู้พิการทางหู ราคาถูกกว่าของต่างประเทศ 3เท่า แม่ฝากคนไทยช่วยลุ้น

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รัยแจ้งว่า มีเด็กชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อายุเพียง 13 ปี นักเรียนโรงเรียนวารีเชียงใหม่อินเตอร์เนชั่นแนล สามารถติด 1 ใน 20 คนจากเด็กทั่วโลก ที่ผ่านเข้ารอบตัดสิน Google Science Fair ด้วยการประดิษฐ์อุปกรณ์เครื่องช่วยฟังสำหรับผู้พิการทางหู จึงเดินทางไปที่โรงเรียนเพื่อสอบถามข้อมูล ก็ทราบชื่อ เด็กชายคนดังกล่าวคือ ด.ช. เหมวิช วาฤทธิ์ หรือน้องฮับ กำลังพูดคุยถึงโครงการที่ได้ทำจนนำมาสู่ความสำเร็จให้เพื่อนนักเรียนฟัง เพื่อเป็นแนวทางในการจุดประกายให้กับเพื่อนๆ เข้ามาสู่การนำเสนอโครงการกับ Google Science Fairน้องฮับ กล่าวว่า การได้ยินเสียงถือว่าเป็นปัญหาด้านสุขภาพที่สำคัญ ปัจจุบันมีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 422 ล้านคนทั่วโลก และตอนที่เรียนอยู่ ก็มีครูที่โรงเรียนมาบอกว่า มีโครงการ Google Science Fair ตนจึงมีแนวคิดที่อยากช่วยเหลือคนพิการทางหู ก็ได้นำแนวคิดนี้มาปรึกษาครอบครัว ประกอบกับเคยได้พูดคุยกับคนที่พิการทางหู เขามีน้ำเสียงที่ฟังดูเบา เหมือนไม่มีแรงและเสียงต่ำ จึงน่าจะทำให้คนเหล่านี้หลีกเลี่ยงการพูดและนำภาษามือมาใช้ในการสื่อสาร และมีอยู่วันหนึ่งขณะที่ตนกำลังเล่นกีตาร์ แล้วตนไม่ได้ต่อแอมป์ที่เป็นตัวขยายเสียง ทำให้เสียงกีตาร์ตนเบามาก ขณะนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร ได้เอาคางไปแตะที่ตัวกีตาร์เพื่อจะฟังเสียง ปรากฏว่าเสียงดังขึ้น ชัดเจนขึ้น ตนจึงเกิดแนวคิดว่า อาจจะนำมาใช้กับคนที่พิการทางหูได้ จึงได้นำมาพัฒนาเครื่องช่วยฟัง และการพัฒนาโปรแกรมฝึกการออกเสียงพูดขึ้น

น้องฮับ กล่าวต่อว่า ผลจากการทดสอบมาแล้วประมาณ 20 คน ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์ความรู้กระดูกหูจากคุณหมอ จนนำมาสู่การทดสอบที่โรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร ก็เริ่มทดสอบอย่างไม่เป็นทางการและพัฒนาอุปกรณ์มาเรื่อยๆ โดยตนนำแนวทางการใช้กระบังลมจากการร้องเพลง และตนเคยประกวดร้องเพลงในเวทีเดอะวอยซ์ คิดส์ ไทยแลนด์ มาช่วยฝึกให้คนพิการทางหู เขาทดลองเปล่งเสียงพูด หลังจากใส่อุปกรณ์เครื่องช่วยฟัง เมื่อเขาได้ยิน เขาก็มีความกล้าที่จะทดลองเปล่งเสียง และก็ได้ยินเสียงที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่ส่งผลกระทบต่อหู หรือการติดเชื้อในช่องหูด้วย ตนก็ดีใจที่ได้เข้าแข่ง Google Science Fair และยอมรับว่า ได้รับแรงกดดันมาก แต่ก็ทำให้ได้รับความรู้มากขึ้น ในจำนวนเด็กไทยที่เข้าแข่งขันจนถึงรอบ 100 คนสุดท้ายมีเพียง 2 คนที่เป็นคนไทย และตนเป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยเข้าแข่งขันและเป็นเด็กไทยคนแรกที่เข้าถึงรอบ 20 คนสุดท้ายไปสู่รอบตัดสินในเดือน ก.ค.นี้ สำหรับเครื่องช่วยฟังที่คิดค้นขึ้น ตัวเครื่องต้นแบบใช้เงินลงทุนไปประมาณ7,000บาท ถูกกว่าเครื่องที่ผลิตจากต่างประเทศ 2-3 เท่าตัวถ้า ผลิตในเชิงอุตสาหกรรมก็จะมีราคาถูกลงกว่านี้มาก ตนอยากให้ประเทศไทยเป็นประเทศผู้นำด้านเทคโนโลยีในอนาคต เพราะเชื่อว่าคนไทยและเด็กไทยทำได้

นางนิชาพร วาฤทธิ์ แม่ของน้องฮับ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเด็กคนไทยทุกคนเก่ง และทำได้เหมือนน้องฮับ ก็อยากให้สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นแรงกระตุ้นให้เด็กเกิดพัฒนาการทางด้านการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีที่มากขึ้น ส่งเสริมเด็กไทยตั้งแต่อายุยังน้อย และเปิดเวทีให้กับเด็กได้กล้าแสดงออกมากขึ้น จะกลายเป็นแรงผลักดันในด้านความรู้ที่จะเข้าแข่งขันกับต่างประเทศไทย และอยากขอแรงเชียร์จากคนไทย ช่วยเชียร์น้องฮับในการแข่งรอบสุดท้าย เพราะถือเป็นเด็กไทยคนแรกที่เคยเข้าแข่งในรอบตัดสินของ Google Science Fair และอายุน้อยที่สุด ก็อยากขอแรงเชียร์จากพี่น้องในประเทศไทยด้วย.

ขอบคุณ... https://www.dailynews.co.th/regional/713938

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 มิ.ย.62
วันที่โพสต์: 11/06/2562 เวลา 10:13:07 ดูภาพสไลด์โชว์ หนูเก่งจังเลยลูก"น้องฮับ" คิดเครื่องช่วยฟังคนพิการ