เป็นกำลังใจ คนท้อแท้!! สุดยอดหัวใจ 2ผัวเมียพิการโปลิโอเดินไม่ได้ ไม่ยอมแพ้โชคชะตา ยึดอาชีพสานสุ่มไก่สร้างรายได้ ส่งลูกเรียนปริญญา

เป็นกำลังใจ คนท้อแท้!! สุดยอดหัวใจ 2ผัวเมียพิการโปลิโอเดินไม่ได้ ไม่ยอมแพ้โชคชะตา ยึดอาชีพสานสุ่มไก่สร้างรายได้ ส่งลูกเรียนปริญญา

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังว่า ที่ บ้านมาบบอน หมู่ที่ 9 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง มีคู่สามีภรรยาที่ป่วยเป็นผู้พิการด้วยโรคโปลิโอมาตั้งแต่เด็ก โดยผู้เป็นสามีพิการขาทั้ง 2 ข้าง ไม่สามารถเดินได้ แต่สู้ชีวิตด้วยการคลานด้วยมือ 2 ข้าง และได้ยึดอาชีพการจักรสานสุ่มไก่ส่งขาย โดยเฉพาะในจังหวัดตรังมีนักเลงไก่ชนได้สั่งเข้ามาเป็นจำนวนมากทั้งปี และตัวภรรยาพิการขาข้างซ้ายยึดอาชีพเร่ขายลูกชิ้นทอดตามสถานที่ต่าง ๆ และปีนี้ตัวภรรยาเคยได้รับรางวัลคนพิการดีเด่น ปี 2561 จากจังหวัดอีกด้วย จากการบอกเล่าของเพื่อนบ้านทั้งคู่จะเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนบ้าน เพราะถึงแม้ว่าร่างกายจะพิการเรื่องงานสังคม การช่วยเหลือเพื่อนบ้านก็อาสาทำได้หมด แม้กระทั่งการปูกระเบื้องหลังคาบ้านก็สามารถปีนขึ้นไปมุงหลังคาเหมือนคนปกติธรรมดา

เป็นกำลังใจ คนท้อแท้!! สุดยอดหัวใจ 2ผัวเมียพิการโปลิโอเดินไม่ได้ ไม่ยอมแพ้โชคชะตา ยึดอาชีพสานสุ่มไก่สร้างรายได้ ส่งลูกเรียนปริญญา

ที่บ้านเลขที่ 172 หมู่ที่ 9 บ้านมาบบอน ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของนายสุนันทร์ หรือ อั้น สามัญ อายุ 48 ปี และนางหนูภา ชัยเพชร อายุ 45 ปี สองสามีภรรยาผู้ป่วยด้วยโรคโปลิโอจนพิการช่วงล่าง กำลังง่วนอยู่กับการจักรสานสุ่มไก่ พี่อั้นอธิบายถึงวิธีการสานสุ่มไก่ว่า ต้องเลือกไม้ไผ่สีสุกที่ไม่อ่อนไม่แก่ หรือที่เรียกว่า ดีเหม้า อายุประมาณ 2 ปีครึ่ง ถึง 3 ปี ด้วยคุณสมบัติของไผ่สีสุกมีความหอม มีความเหนียว มีความอ่อนตัวอยู่ในตัวของไผ่อยู่แล้ว ซึ่งทั้งนี้การเลือกอาจจะอยู่ที่ความชำนาญของแต่ละคนด้วย สำหรับไม้ไผ่นั้นตนเองไปจ้างเขาตัดให้จากนั้นตนเองก็ขับรถซาเล้งไปขนกลับมาที่บ้าน จากนั้น นำไม้ไผ่มาผ่าและเหลาเป็นซี่ ๆ ตามขนาดที่ต้องการ และต้องเหลาโดยให้เหลือผิวเปลือกไผ่เอาไว้เนื่องจากเมื่อใช้งานนานไปผิวไม้ไผ่จะมีความเหนียวไม่เปราะหักง่าย นี่คือไม้ไผ่ที่นำมาจักรสุ่มไก่ชน

เป็นกำลังใจ คนท้อแท้!! สุดยอดหัวใจ 2ผัวเมียพิการโปลิโอเดินไม่ได้ ไม่ยอมแพ้โชคชะตา ยึดอาชีพสานสุ่มไก่สร้างรายได้ ส่งลูกเรียนปริญญา

สำหรับขั้นตอนการขึ้นรูปสุ่มนั้น ต้องขึ้นรูปกับพื้นดินโดยใช้ตะขอบก 8 ตัวในการยึด แต่ละลูกใช้ไม้ไผ่ถึง 40 ซี่ เพื่อเป็นโครงสร้างของสุ่ม หลังจากขึ้นได้ครึ่งลูกก็สามารถเปลี่ยนสถานที่ทำการสานได้ โดยลูกหนึ่งใช้เวลาในการสานครึ่งวัน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศหากฝนตกจะมีปัญหาคือ ชิ้นงานจัดรูปไม่สวย ไม้ขึ้นรา สานสุ่มได้ 2 ลูกต่อวัน ราคาลูกละ 350 บาท สำหรับฤดูการขายปีหนึ่ง 4 เดือน คือ ในช่วง สิงหาคม-พฤศจิกายน เพราะนักพนันชนไก่จะจับไก่ขังเพื่อฟิตซ้อมไก่สำหรับพร้อมชน ซึ่งเมื่อก่อนนี้ตนเองมียอดการสานสุ่มไก่ถึง 400 ลูก ต่อปี แต่มาตอนนี้เหลือเพียง 100 ลูก ต่อปี เท่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจมีผลกระทบเช่นเดียวกัน ปัจจุบันมีการดัดแปลงการสานสุ่มไก่มาทำด้วยอวนก็มีผลกระทบบ้างแต่ไม่มากนัก เพราะตามบ่อนไก่ หรือคนเลี้ยงไก่ชนจะถือเคล็ดต้องเป็นสุ่มไม้ไผ่ หรือมีไว้แก้เคล็ดอยู่แล้ว

นอกจากนั้น นายสุนันทร์ หรือ พี่อั้น เล่าให้ฟังว่า ตนเองเป็นชาวนครศรีธรรมราช พ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว เริ่มป่วยเป็นโปลิโอตอนอายุ 9 ขวบ เดินไม่ได้ และได้มาเจอกับภรรยา คือ นางหนูภา ชัยเพชร ที่ศูนย์การประกอบอาชีพ ซึ่งต่อมาทราบว่าป่วยเป็นโปลิโอเหมือนกับตนตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ขาซ้ายอ่อนแรง และพ่อแม่ของภรรยาก็เสียชีวิตหมดแล้วเช่นกัน ได้คบหาด้วยความเห็นใจเข้าอกเข้าใจกันและครองรักกันมา จนมีลูกด้วยกัน 3 คน ตนเองได้ยึดอาชีพการสานสุ่มไก่ส่งขาย หรือตามที่ลูกค้าสั่งเข้ามา สามารถใช้เลี้ยงครอบครัวส่งลูกเรียนหนังสือได้แบบไม่ขัดสน ทั้งนี้ตนเองมีความภาคภูมิใจ แต่ส่วนหนึ่งเพราะเรามีต้นทุนชีวิต รู้จักเก็บหอมรอมริบมาโดยตลอด ลงทุนไปกับลูกเยอะแต่ก็ไม่เป็นไร

ทั้งนี้อยากฝากไปถึงคนที่ท้อแท้กับชีวิตว่า ทุกคนต้องสู้ก่อนที่จะให้คนอื่นมาช่วย เพราะตนเองเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยเงินเพียง 40 บาท เราต้องเริ่มต้นจาก 0 เริ่มนับ 1 ให้ไปถึง 10 เพราะทุกวันนี้ตนเองยังนับไม่ถึง 10 เลย การฆ่าตัวตายต้องคิดให้ดี อย่าทำเหมือนชีวิตไร้ค่า ให้คิดถึง พ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรามา

ส่วนนางหนูภา ชัยเพชร หรือ พี่ดำ ภรรยา กล่าวว่า เคยท้อกับชีวิตแต่เมื่อมีแฟนก็ต้องสู้ มีลูก 3 คน อยู่เพื่อลูก เพราะลูกคนโตเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 3 คนกลางอยู่ ม.4 คนเล็ก อยู่ ป.3 ตนเองภูมิใจในตัวสามี ไม่ดื่มเหล้า ทำมาหากินช่วยเหลือกันตลอดมา ตนเองภูมิใจไม่เคยคิดว่าคนที่พิการอย่างตนสามารถส่งลูกเรียนได้

ทั้งนี้อยากจะฝากไปถึงคนที่ร่างกายสมบูรณ์ไม่อยากให้ท้อถอย หรือคิดน้อยใจในโชคชะตาจนต้องฆ่าตัวตาย ไม่อยากให้คิดแบบนั้นเพราะตนเองและสามีถึงจะพิการแต่ไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ต้องต่อสู้ เพื่อลูกและครอบครัวมาถึงทุกวันนี้

ขอบคุณ... https://goo.gl/HvZ6zh

ที่มา: tnews.co.th/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 5 มิ.ย.61
วันที่โพสต์: 6/06/2561 เวลา 10:39:24 ดูภาพสไลด์โชว์ เป็นกำลังใจ คนท้อแท้!! สุดยอดหัวใจ 2ผัวเมียพิการโปลิโอเดินไม่ได้ ไม่ยอมแพ้โชคชะตา ยึดอาชีพสานสุ่มไก่สร้างรายได้ ส่งลูกเรียนปริญญา