สธ.เร่งจดทะเบียนความพิการแต่กำเนิดระดับชาติ พบปีละ ๒๔,๐๐๐-๔๐,๐๐๐ คน

แสดงความคิดเห็น

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รมช.สาธารณสุข เผยไทยพบเด็กเกิดมาพร้อมกับความพิการประมาณ ๒๔,๐๐๐-๔๐,๐๐๐ คน/ปี และพบว่าเป็นสาเหตุใหญ่ของการตายของเด็กทารกมากถึงร้อยละ ๒๐-๓๐ เร่งแก้ไข-ป้องกัน โดยนำร่องการขึ้นทะเบียนเด็กพิการแต่กำเนิด พร้อมศึกษาวิจัยหาสาเหตุ ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ๒๐ แห่งทั่วประเทศ ส่งเสริมให้หญิงเริ่มฝากครรภ์ครั้งแรกก่อนหรือเท่ากับ ๑๒ สัปดาห์

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๖ นี้เป็นต้นไป สธ.ตั้งเป้าหมายพัฒนางานอนามัยแม่และเด็กทั่วประเทศ พัฒนาระบบการฝากครรภ์ มีแนวทางการคัดกรองภาวะเสี่ยงระหว่างตั้งครรภ์ตามแนวทางใหม่ขององค์การอนามัยโลก ตั้งแต่การฝากครรภ์ จนกระทั่งหลังคลอด และดูแลพัฒนาการเด็กจนถึงอายุ ๖ ขวบ เรื่องที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือ ปัญหาเด็กที่คลอดมาแล้วพิการแต่กำเนิด (Birth Defects) ส่งผลกระทบต่อครอบครัวจนถึงระดับประเทศที่ต้องแบกรับภาระดูแลรักษา รวมทั้งผลกระทบทางจิตใจของผู้ที่เป็นพ่อแม่ ขณะนี้มีเด็กเกิดใหม่ที่เกิดมาพร้อมกับความพิการประมาณร้อยละ ๓-๕ ของทารกมีชีพ เช่น ปากแหว่งเพดานโหว่ กลุ่มอาการดาวน์ เป็นต้น โดยต่อปีไทยมีหญิงตั้งครรภ์ประมาณปีละ ๘๐๐,๐๐๐ คน ดังนั้น จึงประมาณการว่าจะพบเด็กแรกเกิดพิการแต่กำเนิดประมาณปีละ ๒๔,๐๐๐-๔๐,๐๐๐ คน ในขณะที่ทั่วโลกมีรายงานพบปีละกว่า ๘ ล้านคน นอกจากนี้ยังพบว่าความพิการแต่กำเนิดนี้ เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กทารกมากถึงร้อยละ ๒๐-๓๐ ถือว่าเป็นสถิติที่สูงมาก

“มอบหมายให้กรมการแพทย์ กรมอนามัย กรมสุขภาพจิต บูรณาการแก้ไข ร่วมมือกับสมาคมเพื่อเด็กพิการแต่กำเนิด (ประเทศไทย) สปสช. และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง จัดทำโครงการจดทะเบียนความพิการแต่กำเนิดระดับชาติ และวางแผนการลดความเสี่ยงที่ทำให้เด็กพิการ มีข้อมูลวิชาการพบว่าสาเหตุครึ่งหนึ่งเกิดมาจากพันธุกรรม ที่เหลือมาจากสิ่งแวดล้อม เช่น ยาบางชนิด ขาดสารอาหาร โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์”รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าว

การจัดระบบดังกล่าวจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลหลัก ๓ หน่วยงานได้แก่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กรมบัญชีกลาง และองค์การยูนิเซฟ นำร่องในโรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไป ๒๐ จังหวัดได้แก่ รพ.แพร่ รพ.น่าน รพ.อุตรดิตถ์ รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก รพ.เพชรบูรณ์ รพ.นครปฐม รพ.อ่างทอง รพ.ลพบุรี รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า รพ.พหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี รพ.ชลบุรี รพ.ระยอง รพ.พุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา รพ.สกลนคร รพ.หนองคาย รพ.สุรินทร์ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี รพ.ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร รพ.ระนอง และ รพ.ยะลา

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า จะมีการจัดทำคู่มือแนวทางการวินิจฉัยความพิการแต่กำเนิดให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เมื่อมีระบบการขึ้นทะเบียนรวบรวมข้อมูลความพิการแต่กำเนิด เด็กจะได้รับการวินิจฉัยโดยผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ ๑ ปี ซึ่งร้อยละ ๙๕ ของความพิการแต่กำเนิดชนิดรุนแรง สามารถตรวจพบได้ภายในระยะเวลา ๑ ปีหลังคลอด นำไปสู่มาตรการป้องกันและดูแลรักษาฟื้นฟูความพิการแต่กำเนิดในไทยอย่างเป็น ระบบ โดยให้ อสม.ทั่วประเทศรณรงค์ให้หญิงตั้งครรภ์ฝากครรภ์ก่อนอายุครรภ์ ๑๒ สัปดาห์ เพื่อประเมินความเสี่ยงว่าเป็นการตั้งครรภ์ปกติหรือมีความเสี่ยง หากมีความเสี่ยงต้องได้รับการช่วยเหลือและรับความรู้ตามมาตรฐานโรงเรียนพ่อ แม่

ข้อมูลโครงการโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว กรมอนามัย ในปี ๒๕๕๕ มีรายงานหญิงตั้งครรภ์รายใหม่ ฝากครรภ์ครั้งแรกเมื่ออายุครรภ์ก่อน ๑๒ สัปดาห์ร้อยละ ๔๒ คลอดในโรงพยาบาลร้อยละ ๑๐๐ ส่วนใหญ่คลอดปกติ โดยมีหญิงคลอดบุตรอายุน้อยกว่า ๒๐ ปีร้อยละ ๑๙ ทารกแรกเกิดมีน้ำหนักตัวน้อยกว่า ๒,๕๐๐ กรัมร้อยละ ๘ พบเด็กตายตั้งแต่อยู่ในครรภ์ร้อยละ ๗

(สำนักข่าวไทย ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๖ ก.พ.๕๖)

ที่มา: สำนักข่าวไทย ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๖ ก.พ.๕๖
วันที่โพสต์: 27/02/2556 เวลา 06:36:21 ดูภาพสไลด์โชว์ สธ.เร่งจดทะเบียนความพิการแต่กำเนิดระดับชาติ พบปีละ ๒๔,๐๐๐-๔๐,๐๐๐ คน

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รมช.สาธารณสุข เผยไทยพบเด็กเกิดมาพร้อมกับความพิการประมาณ ๒๔,๐๐๐-๔๐,๐๐๐ คน/ปี และพบว่าเป็นสาเหตุใหญ่ของการตายของเด็กทารกมากถึงร้อยละ ๒๐-๓๐ เร่งแก้ไข-ป้องกัน โดยนำร่องการขึ้นทะเบียนเด็กพิการแต่กำเนิด พร้อมศึกษาวิจัยหาสาเหตุ ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ๒๐ แห่งทั่วประเทศ ส่งเสริมให้หญิงเริ่มฝากครรภ์ครั้งแรกก่อนหรือเท่ากับ ๑๒ สัปดาห์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๖ นี้เป็นต้นไป สธ.ตั้งเป้าหมายพัฒนางานอนามัยแม่และเด็กทั่วประเทศ พัฒนาระบบการฝากครรภ์ มีแนวทางการคัดกรองภาวะเสี่ยงระหว่างตั้งครรภ์ตามแนวทางใหม่ขององค์การอนามัยโลก ตั้งแต่การฝากครรภ์ จนกระทั่งหลังคลอด และดูแลพัฒนาการเด็กจนถึงอายุ ๖ ขวบ เรื่องที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือ ปัญหาเด็กที่คลอดมาแล้วพิการแต่กำเนิด (Birth Defects) ส่งผลกระทบต่อครอบครัวจนถึงระดับประเทศที่ต้องแบกรับภาระดูแลรักษา รวมทั้งผลกระทบทางจิตใจของผู้ที่เป็นพ่อแม่ ขณะนี้มีเด็กเกิดใหม่ที่เกิดมาพร้อมกับความพิการประมาณร้อยละ ๓-๕ ของทารกมีชีพ เช่น ปากแหว่งเพดานโหว่ กลุ่มอาการดาวน์ เป็นต้น โดยต่อปีไทยมีหญิงตั้งครรภ์ประมาณปีละ ๘๐๐,๐๐๐ คน ดังนั้น จึงประมาณการว่าจะพบเด็กแรกเกิดพิการแต่กำเนิดประมาณปีละ ๒๔,๐๐๐-๔๐,๐๐๐ คน ในขณะที่ทั่วโลกมีรายงานพบปีละกว่า ๘ ล้านคน นอกจากนี้ยังพบว่าความพิการแต่กำเนิดนี้ เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กทารกมากถึงร้อยละ ๒๐-๓๐ ถือว่าเป็นสถิติที่สูงมาก “มอบหมายให้กรมการแพทย์ กรมอนามัย กรมสุขภาพจิต บูรณาการแก้ไข ร่วมมือกับสมาคมเพื่อเด็กพิการแต่กำเนิด (ประเทศไทย) สปสช. และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง จัดทำโครงการจดทะเบียนความพิการแต่กำเนิดระดับชาติ และวางแผนการลดความเสี่ยงที่ทำให้เด็กพิการ มีข้อมูลวิชาการพบว่าสาเหตุครึ่งหนึ่งเกิดมาจากพันธุกรรม ที่เหลือมาจากสิ่งแวดล้อม เช่น ยาบางชนิด ขาดสารอาหาร โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์”รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าว การจัดระบบดังกล่าวจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลหลัก ๓ หน่วยงานได้แก่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กรมบัญชีกลาง และองค์การยูนิเซฟ นำร่องในโรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไป ๒๐ จังหวัดได้แก่ รพ.แพร่ รพ.น่าน รพ.อุตรดิตถ์ รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก รพ.เพชรบูรณ์ รพ.นครปฐม รพ.อ่างทอง รพ.ลพบุรี รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า รพ.พหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี รพ.ชลบุรี รพ.ระยอง รพ.พุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา รพ.สกลนคร รพ.หนองคาย รพ.สุรินทร์ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี รพ.ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร รพ.ระนอง และ รพ.ยะลา นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า จะมีการจัดทำคู่มือแนวทางการวินิจฉัยความพิการแต่กำเนิดให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เมื่อมีระบบการขึ้นทะเบียนรวบรวมข้อมูลความพิการแต่กำเนิด เด็กจะได้รับการวินิจฉัยโดยผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ ๑ ปี ซึ่งร้อยละ ๙๕ ของความพิการแต่กำเนิดชนิดรุนแรง สามารถตรวจพบได้ภายในระยะเวลา ๑ ปีหลังคลอด นำไปสู่มาตรการป้องกันและดูแลรักษาฟื้นฟูความพิการแต่กำเนิดในไทยอย่างเป็น ระบบ โดยให้ อสม.ทั่วประเทศรณรงค์ให้หญิงตั้งครรภ์ฝากครรภ์ก่อนอายุครรภ์ ๑๒ สัปดาห์ เพื่อประเมินความเสี่ยงว่าเป็นการตั้งครรภ์ปกติหรือมีความเสี่ยง หากมีความเสี่ยงต้องได้รับการช่วยเหลือและรับความรู้ตามมาตรฐานโรงเรียนพ่อ แม่ ข้อมูลโครงการโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว กรมอนามัย ในปี ๒๕๕๕ มีรายงานหญิงตั้งครรภ์รายใหม่ ฝากครรภ์ครั้งแรกเมื่ออายุครรภ์ก่อน ๑๒ สัปดาห์ร้อยละ ๔๒ คลอดในโรงพยาบาลร้อยละ ๑๐๐ ส่วนใหญ่คลอดปกติ โดยมีหญิงคลอดบุตรอายุน้อยกว่า ๒๐ ปีร้อยละ ๑๙ ทารกแรกเกิดมีน้ำหนักตัวน้อยกว่า ๒,๕๐๐ กรัมร้อยละ ๘ พบเด็กตายตั้งแต่อยู่ในครรภ์ร้อยละ ๗ (สำนักข่าวไทย ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๖ ก.พ.๕๖)

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...