ช็อปไอเดียช่วยเหลือสังคม เริ่มต้นทำสิ่งดี ๆ รับปีใหม่ไทย
ความสุขสวัสดีในการเริ่มต้นปีใหม่แบบฉบับไทย ๆ มักเริ่มต้นสิ่งใหม่ด้วยการทำบุญตักบาตร เสริมสิริมงคล นอกเหนือจากการเข้าวัดทำบุญทำทาน ยังมีอีกทางเลือกที่จะช่วยส่งเสริมให้คนในสังคมได้มีความสุขไปด้วยกันคือการ แบ่งปัน หรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อส่วนรวม ช่วงสงกรานต์หรือปีใหม่ไทยจึงรวบรวมไอเดียให้ผู้สนใจได้ร่วมดูแลสังคมด้วยโครงการต่างๆ ตามความสะดวกและความพร้อมของแต่ละคน
เติมโอกาสเด็กไทย - กิจกรรม เพื่อสังคมของบรรดาองค์กรต่าง ๆ เกือบทุกแห่งให้ความสำคัญกับการศึกษา เนื่องด้วยในสังคมยังมีเด็ก ๆ ที่ขาดโอกาสอยู่มากมาย และบริษัทเหล่านี้ต่างเล็งเห็นถึงความสำคัญของอนาคตของชาติ ประเทศไทยจะเดินไปอย่างไรต้องมีเด็ก ๆ เป็นผู้ขับเคลื่อนประเทศและสังคมในวันข้างหน้า ทั้งเด็กเหล่านี้อาจจะเป็นลูกค้าหรือเข้ามามีส่วนร่วมในฐานะพนักงานของ องค์กรในอนาคต องค์กรเอ็นจีโอระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับเด็กอย่าง องค์การยูนิเซฟ จึงเป็นที่หมายตาขององค์กรธุรกิจที่ต้องการทำกิจกรรมเพื่อสังคมและเข้าไป เป็นพาร์ตเนอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแสนสิริ อิเกีย ฯลฯ และยังมีระบบออกใบเสร็จเพื่อนำไปลดหย่อนภาษี จากความใจบุญของคนไทย ทำให้เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา องค์การยูนิเซฟในประเทศไทยสามารถหาทุนในการบริหารงานได้เองโดยไม่ต้องรับ เงินจากสหประชาชาติ ในส่วนขององค์กรที่ดูแลเด็กอื่น ๆ มีหลายแห่งที่ต้องการได้รับกำลังใจในการการทำงานต่อจากสังคม ซึ่งมีความสามารถในการเข้าถึงพื้นที่ได้มากกว่าองค์กรขนาดใหญ่ อย่างเช่น มูลนิธิศุภนิมิตร ที่นอกจากช่วยเหลือเด็กแล้ว ยังมีช่วยให้เกิด กระบวนการสร้างชุมชนยั่งยืน, มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก คอยให้ความช่วยเหลือ คุ้มครองเด็กที่ถูกกระทำทารุณ อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 18 ปี, มูลนิธิเพื่อการฟื้นฟูเด็กและครอบครัว ให้การดูแลเด็กด้อยโอกาส กำพร้า พิการ ติดเชื้อเอชไอวี เด็กในชุมชนแออัด ผู้สนใจสามารถช่วยเหลือโดยอนุเคราะห์เด็กด้วยการบริจาค30บาทต่อวัน
มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก มีกลุ่มเป้าหมายดูแลเด็กยากจนในชนบท แรงงานเด็ก เด็กพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม สามารถช่วยเหลือได้ตั้งแต่การแจ้งเหตุ เป็นอาสาสมัครแบ่งปันความรู้ และสนับสนุนทุนการศึกษา, มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ ให้การสนับสนุนในการเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์ สร้างอาชีพ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือมูลนิธิสิกขาเอเซีย ที่ให้การช่วยเหลือนักเรียนยากจนและเด็กในชุมชนแออัด และเด็กกัมพูชา-ไทยตามแนวตะเข็บชายแดนหรือที่นิยมไปช่วยเหลือกันอย่างง่ายจบ ภายใน 1 วัน อย่างบ้านครูน้อย สถานสงเคราะห์เด็กทั่วไป
ให้แรงกายด้วยจิตอาสา - กิจกรรมจิตอาสาเป็นอีกงานซีเอสอาร์ที่องค์กรธุรกิจพยายามผลักดันให้พนักงานออกไปทำ โดยมีหลายบริษัทที่ให้ทุนสนับสนุนในการออกไปทำกิจกรรม หรืออย่างน้อยก็ยอมให้ใช้วันทำงานโดยไม่ถือเป็นวันลา โดยเฉพาะช่วงฟื้นฟูหลังน้ำท่วม พนักงานต่างพากันไปช่วยทำความสะอาดโรงเรียน วัด หรือชุมชนใกล้ ๆ ที่ธุรกิจตั้งอยู่ ซึ่งผู้บริหารหลายบริษัท ต่างพูดถึงประโยชน์ในการทำจิตอาสาของพนักงานเกือบเป็นเสียงเดียวกันว่า หลังจากที่พนักงานออกไปทำกิจกรรมจิตอาสา ทำให้เกิดมิตรภาพระหว่างเพื่อนร่วมงาน เกิดความภาคภูมิใจที่ตัวเองมีส่วนช่วยเหลือผู้อื่น และบางครั้งยังได้ข้อคิดดี ๆ กลับมาเป็นกำลังใจในการทำงานอีกด้วย
กิจกรรมจิตอาสาที่ยกตัวอย่างมา เช่น การเข้าอบรมเพื่อร่วมเป็นอาสายุวกาชาด ทำงานช่วยเหลือได้ใน 4 ด้าน ได้แก่ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ บรรเทาสาธารณภัย ทูตทางสังคม และนักเปิดทาง, เข้าทำงานกับกลุ่ม ซ. โซ่อาสา ที่เป็นการทำงานของกลุ่มคนเล็ก ๆ ที่ทำงานหรือเรียนในวันจันทร์-ศุกร์ และสละเวลาว่างมาช่วยสอนหนังสือให้กับเด็กเร่ร่อนบริเวณใต้สะพาน ชุมชนแออัดและเด็กเร่ร่อนตามสวนสาธารณะ หรือจะไปช่วยอ่านหนังสือเสียงให้คนตาบอด ที่ร้านหนังสือบีทูเอส เมื่อมีเวลาว่างเรื่องของจิตอาสายังหมายรวมไปถึงการบริจาคเลือดที่ สภา กาชาดไทย หรือบางองค์กรสภากาชาดไทยยินดีเข้าไปรับบริจาคถึงบริษัททุก ๆ 3 เดือน อย่างเช่น บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต, บมจ.มติชน ฯลฯ
รักษ์โลก โลกรักเรา - ท่ามกลางภัยพิบัติธรรมชาติ ความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลก สิ่งแวดล้อมทรัพยากรถูกทำลายและเหลือน้อยลงทุกที ภาคธุรกิจต่างหันมาประหยัดพลังงานและทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตเพื่อลดต้นทุน และความยั่งยืนของธุรกิจ ขณะเดียวกันยังสร้างจิตสำนึกให้คนในองค์กรนำแนวคิดกลับไปใช้ที่บ้าน หรือการต่อยอดการสร้างสังคมสีเขียวไปถึงคู่ค้าและผลิตภัณฑ์ การช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมตามกำลัง ทำง่าย ๆ จึงอาจไม่ต้องถึงกับหาเวลาวันหยุดแล้วมุ่งตรงไปปลูกป่า แต่สามารถเริ่มทำได้ในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้น้ำ-ไฟเท่าที่จำเป็น รวมไปถึงการลดใช้ถุงพลาสติก ส่วนจะเป็นลักษณะใดนั้น ตามแต่ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคน หรือจะเป็นการเลือกอุดหนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการดูฉลากเขียว ฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ รวมถึงการแยกขยะ และแกะ-ล้าง-เก็บกล่องนมหย่อนลงกล่องที่สาขาของบิ๊กซี เพื่อนำไปรีไซเคิลเป็นหลังคาและโต๊ะเรียนให้แก่เด็ก หรือหากเดินทาง ไปท่องเที่ยว ก็ให้พกหัวใจของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ไม่เก็บเกี่ยวความงามของธรรมชาติกลับบ้านมาด้วย นอกจากความทรงจำและรูปถ่าย หากมีขยะให้เก็บมาทิ้งในถังที่จัดไว้ และเดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะ ขี่จักรยาน เดินออกกำลังกายแทนการใช้รถ แต่หากต้องการช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมแบบตรงเป้าหมาย ติดต่อได้ที่มูลนิธิโลกสีเขียว, มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ฯลฯ ทั้งหมดทุกคนสามารถร่วมด้วยช่วยกันได้ตามแรงกำลังของหัวใจ ไม่ต้องอาศัยแรงศรัทธา
ขอบคุณ… http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1366009177&grpid=03&catid=17&subcatid=1701
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ตัวแทนจาก unicef เข้าพูดคุยกับกลุ่มนักเรียนวัยประถม ความสุขสวัสดีในการเริ่มต้นปีใหม่แบบฉบับไทย ๆ มักเริ่มต้นสิ่งใหม่ด้วยการทำบุญตักบาตร เสริมสิริมงคล นอกเหนือจากการเข้าวัดทำบุญทำทาน ยังมีอีกทางเลือกที่จะช่วยส่งเสริมให้คนในสังคมได้มีความสุขไปด้วยกันคือการ แบ่งปัน หรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อส่วนรวม ช่วงสงกรานต์หรือปีใหม่ไทยจึงรวบรวมไอเดียให้ผู้สนใจได้ร่วมดูแลสังคมด้วยโครงการต่างๆ ตามความสะดวกและความพร้อมของแต่ละคน เติมโอกาสเด็กไทย - กิจกรรม เพื่อสังคมของบรรดาองค์กรต่าง ๆ เกือบทุกแห่งให้ความสำคัญกับการศึกษา เนื่องด้วยในสังคมยังมีเด็ก ๆ ที่ขาดโอกาสอยู่มากมาย และบริษัทเหล่านี้ต่างเล็งเห็นถึงความสำคัญของอนาคตของชาติ ประเทศไทยจะเดินไปอย่างไรต้องมีเด็ก ๆ เป็นผู้ขับเคลื่อนประเทศและสังคมในวันข้างหน้า ทั้งเด็กเหล่านี้อาจจะเป็นลูกค้าหรือเข้ามามีส่วนร่วมในฐานะพนักงานของ องค์กรในอนาคต องค์กรเอ็นจีโอระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับเด็กอย่าง องค์การยูนิเซฟ จึงเป็นที่หมายตาขององค์กรธุรกิจที่ต้องการทำกิจกรรมเพื่อสังคมและเข้าไป เป็นพาร์ตเนอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแสนสิริ อิเกีย ฯลฯ และยังมีระบบออกใบเสร็จเพื่อนำไปลดหย่อนภาษี จากความใจบุญของคนไทย ทำให้เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา องค์การยูนิเซฟในประเทศไทยสามารถหาทุนในการบริหารงานได้เองโดยไม่ต้องรับ เงินจากสหประชาชาติ ในส่วนขององค์กรที่ดูแลเด็กอื่น ๆ มีหลายแห่งที่ต้องการได้รับกำลังใจในการการทำงานต่อจากสังคม ซึ่งมีความสามารถในการเข้าถึงพื้นที่ได้มากกว่าองค์กรขนาดใหญ่ อย่างเช่น มูลนิธิศุภนิมิตร ที่นอกจากช่วยเหลือเด็กแล้ว ยังมีช่วยให้เกิด กระบวนการสร้างชุมชนยั่งยืน, มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก คอยให้ความช่วยเหลือ คุ้มครองเด็กที่ถูกกระทำทารุณ อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 18 ปี, มูลนิธิเพื่อการฟื้นฟูเด็กและครอบครัว ให้การดูแลเด็กด้อยโอกาส กำพร้า พิการ ติดเชื้อเอชไอวี เด็กในชุมชนแออัด ผู้สนใจสามารถช่วยเหลือโดยอนุเคราะห์เด็กด้วยการบริจาค30บาทต่อวัน มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก มีกลุ่มเป้าหมายดูแลเด็กยากจนในชนบท แรงงานเด็ก เด็กพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม สามารถช่วยเหลือได้ตั้งแต่การแจ้งเหตุ เป็นอาสาสมัครแบ่งปันความรู้ และสนับสนุนทุนการศึกษา, มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ ให้การสนับสนุนในการเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์ สร้างอาชีพ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือมูลนิธิสิกขาเอเซีย ที่ให้การช่วยเหลือนักเรียนยากจนและเด็กในชุมชนแออัด และเด็กกัมพูชา-ไทยตามแนวตะเข็บชายแดนหรือที่นิยมไปช่วยเหลือกันอย่างง่ายจบ ภายใน 1 วัน อย่างบ้านครูน้อย สถานสงเคราะห์เด็กทั่วไป ให้แรงกายด้วยจิตอาสา - กิจกรรมจิตอาสาเป็นอีกงานซีเอสอาร์ที่องค์กรธุรกิจพยายามผลักดันให้พนักงานออกไปทำ โดยมีหลายบริษัทที่ให้ทุนสนับสนุนในการออกไปทำกิจกรรม หรืออย่างน้อยก็ยอมให้ใช้วันทำงานโดยไม่ถือเป็นวันลา โดยเฉพาะช่วงฟื้นฟูหลังน้ำท่วม พนักงานต่างพากันไปช่วยทำความสะอาดโรงเรียน วัด หรือชุมชนใกล้ ๆ ที่ธุรกิจตั้งอยู่ ซึ่งผู้บริหารหลายบริษัท ต่างพูดถึงประโยชน์ในการทำจิตอาสาของพนักงานเกือบเป็นเสียงเดียวกันว่า หลังจากที่พนักงานออกไปทำกิจกรรมจิตอาสา ทำให้เกิดมิตรภาพระหว่างเพื่อนร่วมงาน เกิดความภาคภูมิใจที่ตัวเองมีส่วนช่วยเหลือผู้อื่น และบางครั้งยังได้ข้อคิดดี ๆ กลับมาเป็นกำลังใจในการทำงานอีกด้วย กิจกรรมจิตอาสาที่ยกตัวอย่างมา เช่น การเข้าอบรมเพื่อร่วมเป็นอาสายุวกาชาด ทำงานช่วยเหลือได้ใน 4 ด้าน ได้แก่ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ บรรเทาสาธารณภัย ทูตทางสังคม และนักเปิดทาง, เข้าทำงานกับกลุ่ม ซ. โซ่อาสา ที่เป็นการทำงานของกลุ่มคนเล็ก ๆ ที่ทำงานหรือเรียนในวันจันทร์-ศุกร์ และสละเวลาว่างมาช่วยสอนหนังสือให้กับเด็กเร่ร่อนบริเวณใต้สะพาน ชุมชนแออัดและเด็กเร่ร่อนตามสวนสาธารณะ หรือจะไปช่วยอ่านหนังสือเสียงให้คนตาบอด ที่ร้านหนังสือบีทูเอส เมื่อมีเวลาว่างเรื่องของจิตอาสายังหมายรวมไปถึงการบริจาคเลือดที่ สภา กาชาดไทย หรือบางองค์กรสภากาชาดไทยยินดีเข้าไปรับบริจาคถึงบริษัททุก ๆ 3 เดือน อย่างเช่น บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต, บมจ.มติชน ฯลฯ รักษ์โลก โลกรักเรา - ท่ามกลางภัยพิบัติธรรมชาติ ความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลก สิ่งแวดล้อมทรัพยากรถูกทำลายและเหลือน้อยลงทุกที ภาคธุรกิจต่างหันมาประหยัดพลังงานและทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตเพื่อลดต้นทุน และความยั่งยืนของธุรกิจ ขณะเดียวกันยังสร้างจิตสำนึกให้คนในองค์กรนำแนวคิดกลับไปใช้ที่บ้าน หรือการต่อยอดการสร้างสังคมสีเขียวไปถึงคู่ค้าและผลิตภัณฑ์ การช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมตามกำลัง ทำง่าย ๆ จึงอาจไม่ต้องถึงกับหาเวลาวันหยุดแล้วมุ่งตรงไปปลูกป่า แต่สามารถเริ่มทำได้ในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้น้ำ-ไฟเท่าที่จำเป็น รวมไปถึงการลดใช้ถุงพลาสติก ส่วนจะเป็นลักษณะใดนั้น ตามแต่ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคน หรือจะเป็นการเลือกอุดหนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการดูฉลากเขียว ฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ รวมถึงการแยกขยะ และแกะ-ล้าง-เก็บกล่องนมหย่อนลงกล่องที่สาขาของบิ๊กซี เพื่อนำไปรีไซเคิลเป็นหลังคาและโต๊ะเรียนให้แก่เด็ก หรือหากเดินทาง ไปท่องเที่ยว ก็ให้พกหัวใจของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ไม่เก็บเกี่ยวความงามของธรรมชาติกลับบ้านมาด้วย นอกจากความทรงจำและรูปถ่าย หากมีขยะให้เก็บมาทิ้งในถังที่จัดไว้ และเดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะ ขี่จักรยาน เดินออกกำลังกายแทนการใช้รถ แต่หากต้องการช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมแบบตรงเป้าหมาย ติดต่อได้ที่มูลนิธิโลกสีเขียว, มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ฯลฯ ทั้งหมดทุกคนสามารถร่วมด้วยช่วยกันได้ตามแรงกำลังของหัวใจ ไม่ต้องอาศัยแรงศรัทธา ขอบคุณ… http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1366009177&grpid=03&catid=17&subcatid=1701
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)